ความอัดอั้นของข้าราชการตำรวจ (นายร้อย 53) เลื่อนไหล เป็นผู้ที่มีวุฒิปริญญาตรี มีตำรวจชั้นประทวนหลายพันนายที่ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถมาโดยตลอดกว่า 30 ปี

หลายคนใช้วันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือว่างเว้นจากหน้าที่ราชการ ไปศึกษาเล่าเรียนเพิ่มเติมคุณวุฒิจนจบปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก ต้องทุ่มเทกำลังใจ และกำลังทรัพย์สินส่วนตัวศึกษาหาความรู้ เพื่อหวังความเจริญก้าวหน้าในชีวิตรับราชการเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของตัวเองและครอบครัว จะได้ใช้ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ราชการให้เป็นคุณประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติบ้านเมืองโดยรวมให้ได้มากที่สุด

สมกับที่ทุ่มเทเล่าเรียนกันมา

แต่เมื่อมีการเปิดสอบแข่งขันในระดับปริญญาตรีเลื่อนเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร มีผู้เข้าสอบเป็นจำนวนมาก ทำให้พลาดโอกาสไป การสอบไม่ได้หมายความว่าไม่มีความรู้ แต่อาจจะเป็นเพราะโชคชะตาและโอกาสจังหวะของชีวิตด้วยส่วนหนึ่ง เช่น ไม่มีความพร้อมจากภาระหน้าที่การงานที่รับผิดชอบ แต่ยังไม่ท้อถอยพยายามไปเรียนต่อปริญญาโท เพื่อจะสอบแข่งขันในระดับปริญญาโท

ที่ผ่านมามีเปิดสอบแค่ครั้งเดียว ยังไม่มีอีกเลยจนถึงปัจจุบัน นายดาบตำรวจได้แต่เฝ้ารอด้วยความหวังที่อยากเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน จึงพยายามไปเรียนต่อในระดับปริญญาเอกจนอายุ 53 ปี รอวันที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดส่งเข้าอบรมเป็นนายร้อยเลื่อนไหลถึงยศร้อยตำรวจเอก

พอกลับมาทำงานตำแหน่งเดิม เพราะเลขตำแหน่งยังเป็นของชั้นประทวน ได้รับการดูแคลนจากสังคมตำรวจด้วยกันเองว่าเป็น “นายร้อยเข่งไม่ใช่นายร้อยหลัก” นายร้อยเลื่อนไหลดาบ 53 ไม่ได้รับการยอมรับนับถือและให้ความสำคัญเท่าที่ควร ทั้งที่เป็นผู้อาวุโสด้วยอายุ และประสบการณ์การทำงานที่ยาวนาน ที่สำคัญครองยศแต่ละชั้นยศนานมากถึง 3 ปี

...

ขอความเห็นอกเห็นใจผู้ใหญ่ที่มีอำนาจเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่นายร้อย 53 ผู้มีวุฒิปริญญาตรี ปริญญาโทและปริญญาเอก ให้ได้รับการพิจารณาให้ครองยศน้อยปีลงเพื่อจะได้เลื่อนยศเร็วขึ้น เป็นเกียรติยศชื่อเสียงแก่วงศ์ตระกูลก่อนเกษียณราชการ

ชีวิตราชการที่เหลืออีกไม่เกิน 3 ปี

จะได้ทำประโยชน์แก่ประเทศชาติบ้านเมืองไม่มากก็น้อยเพื่อไม่ให้เป็นการสูญเปล่าทางการศึกษาไปพร้อมกับการเกษียณอายุราชการ แต่ไม่รู้ว่าจะไปพึ่งพาองค์กรหรือหน่วยงานใดเป็นปากเป็นเสียงให้เรื่องสำคัญนี้ได้รับการพิจารณาเหลียวแลจากผู้หลักผู้ใหญ่ในหน่วยงาน

รางวัลในบั้นปลายชีวิตตำรวจ.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th