“ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” เพื่อกระตุ้นตลาด กระตุ้นเศรษฐกิจ กระจายรายได้สู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

ปาริฉัตร เศวตเศรนี ผู้อำนวยการ ฝ่ายภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ ทีเส็บ ผู้ให้ข้อมูล

การดำเนินงานภายใต้แคมเปญมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ”

• ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในระยะสั้น เพื่อกระตุ้นตลาดและเพิ่มค่าใช้จ่าย ส่งเสริมกลุ่มองค์กรเอกชนและหน่วยงานภาครัฐร่วมกันกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศผ่านการจัดงานประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลให้มีจำนวนเพิ่มขึ้น กระจายรายได้สู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่มีบทบาทในการส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ของประเทศไทย จึงได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลภายใต้แคมเปญมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” โดยแบ่งออกเป็น 3 มาตรการ ได้แก่

• มาตรการแรก มาตรการกระตุ้นบริษัท (Corporate) สนับสนุนกลุ่มองค์กรบริษัทภาคเอกชนในการจัดประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัลภายในประเทศ ในรูปแบบบัตรกำนัล (Voucher) มูลค่า 20,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น เป็นการดำเนินงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาชิกผู้ประกอบการไมซ์กว่า 200 หน่วยงาน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคเอกชนผ่านกลไกของกิจกรรมไมซ์ในประเทศ

• บริษัทหรือองค์กรภาคเอกชน ที่ขอการรับการสนับสนุนจะต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย หรือผู้ประกอบการที่ได้รับมอบอำนาจ ซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคม หรือสมาพันธ์ที่เป็นสมาชิกของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ที่มีแผนจัดกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งใน 6 กิจกรรมนี้ ได้แก่ การจัดประชุม (Meetings) การเดินทางเพื่อเป็นรางวัล (Incentive Travel) การอบรมสัมมนา (Trainings / Seminars) กิจกรรมนอกสถานที่ทำการของบริษัท (Outings) กิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ (Team buildings) หรือ กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR)

• เงื่อนไขการขอรับการสนับสนุน คือ กิจกรรมจัดขึ้นคนละจังหวัดกับที่ตั้งของบริษัทนั้นๆ มีวันพักค้างอย่างน้อย 1 คืน มีผู้เข้าร่วมงานอย่างน้อย 40 คนขึ้นไปต่อกลุ่ม สมัครเข้าร่วมโครงการล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันก่อนวันดำเนินกิจกรรม และจัดกิจกรรมภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 โดยจะได้รับเงินสนับสนุนในรูปแบบบัตรกำนัล (Voucher) มูลค่า 20,000 บาทต่อกลุ่ม และให้ดำเนินการจัดงานผ่านบริษัทผู้รับจัดงานที่เป็นนิติบุคคลจดทะเบียนในประเทศไทย หรือ DMC (Destination Management Company) ที่เข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งผ่านการรับรองจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยเป็นสมาชิกผู้ประกอบการไมซ์ ได้แก่ DMC โรงแรมที่พัก ศูนย์ประชุม บริการขนส่ง และแหล่งนันทนาการต่างๆ อยู่ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่พร้อมต้อนรับและให้บริการนักเดินทางด้วยมิตรไมตรี ทั้งนี้ สามารถดูข้อมูลรายชื่อได้จากแพลตฟอร์ม Thai MICE Connect

• บริษัทธุรกิจที่จะขอรับการสนับสนุน สามารถลงทะเบียนทางเว็บไซต์ www.thaimiceconnect.com โดยแจ้งความประสงค์ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 หรือเมื่อปิดรับครบจำนวน

• มาตรการที่สอง มาตรการสนับสนุนทางด้านภาษี โดยให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนำค่าใช้จ่ายในการจัดประชุมสัมมนาภายในประเทศ หักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง เพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายของภาคเอกชน ผ่านการจัดประชุมสัมมนาและฝึกอบรม และกระจายสู่พื้นที่สู่ภูมิภาค

• ปัจจุบัน บริษัทเอกชนมีการจัดกิจกรรมให้กับพนักงานและคู่ค้าเป็นประจำทั้งในและต่างประเทศ แต่เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น ส่งผลให้มีแนวโน้มที่จะเดินทางไปต่างประเทศมากขึ้นเช่นกัน มาตรการลดหย่อนภาษีจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างแรงจูงใจให้บริษัทเอกชนจัดประชุมสัมมนาในประเทศเพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดการใช้จ่ายและกระจายรายได้สู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

• มาตรการที่สาม การส่งเสริมการจัดประชุมภาครัฐ กระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศของหน่วยงานภาครัฐ โดยการจัดประชุมภาครัฐกระจายไปสู่ทุกภูมิภาค เนื่องจากการจัดประชุมของภาครัฐมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ หากมีการปรับเปลี่ยนให้สามารถใช้สถานที่ประชุมของภาคเอกชน จะช่วยสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และการจ้างงานเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมไมซ์

• แผนการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ตลาด มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” 

ทีเส็บ วางแผนส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ตลาด มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ “ประชุมเมืองไทย ภูมิใจช่วยชาติ” โดยเตรียมการสร้างการรับรู้แคมเปญผ่านช่องทางการสื่อสาร ทั้งสื่อออนไลน์และออฟไลน์ รวมทั้งการจัดกิจกรรมให้กับบริษัทเอกชน ได้สัมผัสประสบการณ์จัดประชุมสัมมนาในประเทศในพื้นที่ที่มีศักยภาพ ด้วยความมุ่งหวังว่าจะช่วยโน้มน้าวใจองค์กรบริษัทเอกชนให้มีการจัดประชุมสัมมนาในประเทศเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดการใช้จ่ายและกระจายรายได้สู่ชุมชน ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล

โดยมีทีเส็บกำหนดให้มีกิจกรรมดังนี้

• กิจกรรม “คณะผู้บริหารระดับสูงองค์กรและสื่อมวลชนสัมผัสประสบการณ์สถานที่จัดงานไมซ์ประชุมสัมมนาในประเทศในพื้นที่ที่มีศักยภาพ” ในวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 08.00-18.30 น. ณ จังหวัดชลบุรี เป็นโครงการนำร่องพาผู้บริหารระดับสูงขององค์กรธุรกิจและสื่อมวลชนกว่า 40 ราย ร่วมเส้นทางสายไมซ์ ณ จังหวัดชลบุรี ได้แก่ บ้าน 100 เสา ลานวัฒนธรรม บ้านตะเคียนเตี้ย และสถานที่จัดงานที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย หรือ Thailand MICE Venue Standard (TMVS) เพื่อกระตุ้นการจัดประชุมองค์กรและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล ผ่านการส่งเสริมและผลักดันร่วมกับภาคเอกชนและสื่อมวลชน สัมผัสประสบการณ์ตรงกับการร่วมกิจกรรมและประชุมสัมมนา ตอกย้ำศักยภาพความพร้อมของสถานที่จัดงานไมซ์ของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางไมซ์ระดับภูมิภาค

• กิจกรรมประชาสัมพันธ์ให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เป็นสื่อมวลชนในประเทศ อาทิ แถลงข่าว การสัมภาษณ์พิเศษ การจัดทำสกู๊ปประชาสัมพันธ์ เป็นต้น โดยรายงานความคืบหน้ากิจกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดโครงการ

• กิจกรรมผลิตและเผยแพร่สื่อ เพื่อแนะนำและประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้โครงการทั้งทางสื่อออนไลน์และออฟไลน์ โดยให้กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ผู้แทนสมาคม บริษัทเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ มีส่วนร่วมเป็นกระบอกเสียงสะท้อนความคิดเห็นและประสบการณ์จากการเข้าร่วมกิจกรรมอบรมสัมมนาในประเทศ รวมถึงร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจให้องค์กรหน่วยงานจัดประชุมในประเทศ ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยเข้าร่วมการประชุมสัมมนาในประเทศ ภูมิใจช่วยชาติ ผ่านสื่อครบวงจร ได้แก่ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ สื่อโทรทัศน์ และสื่อออนไลน์

เป้าหมายอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2563

ทีเส็บ ประมาณการเป้าหมายอุตสาหกรรมไมซ์ปี 2563 โดยประเทศไทยจะมีโอกาสต้อนรับนักเดินทางไมซ์ รวมทั้งสิ้นประมาณ 37,781,000 คน และสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศได้ประมาณ 232,700 ล้านบาท โดยแบ่งนักเดินทางไมซ์ออกเป็น

• นักเดินทางไมซ์ต่างประเทศ 1,386,000 คน สร้างรายได้ให้ประเทศได้ 105,600 ล้านบาท

• นักเดินทางไมซ์ในประเทศ 36,395,000 คน สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศ 127,100 ล้านบาท