คนที่เป็นตัวแทนของผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสายด่วน 1669 ของสำนักการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ. แชร์เรื่องราวเมื่อวันที่ 12 เม.ย. เวลา 22.30 น. บอกว่า พ่อของน้องคนหนึ่งได้มีอาการทรุดลง และได้โทร.เข้ามาที่สายด่วน 1669 สายมาติดที่ศูนย์กู้ชีพปทุมธานี ขอให้จัดส่งรถเจ้าหน้าที่นำพ่อที่ป่วยหนักส่งโรงพยาบาล
ทางศูนย์กู้ชีพปทุมธานีได้ปฏิเสธการจัดส่งรถพยาบาลมาให้ความช่วยเหลือผู้ป่วย
และใช้น้ำเสียงที่ไม่ดี
บอกว่า วันนั้นโชคยังดีที่ยังสามารถประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขอรถของหน่วยกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือ นำพ่อของน้องส่งโรงพยาบาลได้ในเวลาถัดมา น้องคนที่ขอความช่วยเหลือบอกว่า เชื่อว่าหลายๆคนมีดวงใจและลมหายใจที่ใช้ร่วมกันไม่กี่คนในชีวิต ที่รักและห่วงผู้ชายคนนี้จนสุดใจ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พ่อกับแม่ ต้องมาก่อนเสมอ
คืนนี้ไม่ใช่คืนแรกที่ต้องเจอนาทีฉุกเฉินของพ่อ เราต้องพร้อมรับมืออยู่เสมอในทุกๆวินาที แต่บางสิ่งบางอย่างก็ยังขัดต่อความเป็นจริงเรื่อยๆ
เราพยายามใจเย็น ใช้สมอง มีสติ แต่ก็ไม่ได้ผล ยิ่งมาถึงวันนี้ สถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ การเคลื่อนย้ายพ่อลำบากมากขึ้น และพ่อไม่สามารถเดิน หรือลุก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว
ทุกอย่างเลยหนักไปอีก
คำว่า ไม่สามารถเคลื่อนย้ายเองได้ คือผู้ติดเตียง ยิ่งตอนนี้ประกาศเคอร์ฟิวอีก ณ วันนี้ 1669 เจ็บป่วยฉุกเฉิน ไม่สามารถช่วยพ่อได้จริงๆ
บอกว่า วันนั้นทาง 1669 บอกว่า ไม่มารับ ถ้าไม่ใช่ เคสใกล้ตาย เราอธิบายสาเหตุและเหตุผลไป พ่อเคยชักจะตาย ธาตุไฟแตกมาแล้ว เพราะติดเชื้อทางกระเพาะปัสสาวะลามลงในกระแสเลือด และถ้าพ่อจะตายหรือจากไปแบบปกติ คงไม่เอาไป รพ.หรอก คุยกับแม่แล้วว่า จะให้พ่อไปอย่างสงบที่บ้านของพ่อ ไม่รบกวนใครๆ
...
แต่คำว่า เคสฉุกเฉินของ 1669 คือ เคสที่ใกล้ตาย นี่คือ คำพูดที่ตอบกลับมา ฝากไว้ให้คิดว่า เรื่องนี้สมควรแล้วใช่ไหม ขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่เปิดทาง และอำนวยความสะดวกให้พ่อและขอบคุณทุกๆกำลังใจที่ส่งมา 1669 เจ็บป่วยฉุกเฉินไม่มีอยู่จริง
ขอฝากช่วยเป็นกระบอกเสียงอีกทางให้ช่วยแก้ไขเรื่องแบบนี้ ไม่เช่นนั้นแล้ว หากเป็นผู้ที่ยากจน
ไม่รู้จะได้รับการช่วยเหลืออย่างไร.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th