จุฬาราชมนตรี ออกประกาศพร้อมแนวทางปฏิบัติป้องโควิด-19 หลังมีการผ่อนปรนให้ละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิดได้ กำชับดำเนินการตามมาตรการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี ลงนามใน ประกาศจุฬาราชมนตรี เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่าด้วย การผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) และแนวทางปฏิบัติ (ฉบับที่ 5/2563) ลงวันที่ 3 พ.ค. 2563
มาตรการ คือ ให้คณะกรรมการอิสลามประจําจังหวัดใช้ดุลยพินิจร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจํามัสยิด โดยขอคําปรึกษาจากผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและผู้กํากับการ บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัด ในการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) เพื่อให้เป็นไปตามประกาศจุฬาราชมนตรี ฉบับนี้ และมาตรการหรือคําแนะนําของทางราชการเกี่ยวกับการป้องกันโรค
แนวทางการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) มีดังนี้
สําหรับมัสยิด
1. ให้กรรมการอิสลามประจํามัสยิด หรือหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่มาตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้ามัสยิด
2. ให้จัดวางเจลล้างมือแอลกอฮอล์ไว้บริเวณประตูทางเข้ามัสยิด
3. งดใช้บ่อน้ํา (กอเลาะห์) หรืออ่างใหญ่ร่วมกัน
4. ให้ทําความสะอาดพื้นมัสยิดก่อนและหลังการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) ทุกครั้ง และไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ โดยให้เปิดหน้าต่างมัสยิด ผ้าม่าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
5. ให้จัดทําเครื่องหมายจุดละหมาดที่สามารถระบุตําแหน่งได้ โดยให้เว้นระยะห่างระหว่างแต่ละจุด 1.50 - 2 เมตร
6. ให้ควบคุมทางเข้าออกมัสยิด และจัดระเบียบระยะห่างขณะเดินเข้าและเดินออกจากมัสยิดหลังเสร็จสิ้นการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์)
...
สําหรับผู้เข้าร่วมปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์)
1. ให้อาบน้ําละหมาดจากที่บ้าน
2. ให้ใช้ผ้าปูละหมาด (ผ้าซะญาดะห์) ส่วนตัว โดยนํามาจากบ้าน
3. ให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่มัสยิดจัดเตรียมไว้
4. ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติศาสนกิจ
5. งดการสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอด และการสัมผัสแก้ม โดยให้ยกมือพร้อมกล่าวสลามเท่านั้น
6. เด็กและสตรีให้งดการร่วมละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) ที่มัสยิด
7. หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ํามูก แม้จะมีอาการไม่มาก ให้งดการไปร่วมละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด
การปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์)
1. ให้เว้นระยะห่างระหว่างแถวและในแถว 1.50 - 2 เมตร และให้ยืนตามจุดที่มัสยิดได้จัดทําเครื่องหมายไว้
2. ให้กระชับเวลาในการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) นับตั้งแต่อะซาน คุตบะห์ และละหมาด ไม่เกิน 20 นาที
ทั้งนี้ ยังคงให้งดการจัดกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมอื่นที่มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่ม ทุกประเภท ตลอดจนการเลี้ยงละศีลอด ซึ่งการกําหนดมาตรการและแนวทางปฏิบัติดังกล่าวข้างต้น เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์และเป็นไปตามบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม โดยมีเจตนารมณ์ตั้งมั่นในการรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตมนุษย์และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับสังคมทุกภาคส่วน จึงขอความร่วมมือมายังประธานกรรมการอิสลามประจําจังหวัดทุกจังหวัดได้แจ้งไปยังอิหม่ามทุกมัสยิดในสังกัดให้ปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ตามประกาศจุฬาราชมนตรีต่อไป.