ฝุ่น PM 2.5 นอกจากสร้างปัญหาทางด้านระบบทางเดินหายใจ ยังมีปัญหาต่อผิวหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้เครื่องสำอาง เพราะฝุ่นควัน รวมทั้งมลพิษจะมาเกาะติดผิวรวมกับแป้งและครีมรองพื้น หากทำความสะอาดผิวไม่ดี จะทำให้ผิวกร้านและเกิดการอุดตัน
นางสาววรรณิศา วิชิต นักศึกษาปริญญาเอก สำนักวิชาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จึงได้ทำโครงการวิจัย “การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชะลอความชราที่มีสารสกัดจากเนื้อเยื่อเพาะเลี้ยงจมูกข้าว” ภายใต้แผนงานวิจัยมุ่งเป้าตอบสนองความ ต้องการในการพัฒนาประเทศโดยเร่งด่วน : เรื่องข้าว ประสบความสำเร็จคิดค้นสูตรครีมโฟม 3 in 1 ขึ้น โดยมี ผศ.ดร.นิสากร แซ่วัน เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา และสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) สนับสนุนทุนวิจัย

“การเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์ เราเลือกใช้ข้าวแดง เพราะมีสารโปรไซยานิน ในกลุ่มฟลาโวนอยด์ที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพสูงมากกว่าข้าวขาว และยังมีสารโปรไซยานิดินมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และป้องกันการสลายตัวของคอลลาเจน”
...
นางสาววรรณิศา เผยถึงวิธีการเพาะเลี้ยงสเต็มเซลล์...เริ่มจากนำข้าวแดงมาเพาะเลี้ยงให้เกิดเป็นแคลลัส ซึ่งเป็นการเลี้ยงให้ข้าวแดงเกิดการแบ่งเซลล์ เกิดเนื้อเยื่อแตกตัว เพื่อนำไปสกัดเอาสารสำคัญ กรดอะมิโน กรดนิวคลีอิก คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความชรา

จากนั้นนำสารสำคัญมาพัฒนาเป็นครีมโฟม 3 in 1 โดยใช้เทคโนโลยีไมเซลล์ (Micelle) เทคโนโลยีที่ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางของยุโรปที่นิยมใช้กัน เพราะช่วยให้การขจัดสิ่งสกปรกหลุดออกได้ง่าย และยังช่วยควบคุมการปลดปล่อยสารสำคัญ ให้มีความคงตัว ซึมเข้าสู่ผิว ช่วยให้ไม่เกิดอาการผิวตึงหลังล้างหน้า
และเมื่อนำครีมโฟม 3 in 1 ไปทดสอบในกลุ่มอาสาสมัครในมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง 30 ราย ทดลองใช้เป็นระยะเวลา 14 วัน ผลการตรวจวัดสภาพผิวด้วยเครื่องวัด Skin Visiometer พบว่า ริ้วรอยการอักเสบของอาสาสมัครทั้งหมดลดลง รอยดำเริ่มจางลง สภาพผิวไม่แห้งกร้าน.
