อยู่อย่างนี้ไม่ได้แล้ว
เริ่มต้นมาได้อย่างดีแล้วตั้งแต่ต้นน้ำ และกำลังอยู่ในห้วงกลางน้ำไปถึงปลายน้ำก็หวังว่าจะแก้ไขปัญหาผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
ครับ...ก็ไวรัสโควิด-19 ซึ่งกำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลกแล้ว หนักบ้างเบาบ้างแล้วแต่วิธีการตั้งรับว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน
เบื้องต้นประเทศไทยผ่านการคัดกรองได้อย่างดี รวมถึงวิธีการรักษาเบื้องต้นด้วย ทำให้การแพร่ระบาดอยู่ในวงจำกัด
จนถึงวันนี้มีผู้เสียชีวิต 1 คนเท่านั้น
ชื่อว่าโรคระบาดแล้ว การแพร่ระบาดจึงเป็นเรื่องที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ จากที่เคยมองเห็นเพียงว่าสามารถควบคุมได้
อย่างจีนที่รับรู้กันเบื้องต้นว่า เป็นต้นตอของไวรัสตัวนี้ก็คงพอเห็นว่า วิธีการแก้ไขเขาทำกันอย่างไรบ้าง
ที่เห็นอีกด้านหนึ่งคือ ตัวแปรต่างๆที่เพิ่มขึ้นมา การสร้างโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วยนับพันคนได้ด้วยเวลาเพียงแค่ 10 วัน
นี่คือสิ่งที่มีการมองไปข้างหน้ารู้เท่าทันต่อผลที่จะเกิดขึ้นต่อไป
อย่างกรณี “ผีน้อย” คือ แรงงานไทยที่ไปทำงานที่เกาหลีใต้โดยไม่ถูกกฎหมายหลายหมื่นคน ยังไม่นับที่ถูกกฎหมายอีกไม่น้อย
“ผีน้อย” ในเบื้องต้นคงมีการเดินทางกลับมาบางส่วน แต่ล่าสุดแสดงความจำนงขอเดินทางกลับไทย 14,000 คน
แรงงานผิดกฎหมายที่ทำงานอยู่ในเกาหลีใต้นั้น นอกจากจะต้องหลบซ่อนตัวเพราะถือเป็นแรงงานเถื่อน
เมื่อเกาหลีใต้เกิดการแพร่ระบาดเป็นอันดับที่ 2 รองจากจีนก็ตีความได้ว่า บรรดาผีน้อยเหล่านี้จึงหวั่นไหวไม่น้อยกลัวว่าจะติดเชื้อ
ไม่มีทางเลือกอื่น จึงร้องขอเดินทางกลับ
นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องคิดกันล่วงหน้าอย่างทันกาลว่า จะทำยังไงเพื่อไม่ให้เกิดการระบาดมากไปกว่านี้
...
กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศว่า มาตรการรองรับให้ท้องที่นอกราชอาณาจักรต่อไปนี้เป็นเขตโรคติดต่อ
ได้แก่ ญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลีใต้ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ฝรั่งเศส สิงคโปร์ อิตาลี และอิหร่าน ไม่ว่าใครก็ตามที่เดินทางมาไทยจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรการที่รัฐบาลไทยกำหนด
พูดง่ายๆก็คือ บรรดาผีน้อยกลับบ้านจะต้องปฏิบัติตามไม่มีกรณีพิเศษแต่อย่างใด ก็เท่ากับว่าสามารถควบคุมตั้งแต่เบื้องต้น
ที่บอกว่าไม่สามารถควบคุมได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับจึงจบไป
อยู่ที่ว่าจะมีมาตรการอะไรนอกเหนือจากนี้ รองรับยกตัวอย่างว่า หากพบผู้ป่วยจำนวนมากจะให้ไปรักษาตัวที่ไหน กักตัวอย่างน้อย 14 วันที่ไหน เตรียมแพทย์และบุคลากรเพื่อดูแลรักษา
อย่าคิดว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ?
หรืออีกเรื่องหนึ่งที่บ่นกันอุบคือ “หน้ากาก” ที่หายากและราคาแพง ยิ่งการจัดการของภาครัฐที่ไม่มีประสิทธิภาพพอก็ยิ่งไปกันใหญ่
ว่าไปแล้วปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต อยู่ที่ว่าจะคิดเป็น ทำเป็นมากน้อยแค่ไหน เพราะการเพิ่มจำนวนหน้ากากเป็นเรื่องที่จะต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด แจกฟรีได้เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องลงทุน
การบังคับใช้กฎหมายก็ต้องดำเนินการอย่างเข้มข้น
“นักการเมือง” ที่คอยแต่ขวางลำแจกฟรีหน้ากากปิดปากก็ดีไม่น้อย.
“สายล่อฟ้า”