ผลสำรวจ ชี้ งดสงกรานต์ ผู้นำชุมชนพร้อมเฝ้าระวังโควิด-19 ระบาด ทราบ "แอลกอฮอล์-บุหรี่" ทำลายภูมิต้านทาน ทำให้ป่วย-เสียชีวิตมากขึ้น เกินครึ่งหนุนมาตรการห้ามขายสุรา ช่วงสงกรานต์ 

วันที่ 11 เม.ย. ดร.สุริยัน บุญแท้ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย ศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาสังคมและธุรกิจ (SAB) เปิดเผยว่า SAB ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) และ สสส. ได้ดำเนินการสำรวจ ตามโครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในเทศกาลสงกรานต์ รู้เท่าทัน เสริมภูมิคุ้มกัน ป้องกันภัยโควิด-19 โดยสำรวจผู้นำชุมชน ประกอบด้วย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อปท. และ รพ.สต. ในพื้นที่ 15 จังหวัด กระจายครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการโทรศัพท์สัมภาษณ์ ระหว่างวันที่ 1-6 เมษายน ที่ผ่านมา จำนวน 740 ตัวอย่าง เบื้องต้น พบผลเป็นที่น่าพอใจ เมื่อผู้นำชุมชนเกือบทั้งหมด ทราบดีว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงการสูบบุหรี่ จะทำให้เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกทั้งยังทำลายภูมิต้านทานของร่างกาย ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย และอาจป่วยรุนแรงได้ สอดคล้องกับที่พบว่า เกือบร้อยละ 90 ระบุมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ด้วยการรณรงค์ งดดื่ม งดสูบ รวมถึงงดขายเหล้าและบุหรี่ในพื้นที่

ดร.สุริยัน กล่าวว่า การงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น มีความเสี่ยงสูงสำหรับผู้ที่ติดสุรา ซึ่งจำเป็นต้องดื่ม โดยผลสำรวจในครั้งนี้พบเพียงร้อยละ 27.3 หรือประมาณ 1 ใน 4 เท่านั้นที่มีมาตรการช่วยเหลือผู้ติดสุราจริงจัง ด้วยการให้ อสม. / รพ.สต. มาช่วยดูแล หรือส่งเข้ารับการบำบัด จึงค่อนข้างน่ากังวลหากไม่มีมาตรการดูแลผู้ติดสุรา ทั้งในระยะสั้น และระยะยาวจึงขอให้ภาครัฐให้มีมาตรการคัดกรอง ช่วยเหลือผู้ติดสุราด้วย

...

ผู้จัดการฝ่ายวิจัย SAB กล่าวถึงผลสำรวจต่อไปว่า กลุ่มตัวอย่างผู้นำชุมชนส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 80 ให้ข้อมูลว่าประชาชนในพื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม งดดื่มเหล้า และงดสูบบุหรี่ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดโควิด 19 โดยการงดดื่มจะพบเห็นได้มากกว่าการงดสูบอย่างชัดเจน สำหรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ตัวอย่างประมาณ 2 ใน 3 หรือร้อยละ 65.4 ระบุว่าในพื้นที่จะมีมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เข้มข้นมากขึ้น ทั้งห้ามดื่ม ห้ามขาย แต่ก็มีไม่น้อยคิดเป็นร้อยละ 29.7 ที่ไม่มีมาตรการใดเป็นพิเศษ นอกจากนั้น กลุ่มตัวอย่าง ยังมีข้อเสนอให้ศูนย์บริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ศบค. มีมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงสงกรานต์ ร้อยละ 54.9 เพื่อสนับสนุนการทำงานในระดับชุมชน

ด้านนายธีระ วัชรปราณี ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า เมื่อการจัดพื้นที่เล่นน้ำถูกยกเลิกไปแล้ว ควรส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์มาทดแทน ในรูปแบบที่ยังคงรักษาประเพณี เชื่อมคนในครอบครัวได้ โดยจัดกิจกรรมเล็กๆ ในครอบครัวให้มีระยะห่าง งดการเดินทางไปไหว้พระตามวัด งดจัดกิจกรรมที่วัดที่ต้องรวมคน ตัวอย่างกิจกรรมที่สามารถทำได้ เช่น สรงน้ำพระในบ้าน การขอพรผู้สูงอายุ/ พ่อแม่โดยผ่านออนไลน์ ทำบุญแบบออนไลน์ เพื่อรักษาไว้ซึ่งประเพณีไทยที่ดีงาม และมีความปลอดภัย ตลอดจนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพทั้งกาย และใจ ให้กำลังใจ อวยพร กันและกัน อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในช่วงประเพณีสงกรานต์ในสถานการณ์ที่เราต้องร่วมมือกันควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสครั้งนี้