
เลขที่ 1 วิภาวดีฯ : จับแต่ไม่ปิด
คนเขียนมาเล่ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเฉพาะกิจภูธรภาค 3 ทลายผับดังกลางเมืองสุรินทร์กลางดึก ได้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี 133 คน และกลุ่มนักเที่ยวที่ไม่แสดงตัวว่ามีบัตรประจำตัวอีกจำนวนหนึ่ง
การเข้าจับกุมเป็นการเช็กบิลการทำงานของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ปล่อยปละละเลยมานาน ผู้ปกครองและชาวบ้านชุมชนร้องเรียนมานานกว่าเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมดำเนินคดีผู้จัดการผับที่จำหน่ายสุราเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี
ข่าวแนะนำ
และเปิดสถานบริการเกินเวลา
หลังจากเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจภูธรภาค 3 จับกุมได้มีสื่อมวลชนบางสำนักเข้าไปสอบถามกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงสาเหตุประเด็นที่เปิดให้บริการเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ปล่อยมั่วสุม เป็นที่รำคาญ คนพื้นที่เคยร้องเรียนมานานแต่ไม่เป็นผล บางคนต้องอดทนกัดฟันกับสถานบริการ ลูกเต้ากลับบ้านดึก บางรายไม่กลับบ้าน พอถึงวันหยุดหรือวันนักขัตฤกษ์ลูกๆหลานๆชวนเพื่อนมาดื่มกินมาเที่ยวเป็นประจำ
คนร้องบอกว่า การจับกุมครั้งนี้ต้องปรบมือให้กับเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจภูธรภาค 3 และอยากให้สื่อพอมีเรื่องที่เกิดขึ้นแบบนี้ ควรนำเสนอให้สังคมได้รับทราบ ผู้ปกครองสมควรได้รับรู้ข้อเท็จจริง “วงการน้ำเมา”
เป็นเรื่องที่กลุ่มผู้ปกครองและชาวบ้านในเขตพื้นที่ร้องเรียนมานานว่า มีการปล่อยปละละเลยให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปใช้บริการและเปิดเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด วันที่ชุดเฉพาะกิจตำรวจภูธรภาค 3 บุกเข้าตรวจสอบสถานบันเทิงชื่อดัง บริเวณ “โซนนิง” ตั้งอยู่กลางเมืองสุรินทร์
ตรวจสอบพบนักท่องเที่ยวที่ไม่พกบัตรประจำตัวประชาชนจำนวนมาก และพบเด็กเยาวชนชายหญิง 130 คน ที่เข้ามาเที่ยวในสถานบริการ ตำรวจได้ส่งตัวเด็กๆให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุรินทร์ ทำบันทึกทำข้อตกลง และแจ้งผู้ปกครองมารับตัวกลับไป
จับกุมผู้ดูแลสถานบริการพร้อมแจ้งข้อกล่าวหาควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
แต่หลังจับกุมได้ไม่กี่วัน ผับแห่งนี้กลับมาเปิดให้บริการปกติ เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น สอบถามไปยังหน่วยงานก็ไม่ได้รับคำตอบ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดๆออกมาชี้แจงจะดำเนินการอย่างไร
คนที่ร้องเรียนถึงกับส่ายหัวไปตามๆกัน
เป็นเรื่องที่สังคมกำลังตรวจสอบหน่วยงาน และองค์กรของรัฐในการปฏิบัติหน้าที่ว่า ทำไมผู้รับผิดชอบในพื้นที่ ถึงปล่อยให้เปิดบริการได้อีก ผู้ปกครองที่ร้องเรียนหมดหวัง ไม่รู้จะไปพึ่งหน่วยงานใด
หากสถานบริการกระทำผิดกฎหมาย ถูกจับดำเนินคดีแล้ว ยังปล่อยให้เปิดสถานบริการนี้ต่อไปได้
ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองแบบนี้.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th