ซัดบรรยินกับพวก 5 คน ใช้ซื้อซิม-น้ำมัน 20 ลิตร
ศาลอาญาคดีทุจริตฯสืบพยานล่วงหน้า 4 ปาก ใกล้ชิดผู้ต้องหาแก๊งอุ้มฆ่าพี่ผู้ พิพากษา 2 ปากแรกเป็นผัวเมียพม่าซัดเมียบรรยินใช้ซื้อซิมการ์ด ส่วนอีกปากถูกใช้ไปซื้อน้ำมัน 20 ลิตร ขณะที่กองปราบฯบุกค้นฟาร์มไก่ ส.จ.อ๊อด นครสวรรค์ ยึดรถกระบะและ จยย.ไปตรวจสอบเพิ่ม เผยเหตุ ส.จ.อ๊อด มีภาพไปงานศพในวันอุ้มเหยื่อ เพราะมีหน้าที่แค่หาคนร่วมอุ้ม อีกทั้งยังสารภาพรับเงิน 2 แสนบาทจากบรรยินให้หาคนมาร่วมงาน โดยไปจ้างไอ้ตูน-ไอ้เปรี้ยว 2 ผู้ต้องหาเด็กแถวบ้าน 5 หมื่น ระบุเป็นงานทวงหนี้คนแก่ สอดคล้องคำรับสารภาพ 2 ผู้ต้องหา บรรยิน สั่งให้แต่งชุดตำรวจอ้างให้เหยื่อกลัวและยอมจ่ายเงินโดยดี ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯเผย แยก 6 ผู้ต้องหาไว้คนละแดน สั่งดูแลใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย
จากเหตุอุ้มฆ่าเขย่ากระบวนการศาลยุติธรรม เมื่อ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี อดีต รมช. พาณิชย์ และ ส.ส.นครสวรรค์ หลายสมัย ถูกจับกุมพร้อมสมุน 5 คน คือนายมานัส ทับนิล อายุ 67 ปี นายณรงศักดิ์ ป้อมจันทร์ อายุ 49 ปี นายประชาวิทย์ ศรีทองสุข อายุ 34 ปี นายชาติชาย เมณฑ์กุล อายุ 31 ปี และ ด.ต.ธงชัย วจีสัจจะ หรือ สจ.อ๊อด อายุ 62 ปี ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันข่มขืนใจเจ้าพนักงาน ซ่องโจร เรียกค่าไถ่ และหน่วงเหนี่ยวกักขังให้สูญสิ้นอิสรภาพ รวม 6 ข้อหา หลังวางแผนอุ้มฆ่าเผานายวีรชัย ศกุน- ตะประเสริฐ พี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ เจ้าของสำนวนคดีปลอมแปลงเอกสารโอนหุ้นนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด กว่า 300 ล้านบาท เพื่อข่มขู่ น.ส.พนิดาให้ตัดสินยกฟ้องคดี พ.ต.ท.บรรยิน น.ส.กัณฐณา ศิวาธนะพล หรือน้ำตาล และ น.ส.อุรชา พรหมา หรือป้อนข้าว ตกเป็นผู้ต้องหา ชั้นสอบสวนสมุนโหดร่วมแก๊งรับสารภาพทั้งหมดซัดจอมบงการลงมือเผาเอง ขณะที่ พ.ต.ท.บรรยินยังปฏิเสธก่อนพนักงานสอบสวนกองปราบปรามนำตัวฝากขังศาล อาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง และคัดค้านการประกันตัว ศาลอนุญาตตามคำร้อง ทั้งหมดถูกคุมตัวเข้าเรือนจำทันที
...
ศาลนัดสืบพยานล่วงหน้า
ความคืบหน้าในคดีอุ้มฆ่าเผาพี่ชายผู้พิพากษา เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 ก.พ. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนนครไชยศรี ศาลนัดสืบพยานล่วงหน้าตามที่อัยการยื่นคำร้องขอในคดีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อายุ 56 ปี อดีต รมช.พาณิชย์, นายณรงค์ศักดิ์ ป้อมจันทร์ อายุ 48 ปี, นายชาติชาย หรือเปรี้ยว เมณฑ์กุล 31 ปี นายประชาวิทย์ หรือตูน ศรีทองสุข อายุ 33 ปี ด.ต.ธงชัย หรือ ส.จ.อ๊อด วจีสัจจะ อายุ 63 ปี เป็นผู้ต้องหา 1-6 คดีอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษาอาวุโสศาลอาญากรุงเทพใต้เจ้าของสำนวนคดีโอนหุ้น นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง
4 ผู้ต้องหาตั้งทนายซักค้าน
สำหรับการนัดสืบพยานล่วงหน้าครั้งนี้ พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องหาที่ 1 แต่งตั้งนายบัญชา ชัยจำ ทนายความผู้รับผิดชอบคดีโอนหุ้นนายชูวงษ์ (ศาล อาญากรุงเทพใต้) และคดีฆาตกรรมนายชูวงษ์ (ศาล อาญาพระโขนง) เป็นทนายความในคดีนี้ด้วย ส่วนนายมานัสและนายณรงค์ศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 2-3 ยังไม่มีทนายความ สำหรับนายชาติชาย นายประชาวิทย์ หรือตูน ด.ต.ธงชัย หรือ ส.จ.อ๊อด ผู้ต้องหาที่ 4-6 ได้แต่งตั้งทนายความเข้ามาเพื่อร่วมซักค้านการสืบพยานล่วงหน้าเช่นกัน
แจงเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย
ขณะที่ศาลได้ชี้แจงให้ผู้ต้องหาได้ทราบถึงระบบการพิจารณาคดีในศาลอาญาคดีทุจริตด้วยว่าเป็นระบบไต่สวนที่ผู้พิพากษาองค์คณะ จะเป็นผู้ถามคำถามกับพยานเองเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง โดยให้สิทธิอัยการและทนายความ รวมทั้งผู้ต้องหา ขออนุญาตศาลซักถามเพิ่มเติมและซักค้านพยานที่นำมาสืบนี้ได้ด้วย ส่วนผู้ต้องหาที่ 2-3 ซึ่งยังไม่มีทนายความมาศาลในวันนี้โดยอยู่ระหว่างการแต่งตั้งทนาย การสืบพยานล่วงหน้าวันนี้ศาลจะเป็นผู้ตั้งคำถามให้เองก่อนเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย
พยานเป็นต่างด้าวใกล้ชิด ผตห.
การยื่นคำร้องขอสืบพยานล่วงหน้าวันนี้ ตามคำร้องของอัยการ ระบุเหตุผลตามกฎหมาย เนื่องจากพยานเป็นบุคคลต่างด้าวทั้งหมด อาจจะเกิดความลำบากในการติดตามตัว ประกอบกับพยานทั้งหมดเป็นบุคคลใกล้ชิดกับผู้ต้องหา ต้องดำเนินการสืบพยานล่วงหน้าไว้ก่อน โดยอัยการขอให้ศาลสืบพยานด้วยระบบ Video Conference แยกห้องระหว่างพยานกับผู้ต้องหาทั้ง 6 ด้วยเพื่อไม่ให้เป็นการเผชิญหน้ากัน
ปากแรกถูกใช้ไปซื้อน้ำมัน 20 ล.
จากนั้นอัยการนำพยานเข้าเบิกความ 3 ปาก คือชายชาวเมียนมา อายุ 29 ปี เป็นลูกเขยนายณรงค์ศักดิ์ ผู้ต้องหาที่ 3 ที่ถูกใช้ให้ไปซื้อน้ำมัน 20 ลิตรเบิกความว่า เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ขี่ จยย.ไปซื้อน้ำมันที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ใกล้บ้านพัก จ.นครสวรรค์ 200-300 เมตร วันที่ซื้อน้ำมันไม่มีผู้ต้องหาอื่นอยู่ด้วย โดยพยานไม่รู้ว่าพ่อภรรยาสั่งซื้อน้ำมันไปทำอะไร ปกติเคยถูกสั่งซื้อน้ำมันแต่จำนวนน้อยแค่ 20-30 บาท ไม่เคยซื้อจำนวนมาก 20 ลิตรมาก่อน
อีก 2 ปาก ซื้อซิมการ์ดให้เมียบรรยิน
พยานคนที่ 2 เป็นหญิงอายุ 39 ปี เชื้อชาติกะเหรี่ยง สัญชาติเมียนมา แม่บ้านของภรรยา พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องหาที่ 1 ส่วนพยานปากที่ 3 ชายชาวเมียนมา สามีของหญิงแม่บ้านที่เป็นคนไปซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ให้ภรรยา พ.ต.ท.บรรยิน เมื่อวันที่ 5 ม.ค.63 ทั้ง 2 ปากให้การว่า วันที่ 5 ม.ค.ได้ซื้อซิมการ์ด 1 อัน หมายเลข 08-0270-9516 จากร้านสะดวกซื้อ ปกติหากถูกใช้ให้ซื้อซิมการ์ดจะไปซื้อที่ร้านขายมือถือใกล้ร้านสะดวกซื้อ แต่เนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันอาทิตย์ ร้านมือถือปิด ได้ซื้อซิมที่ร้านสะดวกซื้อแทน และไม่เคยรู้ว่าซิมที่สั่งให้ซื้อนี้จะนำไปใช้อะไร โดยพยานทั้ง 3 ปาก เบิกความยืนยันไม่เคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับกลุ่มผู้ต้องหาคดีนี้มาก่อน การเบิกความวันนี้พยานก็ได้ยืนยันรูปถ่ายท้ายบันทึกคำให้การว่ามีบุคคลใดบ้าง พร้อมระบุว่ารู้จักกับผู้ต้องหาที่ 1, 2, 3 ในคดีนี้
...
ศาลซักละเอียดพยานปาก 4
ส่วนพยานปากที่ 4 เป็นพนักงานหญิง บริษัทก่อสร้างของนางวราภรณ์ ภรรยา พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องหาที่ 1 ศาลได้ซักถามถึงประเด็นโทรศัพท์ที่ผู้ต้องหาที่ 1 ใช้ รวมถึงประเด็นรถยนต์ฟอร์ดเอเวอเรสต์ ทะเบียน กร 39 และรถกระบะโตโยต้า รุ่นสปอร์ตไรเดอร์ ทะเบียน ชฉ 583 ด้วย พยานทราบเพียงว่ารถยนต์ฟอร์ด เอเวอเรสต์นั้น ผู้ต้องหาที่ 1 และลูกชายใช้ขับ ส่วนกระบะสปอร์ตไรเดอร์ ไม่ทราบว่าใครใช้บ้าง ขณะที่ พ.ต.ท.บรรยิน ขออนุญาตศาลใช้สิทธิซักถามพยานปากนี้ด้วยว่า พยานทราบรายละเอียดเกี่ยวกับสำนักงานนั้น แล้วพยานรู้หรือไม่ว่าส่วนที่พยานได้ทำงานอยู่ก็เป็นพนักงานบันทึกข้อมูลเกม พนันออนไลน์และหวยใต้ดิน พยานตอบว่าไม่ทราบ
ป.ลุยค้นฟาร์มไก่ ส.จ.อ๊อด
ในส่วนของการรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีแก๊งทมิฬ ก่อนหน้านี้เมื่อเช้าวันเดียวกัน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ชุดสืบสวนนำหมายค้นศาลอาญา เข้าตรวจค้นฟาร์มไก่ธงชัย ในพื้นที่หมู่ 4 บ้านดอนวัด ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ ของ ด.ต.ธงชัย วจีสัจจะ หรือ ส.จ.อ๊อด สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ 1 ใน ผู้ต้องหาทีมอุ้มฆ่าพี่ชาย น.ส.พนิดา ศกุนตะประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมตรวจยึดรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ แบบยกสูง 4 ประตู สีขาว ทะเบียน กน 919 นครสวรรค์ และรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง ทะเบียน ขวพ 417 นครสวรรค์ ไปตรวจสอบ ขณะตรวจค้นมีนายสายชล เข็มทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านดอนวัด ต.หนองกรด มาแสดงตนว่าเป็นเจ้าของรถกระบะ และคอยดูแลฟาร์มดังกล่าว
เผย ส.จ.อ๊อดสนิทบรรยินมานาน
นายสายชลกล่าวว่า สนิทสนมกับ ส.จ.อ๊อด มานาน รถกระบะที่ถูกยึดไปนั้นเป็นรถตนที่ ส.จ.อ๊อดยืมไปใช้นานแล้ว ส่วนรถ จยย.เป็นของ ส.จ.อ๊อดใช้ขี่ไปมาในฟาร์มไก่ ส่วนตัวไม่เชื่อว่าจะเป็น 1 ในผู้ร่วมขบวนการอุ้มฆ่า และไม่เชื่อด้วยว่านายชาติชาย เมณฑ์กุล และนายประชาวิทย์ ศรีทองสุข ลูกน้อง ส.จ.อ๊อด ที่ถูกจับพร้อมกันจะร่วมลงมือด้วย เพราะ 2 คนนี้เป็นเด็กที่ ส.จ.อ๊อดมักจะจ้างให้มาช่วยเวลามีจัดแข่งชนไก่ไม่น่าจะมีพฤติกรรมโหดเหี้ยมตามข่าวที่มีการนำเสนอ อย่างไรก็ตาม สมัยรับราชการตำรวจ ด.ต.ธงชัยสนิทสนมกับ พ.ต.ท.บรรยิน มานานหลายปี จน พ.ต.ท.บรรยินลาออกจากราชการเข้าสู่สนามการเมือง ด.ต.ธงชัยตัดสินใจลาออกลงมาเล่นการเมืองตาม
...
งมแม่น้ำไม่พบหลักฐานเพิ่ม
ขณะที่การค้นหาหลักฐานและเศษชิ้นส่วนศพพี่ชายผู้พิพากษาในแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่ 3 ต.กลางแดด อ.เมืองนครสวรรค์ ตำรวจน้ำและนักประดาน้ำจากหลายมูลนิธิฯยังปฏิบัติการค้นหาอย่างต่อเนื่อง หลังจากเย็นวันที่ 25 ก.พ. ได้พบชิ้นส่วนกระดูกคล้ายกับกระดูกมนุษย์ 6 ชิ้น บริเวณตอม่อสะพานเลี่ยงเมืองข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แต่การค้นหาในวันนี้ยังไม่พบหลักฐานใดเพิ่ม ส่วนที่แม่น้ำปิง หน้าวัดไทรใต้ ต.ปากน้ำโพ อ.เมืองนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ยังคงลงงมหาหลักฐานอย่างต่อเนื่องเช่นกัน แต่ยังไม่พบหลักฐานใดเพิ่มเติมเช่นกัน โดยจุดนี้เป็นจุดที่งมพบโทรศัพท์มือถือทั้งของผู้ตายและของผู้ต้องหาช่วงที่ผ่านมา
บรรยินสั่ง ส.จ.อ๊อดหาคนอุ้ม
รายงานข่าวระบุว่า จากแนวทางสืบสวนของกองปราบฯและ บก.สส.บช.น. หลังรับมอบหมายเข้าสืบสวนคลี่คลายการหายตัวไปของนายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานข้อมูลต่างๆทั้งจากพยานบุคคล พยานหลักฐานต่างๆ และข้อมูลการติดต่อของกลุ่มแก๊งผู้ต้องหาจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งหมดแบ่งหน้าที่กันทำ ก่อนเกิดเหต ุ พ.ต.ท.บรรยิน สั่งให้ ด.ต.ธงชัย วจีสัจจะ หรือ ส.จ.อ๊อด อดีตตำรวจคนสนิท จัดหาคนมาร่วมงานในครั้งนี้ โดย ส.จ.อ๊อดได้ติดต่อนายประชาวิทย์ ศรีทองสุข หรือนายตูน และนายชาติชาย เมณฑ์กุล หรือนายเปรี้ยว คนในละแวกหมู่บ้านให้มาร่วมงานกับ พ.ต.ท.บรรยิน ก่อนติดต่อให้นายมานัส ทับนิล ขับรถไปรับทั้ง 2 คนมาที่บ้าน พ.ต.ท.บรรยิน ในซอยรัชดา 33 เพื่อร่วมวางแผนก่อเหตุ
จ้าง 2 คน 5 หมื่นทวงหนี้คนแก่
ส่วนกรณีที่ ด.ต.ธงชัย หรือ ส.จ.อ๊อด ไม่ปรากฏอยู่ในคำร้องฝากขังขณะร่วมอุ้มนายวีรชัย ตลอดจนถึงเรื่องการเผานั่งยาง อีกทั้งยังปรากฏภาพไปร่วมงานศพคนในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 4 ก.พ.นั้น จากคำให้การของนายประชาวิทย์และนายชาติชายรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อจาก ส.จ.อ๊อด ให้มาร่วมก่อเหตุกับ พ.ต.ท.บรรยิน ตรงกับคำให้การของ ส.จ.อ๊อด ที่ปฏิเสธว่าไม่ได้อยู่ในทีมอุ้มฆ่าพี่ชายผู้พิพากษา แต่รับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจาก พ.ต.ท.บรรยิน 200,000 บาท ให้จัดหาลูกน้อง 2 คน โดย ส.จ.อ๊อดจ้างนายประชาวิทย์และนายชาติชายในราคา 50,000 บาท บอกว่าเป็นงานอุ้มทวงหนี้คนแก่
...
สั่งแต่งชุด ตร.อ้างให้เหยื่อกลัว
วันเกิดเหตุ พ.ต.ท.บรรยินได้แต่งเครื่องแบบตำรวจ และยังบอกกับทีมอุ้มว่า ต้องแต่งเครื่องแบบเพื่อให้เป้าหมายกลัวจะได้ยอมจ่ายเงินคืนให้โดยดี หลังจากส่งลูกน้องให้ไปร่วมแล้ว ส.จ.อ๊อดได้ใช้ชีวิตตามปกติ และไปร่วมงานศพคนในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 4 ก.พ. ตามภาพที่ปรากฏ ทั้งนี้ ยังพบหลักฐานว่าในเช้าวันที่ 4 ก.พ. ส.จ.อ๊อดขับรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีขาว คันที่ชุดสืบสวนยึดมาจากฟาร์มไก่ พานายประชาวิทย์และนายชาติชายออกมาส่งขึ้นรถกระบะฟอร์ด สีดำ ที่มีนายมานัสเป็นคนขับรถ พ.ต.ท.บรรยินนั่งข้างคนขับ นายณรงค์ศักดิ์นั่งอยู่ข้างหลัง ก่อนที่ทั้ง 5 คนจะขึ้นรถเข้า กทม.ไปก่อเหตุในช่วงเย็นวันเดียวกัน
ผลเลือดในรถยืนยันเป็นผู้ตาย
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์เบื้องต้นพบว่า คราบเลือดที่พบในรถยนต์โตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ ที่ใช้เป็นรถยนต์ก่อเหตุ เป็นคราบเลือดของนายวีรชัย พี่ชายผู้พิพากษาศาลอาญากรุงเทพใต้ เช่นเดียวกับแหวนรูปเต่า หัวเข็มขัดที่พบในจุดเผาศพ ครอบครัวผู้ตายยืนยันแล้วเป็นของนายวีรชัยเช่นกัน ส่วนชิ้นส่วนกระดูกและกะโหลกศีรษะที่เพิ่งพบ อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอ จะทราบผลการตรวจพิสูจน์ในสัปดาห์หน้า สำหรับรถยนต์ของกลางทั้งหมด 4 คัน ที่กองปราบปรามตรวจยึดมาก่อนหน้า มีชื่อ พ.ต.ท.บรรยิน กับภรรยา และลูกชาย เป็นเจ้าของรถ และมีบางคันที่เป็นรถที่กลุ่มผู้ต้องหารายนี้ไปจัดหามาใช้ก่อเหตุ
แยกแก๊งทมิฬอยู่คนละแดน
วันเดียวกัน นายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า หลังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รับตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ กับพวกรวม 6 คน เข้าเรือนจำเมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 ก.พ. ได้ทำตามระเบียบและขั้นตอนการรับตัวผู้ต้องขังให้ทำประวัติ ตรวจโรค และอื่นๆ จากนั้นแยกผู้ต้องขังใหม่ทั้ง 6 คนไปไว้คนละแดนในเรือนจำ รวมถึงให้ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อความปลอดภัย ส่วน พ.ต.ท.บรรยินตรวจพบมีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน ผู้ต้องขังนำยามารับประทานเอง หากหมด แพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์จะจัดยารักษาให้
อสส.แจงเหตุไปศาลคดีทุจริต
ขณะที่นายประยุทธ เพชรคุณ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยถึงกรณีมีข้อสงสัย เหตุใดกองปราบฯ นำสำนวนคดีจับ พ.ต.ท.บรรยินกับพวกไปดำเนินคดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ทั้งที่เป็นคดีอาชญากรรมว่า ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559 มาตรา 3 (3) ให้นิยามคำว่า คดีอาญาและประพฤติมิชอบ ให้หมายความถึงคดีอาญาที่ฟ้องให้ลงโทษบุคคลในความผิดเกี่ยวกับการใช้กำลัง ประทุษร้าย ขู่เข็ญ ว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือใช้อิทธิพลเพื่อจูงใจหรือข่มขืนใจให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการ ไม่กระทำการตามประมวลกฎหมายอาญาด้วย ดังนั้น ข้อเท็จจริงที่จากการสอบสวนเป็นเรื่องที่ พ.ต.ท.บรรยินถูกกล่าวหา ว่าประทุษร้ายเพื่อข่มขืนใจเจ้าพนักงานอยู่ในอำนาจของศาลคดีอาญาคดีทุจริตฯ และบรรดาผู้สนับสนุน ถ้ามีอีกก็เป็นกรณีเกี่ยวพัน ต้องดำเนินคดีที่ศาลเดียวกันนี้