จะยังไงก็ตาม...การอยู่บ้านเพื่อทิ้งระยะห่างความสัมพันธ์ระหว่างคนต่อคนยังเป็นความจำเป็นที่จะต้องพึงปฏิบัติด้วยความรับผิดชอบร่วมกัน
ถึงเวลานี้แม้สถานการณ์จะดำเนินไปอย่างไรก็ตาม วิธีการป้องกันที่ดีที่สุดก็คือการจำกัดตัวเองด้วยความอดทนและปรับตัวให้ได้
“คุก” ในบ้านย่อมดีกว่า “คุก” ในเรือนจำ?
ครับ...สิ่งที่ต้องไม่ลืมกันก็คือวันนี้ชาวโลกไม่ได้ต่อสู้กับเชื้อโรคแต่กำลังต่อสู้กับธรรมชาติที่กำลังไล่ล่าเพื่อล้างโลก
ว่ากันถึงเรื่องเรือนจำเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่ค่อยมีการพูดถึงกันมากนักคล้ายกับว่าพวกเขาอยู่ต่างโลกไปจากพวกเรา
หลังจากนักโทษที่เรือนจำบุรีรัมย์ก่อจลาจลแหกคุกและก่อเหตุรุนแรงเผาทำลายสถานที่ทำการ โรงเรือน โรงครัว ด้วยการเผาและทำลายเสียหายด้วยการเผาทั้งหมด จนใช้การไม่ได้แยกนักโทษไปอยู่เรือนจำต่างๆ
มีข่าวออกมาระบุว่าเพราะมีหัวโจกระดับ “ขาใหญ่” เป็นตัวตั้งตัวตีปลุกระดมนักโทษให้ก่อการจลาจล แม้ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรก็ตาม
อ้างว่ามีการแพร่ระบาดโควิด-19 ในคุกก็ถึงใจกันเลย
เพราะในสภาพเรือนจำต่างๆ ในบ้านเรานั้นมีความแออัด เพราะนักโทษทั้งประเทศมีจำนวนมาก ยิ่งที่มีขนาดใหญ่ก็ยิ่งมีจำนวนมาก
ลองคิดดูว่าหากมีการติดเชื้อในนั้นแล้วอะไรจะเกิดขึ้น
พลันเรื่องนักโทษแหกคุกเกิดขึ้นมาก็พบว่า ผบ.เรือนจำนครนายก ติดเชื้อจึงต้องไปรักษา แต่มีข้อมูลระบุว่าช่วงก่อนหน้านี้อยู่เฉพาะด้านนอกที่ทำการไม่ได้เข้าไปส่วนของ “เรือนจำ” จึงเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่จะต้องให้ความสำคัญ ด้วยการดูแลป้องกันอย่างเข้มงวดพร้อมกับสร้างขวัญสร้างกำลังใจและขอความร่วมมือให้ระมัดระวัง
...
เจ้าหน้าที่ทุกระดับของกรมราชทัณฑ์จึงต้องตื่นตัวตื่นรู้ ทั้งระมัดระวังตัวเองและบรรดานักโทษทั้งหมด
อย่าให้ถูกแจ็กพอตก็แล้วกัน มิฉะนั้นดูไม่จืดแน่
ในส่วนนอกคุกหลายจังหวัดเริ่มมาตรการเข้มข้นและการประกาศ “เคอร์ฟิว” ซึ่งจะกำหนดเวลาตั้งแต่ 23.00 น. ถึงตี 5 ของวันถัดไป
นั่นเป็นดุลพินิจของผู้ว่าฯที่รับผิดชอบ เจ้าของพื้นที่ที่รับผิดชอบจึงรู้ดีว่าสถานการณ์ในจังหวัดนั้นควรจะมีมาตรการอย่างไรบ้าง
ที่กำลังกังวลกันมากก็คือรัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไรต่อสถานการณ์ “สงกรานต์” ซึ่งแม้ว่าจะยกเลิกหยุดยาว 5 วันต่อเนื่อง แต่มันก็คาบเกี่ยวกับวันเสาร์-อาทิตย์ และหยุดงานอีก 2 วัน ก็ไปต่อได้อีก 2 วัน เป็น 5 วัน โดยปริยาย
วันครอบครัวที่คุ้นเคยกันมาตลอดมีความผูกพันกันอย่างแยกไม่ออก โอกาสนี้จึงคาดกันว่าจะมีการเคลื่อนตัวของคนเป็นจำนวนมาก
ต่างคนต่างก็จะอ้างเหตุผลนี้แหละ
เป็นอีกรอยต่อที่รัฐบาลจะต้องคิดให้หนักและตัดสินใจอย่างเป็นรูปธรรม เพราะที่ผ่านมานั้นบอกเพียงว่าอย่าเดินทาง อย่ารวมกลุ่มกัน แต่ให้ปฏิบัติตามประเพณีได้
คำตอบอย่างนี้ไม่ใช่ทางออกในสถานการณ์ที่กำลังเผชิญกันอยู่
เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจึงเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องสื่อสารถึงประชาชนเสียแต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างน้อยก็จะได้เตรียมตัว เตรียมการและเตรียมใจไว้ก่อน
อะไรที่ควรหยุด ละ เลิกชั่วคราวจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด?
“สายล่อฟ้า”