การขยายตัวของธุรกิจปัจจุบัน ที่มีความต้องการแรงงานของโลกแบบไร้พรมแดน สถาบันการศึกษาจึงเป็นรากฐานที่สำคัญ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) จึงมุ่งสร้างเครือข่ายทางการศึกษาที่แข็งแกร่ง เปิดกว้างโอกาสการศึกษาแก่เยาวชนรุ่นใหม่ ส่งนักศึกษาเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรม ณ ประเทศญี่ปุ่นกับ 2 มหาวิทยาลัย คือ มหาวิทยาลัยเทเคียว (Teikyo University) และมหาวิทยาลัยวาเซดะ (Waseda University) รวมถึงได้ศึกษาดูงานกับบริษัทชั้นนำในญี่ปุ่น รูปแบบเน้นการเรียนรู้ควบคู่การฝึกปฏิบัติจริง (Work-based Education) ที่นักศึกษาสามารถนำประสบการณ์มาประยุกต์ใช้กับการทำงานในอนาคตอย่างมืออาชีพ
ทางพีไอเอ็มร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทเคียว (Teikyo University) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงของประเทศญี่ปุ่น ส่งนักศึกษาร่วมโครงการรับทุนแลกเปลี่ยน “Teikyo Asia Exchange Program (TAEP)” โดยเชื่อมความร่วมมือกับคณะเศรษฐศาสตร์และบัณฑิตวิทยาลัย เป็นทุนระยะยาว 2 ปี เพื่อเรียนต่อระดับปริญญาตรีหรือปริญญาโทในปี 3-4 กับทางมหาวิทยาลัยเทเคียว โดยที่พีไอเอ็มจะรับรองหน่วยกิตใน 2 ปีแรกและเมื่อเรียนต่ออีก 2 ปีจนจบครบหลักสูตร จะได้รับวุฒิการศึกษาจากทางมหาวิทยาลัยเทเคียว พีไอเอ็มส่งตัวแทนของนักศึกษาทั้งที่สำเร็จการศึกษาแล้ว และกำลังศึกษาอยู่ปัจจุบัน มาแชร์ประสบการณ์สำคัญในชีวิต
เมษยา ทวีสุข…เมเม่ เจ้าหน้าที่อาวุโสหน่วยงาน ISSC (International Student Service Center) สำนักวิเทศสัมพันธ์ ของพีไอเอ็ม อดีตนักศึกษาทุน “TAEP” รุ่นแรก เล่าถึงความรู้สึกภาคภูมิใจ ที่จบจากมหาวิทยาลัยเทเคียวให้ฟังว่า “ด้วยความเป็นเจแปนเลิฟเวอร์ตัวแม่ พอทราบว่า มีการเปิดคัดเลือกรับทุนที่มหาวิทยาลัยเทเคียว รีบลุยเลยค่ะ ตั้งใจอ่านหนังสือสอบหนักมาก จากวันที่เริ่มสมัครรับทุนจนไปถึงวันที่ออกเดินทาง และไม่รู้สึกกลัวกับการเป็นเด็กศิลป์ภาษาญี่ปุ่นธุรกิจ ที่ต้องเปลี่ยนตัวเองไปเป็นเด็กเศรษฐศาสตร์โดยใช้ภาษาอังกฤษในการเรียน เพราะความเชื่อลึกๆ ว่าเมื่อลงมือทำแล้วก็ต้องทำให้ได้และดีที่สุด”..ชีวิตที่โตขึ้นกว่า...คือ นิยามตัวตนที่ถูกหล่อหลอมจากการศึกษาตลอดระยะเวลา 2 ปีจนสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทเคียว และสิ่งที่ได้รับจากโครงการนี้ คือ ประสบการณ์นอกตำราที่งดงาม มาปะติดปะต่อเป็นภาพความทรงจำที่มีค่ามาก ที่ตัวเราเองเป็นผู้บันทึกและได้ลงมือทำจริงๆ ซึ่งคือความภาคภูมิใจเมื่อได้ย้อนเวลากลับมานึกถึง
สิริกาญจน์ ลิ้มวงศ์พัชรกุล…กระแต นักศึกษาชั้นปี 2 คณะบริหารธุรกิจ ซึ่งได้รับทุน “TAEP” Faculty of Economics, Hachioji Campus, Teikyo University ขณะนี้กำลังศึกษาชั้นปี 3 ที่มหาวิทยาลัยเทเคียว เผยความรู้สึกกับโอกาสที่ได้รับ “กระแตไม่ใช่คนเก่งอะไร ต้องอ่านหนังสือก่อนเรียนตลอด ถึงขั้นนอนเที่ยงคืนตื่นอีกทีตีสาม เราต้องเรียนรอด ปรับตัวได้อย่างแน่นอน “Tired but proud : เหนื่อยแต่ภูมิใจ” อยู่ที่ไทยเราอาจรู้สึกว่าเราเก่งในสถาบันตัวเอง เพราะรูปแบบการเรียนที่พีไอเอ็มที่ผ่านมาแบบ Work-based Education ช่วยให้มั่นใจและมีความพร้อมพอสมควรก่อนเดินทางมาเรียนต่อในต่างประเทศ แต่พอมาที่มหาวิทยาลัยเทเคียว ด้วยสไตล์การเรียน ความมีระเบียบวินัย วัฒนธรรมของคนญี่ปุ่น ทำให้ต้องเร่งพัฒนาทักษะตัวเองอย่างก้าวกระโดด ภาษาอังกฤษก็รู้สึกว่าพูดคล่องขึ้น การเขียนและไวยากรณ์ก็เก่งขึ้นด้วย เพราะการเรียนที่มหาวิทยาลัยเทเคียว มีลักษณะร่วมอภิปรายความคิด ได้แสดงความคิดเห็นระหว่างกันกับเพื่อนๆ คนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ โดยไม่ใช่มุ่งเถียงกันว่าคำตอบคนไหนถูกหรือผิด แต่เป็นการแลกเปลี่ยนจนได้คำตอบที่ดีที่สุด สิ่งแวดล้อมเอื้อให้มีส่วนร่วมในการเรียนและทำความรู้จักเพื่อนใหม่ๆ เต็มที่ รู้สึกว่าภาษาไม่ใช่เรื่องยาก สำคัญที่ความตั้งใจ ซึ่งกระแตจะพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ครั้งสำคัญใน 2 ปีที่กำลังศึกษาอยู่ มาต่อยอดการทำงานต่อไป ขอขอบคุณพีไอเอ็มที่มีโอกาสที่ดีแบบนี้ให้กับนักศึกษาค่ะ”
ล่าสุด...พีไอเอ็ม และ มหาวิทยาลัยวาเซดะ มหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำ 1 ใน 3 อันดับแรกของญี่ปุ่น ร่วมมือกันนำนักศึกษาพีไอเอ็ม จำนวน 10 คน เดินทางไปญี่ปุ่น เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ในโครงการ “SAKURA SCIENCE Exchange Program” ที่จัดขึ้นโดยการสนับสนุนการศึกษาจาก Japan Science and Technology ร่วมกับมหาวิทยาลัยวาเซดะ เป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนจากนานาชาติได้มาสัมผัสประสบการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 7 วัน เพื่อเรียนรู้พื้นฐานของการจัดการและการบริหารธุรกิจ เรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประเพณีวัฒนธรรม และเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นกับนานาชาติ
นักศึกษาจากพีไอเอ็มทั้ง 10 คน ที่ผ่านการคัดเลือก มาจากหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต Modern Trade Business Management (International Program), คณะนวัตกรรมการจัดการการเกษตร, คณะศิลปศาสตร์, คณะการจัดการโลจิสติกส์และการคมนาคมขนส่ง, และคณะศึกษาศาสตร์ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ เช่น โรงเรียนประถม Meiho, บริษัท Seibu Group, โรงงาน Ishizaka, มหาวิทยาลัยวาเซดะ, โรงพยาบาลฟื้นฟู Meisei, ศูนย์วิจัยทางด้านเกษตรกรรม จังหวัดไซตามะ, ศูนย์บ่มเพาะเมล็กพันธุ์ Seinourin Seed Center และพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมสมัยใหม่แห่งชาติ (The National Museum of Emerging Science and Innovation) นับว่าครบเครื่องทั้งการเรียนรู้นอกห้องเรียน แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างไทยและญี่ปุ่น ฝึกฝนทักษะกับเจ้าของภาษา สร้างระเบียบวินัยกับตัวเอง ช่วยกันแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ปรับตัวร่วมกันกับสิ่งแวดล้อมและเพื่อนใหม่
นอกจากความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการไปเยือนประเทศญี่ปุ่นในครั้งพิเศษนี้แล้ว น้องๆ จาก 3 นักศึกษาพีไอเอ็มตัวแทนจากโครงการนี้...มาบอกเล่าถึงความประทับใจตลอด 1 สัปดาห์ในดินแดนอาทิตย์อุทัยอย่างภาคภูมิใจ
สุพัตตรา เขตสมุทร...เทียน นักศึกษาชั้นปี 3 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาการสอนวิชาภาษาอังกฤษ จากความฝันที่อยากท่องเที่ยวและเดินทางต่างประเทศ เพื่อหาประสบการณ์ใหม่และสัมผัสความเป็นญี่ปุ่น ค้นหาตัวตนอีกมุมนอกตำรา แม้ต้องเตรียมความพร้อมเพื่อสอบคัดเลือกค่อนข้างหนัก แต่ก็คุ้มค่าสุดๆ กับทุกกิจกรรมที่วาเซดะ “ดี-โดน-ได้” คือ คำตอบของโครงการนี้... “ดี” ทุกกิจกรรมที่แพลน สถานที่เยี่ยมชม บริษัทที่ดูงาน “โดน” เรื่องราวของญี่ปุ่น ระเบียบวินัย บ้านเมืองศิลปวัฒนธรรม “ได้” ทุกนาทีคือภาพความประทับใจในการเรียนรู้ทุกวัน “Meiho Elementary School” คือ สถานที่ที่ประทับใจมากค่ะ การเรียนการสอนในญี่ปุ่นช่วยชี้แนะเด็กตามความถนัด เน้นการช่วยเหลือส่งเสริมในทุกด้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเด็ก เปิดโลกห้องเรียนแห่งอนาคตมุมมองใหม่ การเข้าไปสัมผัสจริงในห้องเรียนจำลองต่างแดน ทำให้เห็นภาพว่า คุณครูในยุคที่โลกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว จะต้องปรับปรุงตัวเองให้เข้าถึงเด็กได้แบบไหนบ้าง
วรชิต จันทรงชัย…จอห์น นักศึกษาชั้นปี 2 คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารทางธุรกิจ เล่าถึงความรู้สึกแรก โดยขออนุญาตยืมคำพูดอาจารย์ในสาขามาพูดว่า “โอกาสก็เหมือนไอติมไม่กินก็ละลาย” พอได้ยินอาจารย์แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ในกลุ่ม ใจก็คิดภาพตัวเองนั่งเครื่องบินไปญี่ปุ่นแล้ว ส่วนตัวชอบที่ได้ไปดูโรงงานขยะที่จังหวัดไซตามะผมได้เห็นมุมมองการทำธุรกิจที่ญี่ปุ่น เขาให้ความสำคัญเกี่ยวกับการรณรงค์ Recycle และ Waste Management ลดปริมาณขยะให้น้อยที่สุดและไม่สร้างมลพิษ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่คอยพัฒนานวัตกรรมใหม่เสมอไม่หยุดที่จะเดินหน้า ล่าสุดที่ไปพิพิธภัณฑ์ Mirikan ที่ Tokyo ก็ได้ไอเดียมาต่อยอดเรื่องของ AI ที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เหมือนกำลังกลายเป็นตัวละครในหนังไซไฟซึ่งตื่นเต้นมาก อยากให้น้องๆ ลองมาสมัครโครงการนี้ เพราะเปิดโอกาสให้ทุกคนที่สนใจในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีหยิบมาต่อยอดไอเดีย เชื่อว่าหลังจากที่ทุกคนได้ไปโครงการกลับมา น้องจะมีมุมมองกว้างไกลขึ้น ที่สำคัญทุกอย่าง VIP ทีมคณะทำงานทั้งฝั่งไทยและฝั่งญี่ปุ่นดูแลดีมากๆ...สิ่งที่ได้รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน
รวิสรา ขุนชุ่ม…ออม นักศึกษาชั้นปี 3 คณะศิลปศาสตร์ สาขาภาษาจีนธุรกิจ...ออมใฝ่ฝันอยากไปญี่ปุ่นมากที่สุด ชอบวิถีชีวิตของคนที่นั่น บ้านเมืองที่สะอาดและน่ารัก พอทราบว่ามีโครงการนี้จากอาจารย์ทางสาขาวิชา เลยรีบลงชื่อสอบชิงทุนแล้วก็ได้ไปจริงๆ โปรแกรมหลักของมหาวิทยาลัยวาเซดะ คือ การศึกษาดูงานทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้เราได้ทั้งเรียนรู้สิ่งใหม่และ Connection จากบริษัทใหญ่หลากหลาย ทุกกิจกรรมที่จัดขึ้นเช่น การ “brainstorm”สอนเด็กผ่าน Digital Textbooks อย่างมีประสิทธิภาพ ปัญหาหลักในการทำงานกลุ่มอาจจะมีบ้าง คือ ด้านภาษา เพราะเราทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เจ้าของภาษาอังกฤษทั้งคู่ อาจมีปัญหาที่พูดคุยกันแล้วไม่เข้าใจ แต่พวกเราก็พยายามอธิบายให้กันและกัน กล้าที่จะเเสดงความคิดเห็นและนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดออกมา “Best Experiences Ever” คือที่สุด มหาวิทยาลัยวาเซดะมอบประสบการณ์ที่ดีครั้งสำคัญในชีวิตหากน้องคนไหนสนใจวิทยาการ วิชาการของญี่ปุ่น อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ ต้องการหา Connection การเรียนต่อ ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการค้นหาตัวเอง หรืออยากมาทำงานที่นี่ โครงการแบบนี้ได้รับโอกาสจากพีไอเอ็ม ตอบโจทย์มากเลย
กว่า 13 ปีที่พีไอเอ็ม มุ่งมั่นก้าวเดินไปข้างหน้า รุกจับมือกับพันธมิตรภาคการศึกษากับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น เร่งสร้างเครือข่ายและขยายความร่วมมือต่างๆ ในการขับเคลื่อนระบบการศึกษาให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในสากล สร้างความเชื่อมั่นกับสังคม พัฒนาและปรับการเรียนการสอนตลอดเวลา ให้ทันกับโลกในยุคปัจจุบัน พร้อมอัปเดตเทรนด์และเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ เน้นกระบวนการจัดการและการปฏิบัติ เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจและเข้าถึงเนื้อหาวิชาการที่เข้มข้น และสัมผัสได้จริงกับประสบการณ์จากการฝึกฝนหน้างาน สามารถมีแนวทางมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ และนำมาประยุกต์ใช้ต่อยอดการทำงานในอนาคต