ติดลม-ฝ่าเคอร์ฟิว นอภ.จับแพอาหาร ยอมให้ลูกค้านั่งก๊ง

เจ้าหน้าที่ยังคงกวดขันจับกุมพวกไม่กลัวประกาศเคอร์ฟิว ล่าสุดโฆษก ศบค.แถลงยอดผู้ฝ่าฝืนออกนอกเคหสถาน 554 ราย มั่วสุม 107 ราย เผยจับกลุ่มเล่นพนันครองแชมป์ รองลงมาดื่มสุราและยาเสพติด ที่กาฬสินธุ์ฝ่ายปกครองสั่งปิดแพอาหารริมเขื่อนลำปาว ลักไก่ให้ลูกค้านั่งซดเบียร์ในช่วงมาตรการผ่อนปรน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ส่วนที่อ่างทอง 3 หนุ่มไปนั่งดื่มเหล้าบ้านเพื่อนเพลินเลยเวลาเส้นตายขากลับโดนจับคาด่าน

ประชาชนยังคงฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 3 พ.ค. นายตระกูล หนูนิล นายอำเภอสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตรวจสอบแพร้านอาหารบริเวณท่าแพ สะพานเทพสุดา เขื่อนลำปาว ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ หลังรับรายงานว่า มีการเปิดให้ลูกค้านั่งดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน เป็นการฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ในช่วงของการระบาดโรคไวรัสโควิด-19 ตรวจสอบแพอาหาร 4 ร้านพบลูกค้านั่งดื่มเหล้าและเบียร์ เจ้าหน้าที่บอกให้ลูกค้าเช็กบิลออกจากร้านและสั่งปิดแพทุกร้านทันที

นายตระกูลเปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลมีมาตรการผ่อนคลายข้อกำหนดให้ดำเนินการหรือกิจกรรมบางอย่างได้ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต การจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มให้ซื้อกลับบ้าน หรือหากเปิดให้บริการในร้านต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ส่วนร้านอาหารหรือเครื่องดื่มที่จำหน่ายสุราให้เปิดได้ แต่ห้ามดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน แพอาหารทั้ง 4 ร้านได้เปิดบริการให้ลูกค้านั่งทานอาหารที่แพ และตรวจสอบพบว่ามีการดื่มสุราภายในแพจริง จึงสั่งปิดแพทั้งหมดและให้ลูกค้าออกจากร้าน และจะรายงานให้ ผวจ.กาฬสินธุ์รับทราบเพื่อดำเนินการต่อไป

...

ที่ จ.เชียงใหม่ ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.สมศักดิ์ หอมยศ รอง ผกก.ป.สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ร่วมกับ พ.ต.ท.สมสิทธิ์ เตชะอุด สวป. และ ร.ต.อ.ไพศาล กามี รอง สวป. นำกำลังร่วมกับ ฝ่ายปกครองตั้งจุดตรวจที่หน้าตู้ยามตำรวจสี่แยกไฟแดงบ้านบ่อสร้าง ถนนสายวัฒนธรรมสันกำแพง-เชียงใหม่ หมู่ 3 ต.ต้นเปา อ.สันกำแพง พบวัยรุ่นชาย 3 คนเดินผ่านตู้ยามฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิวที่ห้ามออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตทราบชื่อนายออซียา นายทูนแสง และนายกาน ทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวพม่า อ้างว่าไม่รู้กฎหมายไทย จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

ด้านนายนิรัตน์กล่าวว่า ในช่วงการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและประกาศเคอร์ฟิว มีผู้จงใจกระทำผิด เพราะมีนัยแอบแฝง เช่น การค้ายาเสพติด เจ้าหน้าที่ได้ตั้งด่านป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดฉวยโอกาสในช่วงนี้ เพราะเป็นนโยบายรัฐบาลที่ต้องคุมเข้มการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 รวมถึง ยาเสพติด ล่าสุดตำรวจและฝ่ายปกครองร่วมกันจับผู้ต้องหากระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและยาบ้าได้เกือบ 1 แสนเม็ด

ส่วนที่ จ.สระแก้ว พ.ต.ท.ภูมิสิษฐ์ ตั้งวิทย์เดชา รอง ผกก.ป.สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ ประสาน พ.ต.ชาญ ว่องไวเมธี ผบ.ร้อยทหารพรานที่ 1201 และ พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผกก.ตม.จ.สระแก้ว นำกำลังออกลาดตระเวนตามช่องทางธรรมชาติบริเวณถนนศรีเพ็ญ เลียบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หน้าทางเข้าตลาดโรงเกลือพบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชายหญิงเดินลัดเลาะข้างตลาดมุ่งหน้าจะออกไปฝั่งกัมพูชา ก่อนจับกุมได้ 12 คน เป็นชาย 5 คนและหญิง 7 คน นำตัวมาสอบสวนที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 อ.อรัญประเทศ เพราะการลักลอบเดินทางเข้าออกทางช่องทางธรรมชาติ อาจเสี่ยงต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19

สอบสวนชาวกัมพูชาทั้ง 12 คนอ้างว่าเป็นแรงงานภาคเกษตรเดินทางเข้ามารับจ้างทำงานตัดอ้อย เกี่ยวข้าว และทำสวนในพื้นที่ จ.สระแก้ว ช่วงที่ผ่านมาติดสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ชายแดน จ.สระแก้ว และด่านพรมแดนคลองลึกถูกสั่งปิด ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศกัมพูชาได้ ต้องอาศัยหลับนอนอยู่ในพื้นที่เกษตรกว่า 1 เดือน ต่อมาทราบว่ารัฐบาลไทยต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้ชายแดนและด่านพรมแดนอรัญประเทศต้องปิดต่ออีก 1 เดือน กลัวอดตายเพราะไม่มีงานทำ ตัดสินใจลอบหนีกลับประเทศกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติ หลังสอบปากคำเจ้าหน้าที่นำตัวไปทำประวัติ ก่อนประสานหน่วยงานด้านความมั่นคงของกัมพูชานำแรงงานกัมพูชาทั้งหมดกลับประเทศ

ที่อ่างทอง นายฉัตรชัย เย็นทรวง ปลัดอำเภอป่าโมก นำเจ้าหน้าที่ อส.ร่วมกับตำรวจ สภ.ป่าโมก ตั้งจุดตรวจผู้ฝ่าฝืนประกาศเคอร์ฟิว บริเวณถนนปากท่อ หมู่ 3 ต.ป่าโมก พบนายศิริชัย ประภาภรณ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124/ค หมู่ 3 ต.ป่าโมก อ.ป่าโมก และนายปรเมษฐ์ กลางหน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 11 ต.หนองบอน อ.เมืองสระแก้ว ขี่รถ จยย.ผ่านมา ตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย สอบถามทั้งคู่ยอมรับว่าออกไปตั้งวงเหล้าดื่มที่บ้านเพื่อน แต่นั่งติดลมยันดึก จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ป่าโมก ดำเนินคดี

...

ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 11.30 น. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า ผลการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงในช่วงเคอร์ฟิวคืนวันที่ 2 พ.ค. ต่อเนื่องเช้าวันที่ 3 พ.ค. มีผู้ฝ่าฝืนชุมนุมมั่วสุม 107 ราย เพิ่มขึ้นจากคืนก่อน 32 ราย เป็นการเล่นการพนันมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือดื่มสุราและยาเสพติด ออกนอกเคหสถาน 554 ราย เพิ่มขึ้นจากคืนก่อน 4 ราย จึงขอให้ลดการกระทำต่างๆเหล่านี้เพื่อให้เรามีพื้นที่ปลอดภัยทั้งประเทศ