ต้องตื่นทั้งระบบ
ที่ผ่านมาจะมุ่งไปที่ประชาชนเป็นด้านหลัก เพื่อถือว่าเป็นทรัพยากรหลัก ซึ่งมีจำนวนมากสุดของประเทศ
แต่ไม่ได้เน้นหนักไปที่บรรดาเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการป้องกัน รักษา ชี้แจงให้คำแนะนำ ควบคุมทั้งด้านการบริหารจัดการและการบังคับใช้ให้เป็นไปตามกฎหมาย
ทางด้านแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งเป็น “แนวหน้า” สำคัญในสงครามที่ศัตรูไร้ตัวตนนั้นก็มีปัญหาโดยเฉพาะขาดอุปกรณ์ในการป้องกันซึ่งเป็นเกราะคุ้มกันอย่างดี
อีกทั้งยังวิตกกังวลในความไม่พอของอุปกรณ์ต่างๆ แล้วยังรวมไปถึง “ยา” ซึ่งมีความจำเป็นในการป้องกันและรักษา
ดีที่รัฐบาลได้เพิ่มเงินพิเศษให้ก็เลยไม่มีเสียงเรียกร้องในเรื่องนี้
แต่ด้วยความเสียสละ อดทนและใจที่พร้อมสู้เรื่องเงิน เรื่องทอง ผลตอบแทนพิเศษจึงเป็นเรื่องรองเพราะชีวิตของผู้คนนั้นสำคัญกว่า
อันนี้รัฐบาลจะต้องดูแลและเอาใจใส่เป็นพิเศษด้วยการสนับสนุนเพื่อสนองความต้องการอย่างเต็มที่
เพราะ “นักรบเสื้อกาวน์” ทั้งระบบเป็นหัวใจสำคัญ
เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานอื่นๆที่จะต้องทำงานร่วมกันทั่วประเทศก็เช่นกัน นอกจากจะต้องทำงานหนักมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องดูแลด้วยเช่นเดียวกัน
ยิ่งปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ก็ยิ่งจะต้องระมัดระวังตัวเองด้วยเช่นกันหมายถึงว่าต้องตื่นตัวและตระหนักให้มากขึ้น
ต้องไม่ลืมว่าพวกท่านๆล้วนเป็น “นักรบ” เช่นกัน
สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ในระยะหลังนี้ นอกจากเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อมากขึ้นและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นและตัวเลขผู้ติดเชื้อจะไปหนักที่ต่างจังหวัดมากกว่ากรุงเทพฯ อย่างเห็นได้ชัด
...
แรกๆพัวพันกับแหล่งแพร่เชื้อในกรุงเทพฯ อย่างเช่น สนามมวย ในระยะหลังที่ผ่านมาตัวแปรกลับเปลี่ยนไป
คือติดต่อกันเองระหว่างคนในพื้นที่
59 จังหวัดมีผู้ติดเชื้อ ที่เหลือยังไม่พบผู้ติดเชื้อก็เท่ากับว่ามีขอบเขตในตัวของมันเอง แต่ปรากฏจำนวนผู้ติดเชื้อกลับเพิ่มขึ้นจากจังหวัดที่เข้าไประบาดแล้ว
นี่แหละเป็นเรื่องที่จะต้องมุ่งไปสู่จังหวัดต่างๆ ด้วยมาตรการที่เข้มข้นและความกระตือรือร้นของเจ้าหน้าที่
กระทรวงมหาดไทยได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบโดยนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวง จึงต้องรับงานใหญ่และท้าทายยิ่ง
หากสามารถ “หยุด” การแพร่เชื้อและผู้ติดเชื้อได้ย่อมจะทำให้สถานการณ์โดยรวมดีขึ้นอย่างแน่นอน
ด้วยกลไกของมหาดไทยที่กินพื้นที่ทั่วประเทศแล้วยังมีบุคลากรไล่ตั้งแต่ผู้ว่าฯ ลงไปตั้งแต่นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งจะอยู่ใกล้ชิดประชาชนมากที่สุด และรู้ความเป็นไปในพื้นที่เป็นอย่างดีจึงต้องร่วมมือร่วมใจกันเพื่อทำภารกิจนี้อย่างเต็มกำลัง
ไม่รู้ว่าในแนวทางปฏิบัติทำกันอย่างไรบ้าง
ที่เห็นอยู่เพื่อให้งานเดินหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายอย่างบรรดาผู้ตรวจกระทรวง ซึ่งมีการแบ่งงานดูแลพื้นที่ในภาคต่างๆ
จึงควรให้บุคลากรเหล่านี้เข้ามามีส่วนร่วมในลักษณะคุมพื้นที่ในแต่ละภาครับผิดชอบอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เงื่อนเวลาเป็นตัวแปรสำคัญที่บ่งบอกอนาคตข้างหน้าได้.
“สายล่อฟ้า”