“การมาของโควิด-19 มีหลายเรื่องต้องเปลี่ยนวิธีคิด-ทำ” นี่คือมุมมองของจิตรา ก่อนันทเกียรติ ผู้ที่คุ้นกันว่าเป็นเจ้าแม่เรื่องจีน แต่ดีกรีการจบจากเศรษฐศาสตร์จุฬาฯ จบโทบริหารและเศรษฐศาสตร์ ทำให้ถูกฝึกการ “มอง” และ “แก้ปัญหา” ที่คาดไม่ถึง

เนื่องจากว่าตอนนี้ไวรัสโควิด-19 ก็ระบาดไปมากแล้ว จึงขอให้ความคิดและความรู้ใน 3 เรื่องด้วยกัน หนึ่ง...อยู่ดีๆมันก็ระบาดกระจายไวจากสองสามแหล่งใหญ่คือ จุดที่มีคนรวมตัวกันในลักษณะยืน...นั่งประชิดกันนานๆ เช่น ในสนามมวย การสังสรรค์ ที่สนามบินตอนขาเข้าเมือง แล้วมีเจ้าหน้าที่ตม.ติดจากผู้เดินทาง

เพราะหากย้อนไปดูขั้นตอนในการจับผู้โดยสารมาผ่านการคัดกรองแบบที่ทำอยู่ คือ...

ผู้โดยสารลงจากเครื่องแล้วเดินมุ่งหน้าไปที่ ตม. ระหว่างทางมีการกั้นจากหน่วยงานให้ผู้โดยสาร (ผดส.) ต้องดาวน์โหลดแอปเพื่อตามตัว ตรงนี้ใช้เวลานานมาก 20-30 นาทีสำหรับบาง ผดส.ที่ไม่เก่งมือถือ เกิดการกระจุกตัวอยู่ด้วยกันถึง 3-400 คนในบางเวลา และมีการกระจุกตัวแบบยืนชิดติดกันนานๆอีก 2-3 จุด

...

และ...ไม่รู้บางขั้นตอน ทำให้หลงเดินไปมา ซึ่งสามารถแก้ปัญหานี้ได้ไม่ยาก เพียงแค่เปลี่ยนขั้นตอนการทำงานคือ แทนที่จะเป็น จนท.ตั้งด่านกัก ผดส. อยากให้กลับทางเป็น ผดส.นั่งอยู่เฉยๆ โดยเฉพาะ ผดส.ที่ถูกบังคับให้มีใบตรวจเลือดจากห้องแล็บว่าปลอดเชื้อโควิด-19 จากฮ่องกงจึงจะขึ้นเครื่องได้ ไม่ควรต้องไปยืนรวมเพื่อเสี่ยงติดเชื้อกับ ผดส.ที่มาจากประเทศอื่นที่แค่มีใบตรวจโรคว่า “Fit to fly” จากระยะทางเดินเมื่อออกจากเครื่องบินไป ตม. ยาวเป็นกิโลเมตร น่าจะเอาเก้าอี้ไปตั้งเป็นระยะห่าง 1.5 เมตร ให้ ผดส.ที่ออกจากเครื่องมานั่งที่เก้าอี้คนละตัว จากนั้นให้ จนท.คัดกรองที่มีข้อบังคับให้ ผดส.โหลดแอป หรือจะกรอกเอกสารใดๆ

“จะประทับตราสาธารณสุขว่าปลอดเชื้อจริงๆ ก็น่าจะเป็นฝ่ายเดินมาทำให้ ผดส.ที่นั่งกระจายตัวกันแบบนี้ และจะง่ายขึ้นถ้ามีการขอตัวเลข ผดส.จากสายการบิน เพราะบางเครื่องคนบินน้อยมากไม่ถึง 50 คน บางเครื่องคนอาจเกิน 200 คน ก็จะได้เตรียมกำลังคนไว้ พร้อมการสเปรย์พ่นล้างมือ”

เมื่อขั้นตอนนี้เรียบร้อย จึงให้เดินไป ตม.แบบมีการจัดระเบียบคือ ยืนห่างกัน 1 เมตร นี่คือการขายตั๋วและมาขึ้นรถต้องเป็นระบบใหม่ โทร. จองคิวมาตามคิวเพื่อไม่ให้เกิดการรอที่แออัด

เรื่องที่ สอง...ควรต้องให้ประชาชนที่ไม่แน่ใจว่าตัวเองมีความเสี่ยงไหมได้ตรวจเชื้อโควิด-19 จากประสบการณ์ที่รับรู้จากฮ่องกงคือ มีคลินิกรับตรวจโดยเฉพาะ เป็นการต้องโทร.นัดคิว เมื่อไปถึงก็ได้กรอกเอกสาร ไปเข้าห้องน้ำ เมื่อออกมาก็ได้เข้าห้องเพื่อเจาะเลือด อีก 10 นาทีรู้ผลตรวจ พบแพทย์เพื่อทำการตรวจทั่วไป เมื่อรู้ผลว่าปลอดเชื้อก็รับใบรับรองที่ระบุวันเวลาตรวจชัดเจน ค่าใช้จ่ายประมาณ 4,000 บาทไทย หมอบอกว่าเป็นเทคโนโลยีการตรวจแบบใหม่ที่เริ่มคิดกันได้ที่จีนตั้งแต่มีการระบาดใหม่ๆ คิดว่าอีกไม่นานบริษัทยาและการแพทย์ต่างๆน่าจะมีการนำมา ขอเสนอให้ใช้คลินิกเคลื่อนที่ หรือห้องแล็บเคลื่อนที่ ไม่จำเป็นต้องไปแออัดที่โรงพยาบาล คิดว่า...การเปิดคลินิกและแล็บเฉพาะกิจด้วยชุดตรวจเลือด 10 นาทีรู้ผลที่สนามบิน ที่ขนส่ง

“โทร.นัดคิวก่อนตรวจเพื่อการจัดระเบียบจะไม่แออัด และสองที่นี้ควรตรวจเฉพาะคนจะเดินทาง ซึ่งหากการต้องสั่งชุดตรวจกับการเตรียมห้องแล็บและเจ้าหน้าที่ใช้เวลา 1 เดือน จะนานแค่ไหนก็ต้องรอ”

แต่ด้วยความเป็นอัจฉริยะของบางคนและฝีมือทำงานของหลายๆ คนเก่ง ก็อาจจะได้เร็วกว่านี้ในราคาที่ถูกกว่านี้ ด้วยความคิดว่าอยากให้รัฐเปลี่ยนงบจากการแจกเงินประชาชนมาเป็นงบตรวจเชื้อให้คนที่มีความเสี่ยงให้เป็นความโล่งอก สามารถ...ขึ้นเครื่องบินและรถทัวร์ด้วยแมสก์ปิดหน้าก็เพียงพอ แล้วโหลดแอปที่บอกให้อยู่ห่างๆคนที่มีเชื้อโควิด-19 ส่วนใครที่ตรวจพบว่าเลือดเป็นบวกก็ต้องยอมรับในการอดเดินทางแต่ไปเข้า รพ.แทน

ซึ่งนอกจากนี้ก็ให้มีการเพิ่มจุดตรวจเชื้อโควิด-19 10 นาทีรู้ผลไปที่ศูนย์การค้า

หรือ...สถานที่ซึ่งรองรับคนไม่ให้แออัดด้วยระบบโทร.นัดคิวแล้วก็รออีกนิด กระบวนการรักษาที่จะเป็นความมั่นใจคงทยอยมาเอง เพราะทุกยุคสมัยมีอัจฉริยะในทุกสาขาวิชาเสมอ

เรื่องที่ สาม...การประมวลข้อมูลในด้านศาสตร์ที่มองไม่เห็นคือ “โหราศาสตร์” ทั้งจีนและไทย น่าจะมีคนไม่น้อยที่สงสัยว่า มีในดวงเมืองหรือดวงโลกบอกบ้างไหม ก็มีหมอดูผู้ใหญ่หลายท่านออกมาให้ความรู้ ซึ่งในส่วนของจิตรา เท่าที่ถามผู้ใหญ่และแฟนคลับที่สนใจ ได้เป็นองค์ความรู้อย่างนี้ว่า...สำหรับโหราศาสตร์ไทยในคำพยากรณ์วันเถลิงศกสงกรานต์ปี 2562 ต้องอ่านให้ลึกขึ้น จะเห็นการทำนายไว้ถึงการจะเกิดโรคระบาดโควิด-19 เป็นการเข้ามาใน 3 เดือนสุดท้ายก่อนเข้าวันสงกรานต์ปี 2563 ...ประมาณว่าถีบส่งก่อนเปลี่ยนปี

...

ถัดมา... ช่วงนี้เป็นจังหวะของการเปลี่ยนแปลงย้ายราศีของดาวใหญ่ 3 ดวงคือ ดาวพฤหัสบดีที่มีการโยกย้ายราศีทุก 12 ปี ดาวราหูมีการโยกย้ายทุก 18 ปี ดาวเสาร์ย้ายทุก 30 ปี...สามดาวใหญ่ที่มีผลต่อทุกดวงชะตาดันมาย้ายในช่วงใกล้ๆกัน และยังไม่เข้าที่ จึงปั่นป่วนอย่างนี้

ประจวบเหมาะกับจังหวะการย้ายไปย้ายมานี้เกิดเป็น “จตุโกณ” หมายถึง การเรียกดาวที่สถิตเป็น 4 แก่กัน หรือทำมุม 90 องศาแบบกากบาท แนวหนึ่งเป็นดาวอาทิตย์กับดาวมฤตยู อยู่ในราศีเมษ ปะทะกับดาวอังคารและดาวเสาร์ที่อยู่ด้วยกันในราศีมังกร ซึ่งทางโหราศาสตร์ไทยถือว่า...ลัคนาโลกและลัคนาของดวงเมืองไทยอยู่ในราศีเมษ ต้องเกิดซึ่งความทุกข์วิปโยคกังวลใจ

กล่าวถึง...ในทางโหราศาสตร์ฝรั่งกันบ้าง ก็มีคนไปแกะคำทำนายของนอสตราดามุส จุดที่ตรงประเด็นคือ นอสตราดามุสทำนายว่า ปีใดที่เป็นเลขทวินหรือเลขตรงกันเป็นคู่ นั่นคือปี 2020 จะเกิดโรคระบาดใหญ่รุนแรงเรียนตรงๆว่านี่คือครั้งแรกที่จิตรารู้ว่าฝรั่งก็ถือเลขคู่เป็นเรื่องร้ายเพราะในทางไทยจะถือวันกับเดือนที่เป็นเลขตรงกันว่าเป็นวันแรง หรือวันอาถรรพณ์ เช่น เดือนอ้ายแรม 1 มีคำเฉพาะเรียกว่า “กระทิงวัน” แต่...ที่ถือเป็นวันดีก็มี

...

เช่น วันเสาร์ที่ 28 มี.ค.2563 เข้าข่ายเป็นวันเสาร์ 5 หลายสำนักมีการปลุกเสกพระกันเป็นพิเศษ หวังว่าจะไม่กลายเป็นการชุมนุมที่แพร่เชื้อโควิด-19

การถือเรื่องวันทวินทางจีนจะถือวันเลขคี่ที่ตรงกับเดือนเลขคี่ ทำให้วันที่ 1 เดือน 1 จีน 3 เดือน 3 จีน 5 เดือน 5 จีน 7 เดือน 7 จีน 9 เดือน 9 จีน 11 เดือน 11 จีน...เป็นวันที่ต้องมีการไหว้ใหญ่ที่ศาลเจ้า

ประเด็นน่าสนใจมีว่า...ปกติเราเจอแค่วันทวินของวันกับเดือน ครั้งนี้คือการทวินของปีจึงได้เป็นความเสียหายไปทั้งโลกอย่างยาวนาน เพราะคือหน่วยเวลาที่ใหญ่กว่าวันและเดือน นี่คือบทพิสูจน์อาถรรพณ์ของเลขวัน-เดือน-ปี ที่ภูมิปัญญาทั้งจีน-ไทยไหว้แก้กันมาก่อน

ประเด็นสุดท้าย ในทางโหราศาสตร์จีน โดยความรู้นี้ จิตรา บอกว่า ได้มาจากฮ่องกง เป็นการเก็บองค์ความรู้เรื่องไหว้เจ้าและความรู้โหราศาสตร์จีนจาก 2 ซินแส บวกกับอีก 3 นักพรต ความรู้เรื่องการระบาดของโควิด-19 เป็น ซินแสประจำศาลเจ้าหมู่บ้านหอยนางรม ที่ไปศึกษาความรู้ที่ศาลเจ้าแห่งนี้มาได้ 2-3 ปีกว่า...

...

ซินแสบอกว่า เป็นจังหวะที่เจ้าองค์หนึ่ง กวางตุ้งออกเสียงว่า “วั่นสั่น” ก็ขอให้เขียนคำจีนให้ดู เมื่อเอามาเปิดเป็นแต้จิ๋วออกเสียงว่า “อุ่งซิ้ง” จิตราเคยเขียนถึงเจ้าองค์นี้ไว้แล้วในหนังสือชื่อ ทำเนียบเทพเจ้าของจีน เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน

อุ่งซิ้ง แปลตรงตัวคือ “เจ้าโรคห่า” หมายถึง เทพเจ้าแห่งโรคระบาดร้ายแรงที่ในอดีตก็มีการเกิดโรคร้าย คนตายเป็นเบือมาก่อน เช่น กาฬโรค วัณโรค อหิวาตกโรค ฯลฯ เจ้าอุ่งซิ้งนี้นานๆมาที แต่ผ่านมาก็เกิดรังสีอำมหิตให้เกิดมีโรคระบาดใหญ่...ต้องไหว้เจ้าเสือที่ชื่อว่า ซิ้งโฮ่วฮั้ง แปลตรงตัวว่า “เจ้าเสือสยบ” ซิ้ง แปล ว่า เจ้า...โฮ่ว แปลว่า เสือ...ฮั้ง แปลว่า สยบ จำนน...เป็นคนละองค์กับที่ไหว้ช่วงตรุษจีนและเจ้าพ่อเสือในศาลเจ้า

ความรุนแรงนี้กล่าวได้ว่า...มีเพียงซินแสท่านนี้เท่านั้นที่รู้วิธีไหว้เจ้าเสือสยบ ศรัทธาความเชื่อเหล่านี้...พูดไปหลายคนเชื่อ แต่ก็มีไม่น้อยที่ไม่เชื่อ เอาเป็นว่ารู้ไว้ใช่ว่า เป็นความรู้ก็แล้วกัน

การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ปิดฉากจบลงรวดเร็ว...จึงเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกตั้งความหวัง.