การค้ายาเสพติดในโซเชียล ไม่มีกฎหมายเฉพาะในการลงโทษ กำลังเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยม เพราะเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดรายใหม่ได้ง่าย ยากแก่การเฝ้าระวัง เจ้าหน้าที่หาพยานหลักฐานได้ยาก การแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มโทษเพียงอย่างเดียว ไม่เกิดผลในการป้องปราม
ควรใช้ควบคู่กับบทสันนิษฐาน และวิธีการล่อซื้อเพื่อแก้ปัญหาการขาดพยานหลักฐาน และการสืบสวนผ่านโซเชียลและระบบโลจิสติกส์ ที่ใช้ซื้อขายและส่งยาเสพติด ช่องโหว่ และมาตรการเฝ้าระวัง
รับมือโลกยาเสพติดในโซเชียลออนไลน์
ปัจจุบันกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด ได้พัฒนาและปรับเปลี่ยนรูปแบบการค้ายาเสพติด โดยนำเทคโนโลยีการติดต่อซื้อขายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โซเชียลมีเดีย ทั้งทางทวิตเตอร์ ไลน์ และเฟซบุ๊ก ซึ่งสามารถสร้างพื้นที่ติดต่อกันส่วนตัวได้
โดยไม่จำเป็นต้องระบุตัวตนว่าเป็นใคร สามารถทำได้โดยไม่ต้องแสดงที่อยู่หรือชื่อ-นามสกุลจริง ที่เรียกกันว่าการสร้างตัวตนเทียม และใช้ชื่อที่น่าสนใจในการดึงดูดคน และเมื่อระบบมีการให้ยืนยันตัวตนก็จะทำการปิดระบบดังกล่าวแล้ว
สร้างระบบใหม่ขึ้นมา
ควบคู่กับการส่งมอบยาเสพติดผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ ระบบโลจิสติกส์ ทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนมากขึ้น เนื่องจากมีผู้ให้บริการขนส่งระบบโลจิสติกส์หลายบริษัท สามารถกระจายสินค้าได้อย่างรวดเร็วและไม่จำกัดพื้นที่
ยังมีปัจจัยเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน การโอนเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่สะดวก รวดเร็ว ยากต่อการสกัดกั้น ติดตามจับกุมและสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่
จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้มีกลุ่มผู้ค้ารายใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากและเกิดปัญหาการแพร่ระบาดในแหล่งชุมชนหลายพื้นที่
สาเหตุที่ทำให้ปัญหาการติดต่อซื้อขายยาเสพติดผ่าน สื่อสังคมออนไลน์ แพร่ระบาดอย่างแพร่หลาย ไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบในการควบคุมยาเสพติดผ่านระบบสังคมออนไลน์ โซเชียลมีเดียโดยตรง
...
ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะในการลงโทษผู้ค้ายาเสพติดในระบบสังคมออนไลน์ โซเชียลมีเดีย มาตรการเฝ้าระวัง
รับมือโลกยาเสพติดในโซเชียล ออนไลน์.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th