"ขออถวายคำสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจักยอมตาย เพื่อเทิดทูนและรักษาไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์เจ้า"

ประโยคนำร่องเปล่งเสียงกึกก้องของเหล่าทหาร-ตำรวจ แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กลางงานพิธีสวนสนามถวายสัตย์ปฏิญาณเนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 และวันกองทัพไทย เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2563 ณ ศูนย์การทหารม้า ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี

ประกาศ “คำมั่นสัญญา” ที่จะจงรักภักดีและถวายความปลอดภัยต่อใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทพระเจ้าแผ่นดินตราบชีวิตจะหาไม่

“ข้าพระพุทธเจ้าจักพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ข้าพระพุทธเจ้าจักดูแล ช่วยเหลือ เป็นที่พึ่งของประชาชน และจักปกครองดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยความยุติธรรม ข้าพระพุทธเจ้าจักตั้งมั่นอยู่ในศีลธรรมของศาสนาและจริยธรรม”

“ข้าพระพุทธเจ้าจักรักษาความถวายสัตย์ปฏิญาณนี้ด้วยเกียรติยศและเกียรติศักดิ์ของทหาร-ตำรวจ ทั้งจักปฏิบัติตน ปฏิบัติภารกิจให้เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททุกประการตลอดไป”

สมดังพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานในใจความตอนหนึ่งว่า ข้าพเจ้าจึงยินดีมากที่ได้เห็นความพร้อมเพรียงของทหารตำรวจในวันนี้ ทั้งยังได้แสดงความจงรักภักดี และเจตนาอันแน่วแน่ที่จะปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติและประชาชน

ขอให้นายทหารและตำรวจทุกคนรักษาคำปฏิญาณที่ได้ให้ไว้อย่างเคร่งครัด

“ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงตรง เข้มแข็ง และเสียสละ พร้อมทั้งหมั่นศึกษาฝึกฝนตนเองให้มีความจัดเจน คล่องแคล่วในหน้าที่และในการปฏิบัติงานทุกคน ทุกฝ่ายจะได้สามารถร่วมมือร่วมใจกันสร้างสรรค์ความวัฒนาผาสุกให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ ได้ตามอุดมคติที่ตั้งมั่นไว้ตลอดไป”

...

ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยสิ่งศักดิ์สิทธิ์และอำนาจแห่งความภักดีโดยบริสุทธิ์ใจต่อบ้านเมือง จงบันดาลให้ท่านทั้งหลายมีแต่ความสุขความเจริญและความสามัคคีสวัสดีโดยทั่วกัน.

"สหบาท"