กทม.แชมป์ตายมากสุด ตู้เสยเสาไฟรถยับเจ็บ13

สังเวยปีใหม่ 6 วันตายแล้ว 317 ศพ เจ็บ 3,160 คน กรุงเทพฯครองแชมป์ 14 ศพ 7 จังหวัดยังรักษาสถิติตายเป็นศูนย์ รองโฆษกตำรวจยกตัวเลขเทียบปีก่อนดับน้อยกว่าถึง 102 ศพ ชี้อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบนถนนสายรอง นายกฯ “บิ๊กตู่” ย้ำไอเดียเปลี่ยน 7 วันอันตรายเป็น 7 วันเทศกาลแห่งความสุข หวังลดความสูญเสีย ระบุชื่อเก่าฟังแล้วไม่สร้างสรรค์ ขณะที่บรรยากาศการเดินทางกลับคืนก่อนวันทำงานรถน้อยกว่าเป้า เจ้าหน้าที่เผยสาเหตุบางส่วนหยุดยาวถึงเสาร์-อาทิตย์ ส่วนสถานีรถไฟหัวลำโพงกับหมอชิตคึกคักประชาชนแบกข้าวสารอาหารแห้งจากบ้านมากินที่ กทม.

อุบัติเหตุปีใหม่ช่วง 6 วันอันตรายคร่าชีวิต คนไทยทะลุเกิน 300 ศพแล้ว โดยเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 2 ม.ค. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย แถลงว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 รวบรวมสถิติอุบัติเหตุประจำวันที่ 1 ม.ค. วันที่ 6 ของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 547 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 55 ราย ผู้บาดเจ็บ 577 คน สาเหตุอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับร้อยละ 39.31 ขับรถเร็วร้อยละ 28.34 ยานพาหนะเกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ร้อยละ 79.35 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรงร้อยละ 65.81 ถนนกรมทางหลวงร้อยละ 36.75 ถนนใน อบต.หมู่บ้านร้อยละ 35.83 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 00.01-04.00 น. ร้อยละ 30.71 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไปร้อยละ 21.84 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,036 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 64,989 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 1,014,405 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 246,328 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 61,416 ราย ไม่มีใบขับขี่ 55,467 ราย จังหวัดเกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ สงขลา (32 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ราชบุรีและอุดรธานี (จังหวัดละ 4 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ สงขลา (35 คน)

...

นายทรงศักดิ์กล่าวว่า สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 6 วันของการรณรงค์ (27 ธ.ค.62-1 ม.ค.63) เกิดอุบัติเหตุรวม 3,076 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 317 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 3,160 คน จังหวัดไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 7 จังหวัด ได้แก่ ตราด พะเยา ภูเก็ต แม่ฮ่องสอน ยะลา ลำพูน และสตูล จังหวัดเกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ สงขลา (95 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพฯ (14 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ สงขลา (100 คน)

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการ ศปถ. เปิดเผยว่า จากการวิเคราะห์สถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วง 6 วันที่ผ่านมา พบสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ยังเกิดจากการดื่มแล้วขับ และขับรถเร็ว จึงขอฝากเตือนประชาชนให้เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนขับรถ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มไม่ขับ เพิ่มความระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน ไม่ขับรถเร็ว เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้มากกว่าปกติ ไม่ตัดหน้าระยะกระชั้นชิด ปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด และมีน้ำใจต่อผู้ร่วมใช้เส้นทาง เพื่อถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ว่า ตัวเลขอุบัติเหตุผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต โดยเฉพาะยอดผู้เสียชีวิตลดลงอย่างมีนัย แต่ยังเหลืออีก 1 วัน ถ้าเป็นไปตามนี้สิ่งที่น่าจะต้องทำคือต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่ามาตรการใดที่ทำแล้วเกิดผลให้มียอดลดลง แต่ถ้าเป็นจำนวนทั้งโลกแล้วเรายังสูงอยู่ ฉะนั้นต้องทำทั้งวิเคราะห์ถึงมาตรการใดที่ทำให้ยอดการเสียชีวิตใน 7 วันนี้ลดลงแล้วจะต้องทำต่อเนื่องไปเพื่อลดให้ได้มากกว่านี้ ทุกฝ่ายมีมาตรการและบังคับใช้กฎหมาย ทั้งรณรงค์ให้ความสะดวก ทุกคนทุ่มเทเพื่อที่จะไปดูแลในพื้นที่ แต่ละพื้นที่ปรับแผนตามสถานการณ์อย่างเข้มแข็ง ส่วนเรื่องอุบัติเหตุบนถนนสายหลักสายรองต้องวิเคราะห์ว่าอย่างไหนมีอุบัติเหตุมากกว่ากัน มันมีนัยต้องดูว่ามันเกิดเหตุที่ไหนบ้าง แต่ถ้าเราสามารถลดเหตุที่ถนนสายรองจริงก็ต้องดูว่าเป็นมาตรการอะไร ถ้าได้ผลคงทำต่อเนื่องไป

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงการรักษาความปลอดภัยและการจัดการจราจรเทศกาลปีใหม่ว่า จากข้อมูลจากศูนย์อำนวยการและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 สรุปอุบัติเหตุทางถนนช่วงวันที่ 27 ธ.ค.62-1 ม.ค.63 มีสถิติอุบัติเหตุ 3,076 ครั้ง ลดลง 346 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 10.11 ในช่วงเดียวกันของเทศกาลปีใหม่ 62, มีผู้บาดเจ็บ 3,160 คน ลดลง 341 คน คิดเป็นร้อยละ 9.74 และมีผู้เสียชีวิต 317 คน ลดลง 102 คน คิดเป็นร้อยละ 24.34 สาเหตุอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถในขณะเมาสุราและขับรถโดยใช้ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด สถิติสะสมช่วง 27 ธ.ค.62-1 ม.ค.63 อุบัติเหตุจากการขับรถในขณะเมาสุราคิดเป็นร้อยละ 33.81 ลดลงร้อยละ 7.46 จากในช่วงเดียวกันของเทศกาลปีใหม่ 2562 และยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์และรถกระบะ

ที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 12.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า อยากให้ยกยอดผู้บาดเจ็บและสูญเสียจากการจราจรช่วงปีใหม่เป็นกรณีศึกษาจะต้องพิจารณาว่าเป็นการเสียชีวิตลักษณะใด ช่วงเวลาใดเพื่อนำไปแก้ไขต่อไป ส่วนราชการทำเต็มที่แล้วประชาชนก็ต้องระมัดระวังตัวเองด้วย แม้ยอดการสูญเสียจะน้อยลง แต่ก็ไม่สบายใจเพราะยังมีผู้เสียชีวิตกว่าร้อยคน หวังว่าในห้วงต่อไปเช่นเทศกาลสงกรานต์จะลดผู้เสียชีวิตลงได้ สำหรับชื่อ 7 วันอันตรายฟังแล้วไม่สร้างสรรค์อยากให้เปลี่ยนเป็น 7 วันเทศกาลแห่งความสุขได้หรือไม่ เพื่อให้นึกถึงความสุขและความปลอดภัย จำเป็นต้องสร้างแรงจูงใจประเภทนี้ ทั้งนี้ปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากถนนสายรอง

ส่วนบรรยากาศการเดินทางกลับตามสถานีขนส่งจังหวัดใหญ่ๆ ยังมีประชาชนไปรอซื้อตั๋วกันแต่เช้ามืด โดยที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมา แห่งที่ 2 อ.เมืองนครราชสีมา เนืองแน่นไปด้วยผู้โดยสาร หลายคนโดยสารมาจากพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อมาต่อรถที่โคราช แต่ต้องรอรถนานกว่า 4 ชม. เนื่องจากรถทัวร์ที่ตีรถกลับมารับผู้โดยสารต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง ทั้งนี้ ขนส่งจังหวัดนครราชสีมาเพิ่มเที่ยวรถสายนครราชสีมา-กรุงเทพฯ จากเดิม 200 เที่ยว เป็น 400 เที่ยว รถเสริมไม่ประจำทาง 60 คัน และให้บริการต่ออีก 1 วัน เนื่องจากยังมีผู้โดยสารตกค้างอีกหลายพันคน

...

ขณะที่สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพช่วง จ.นครราชสีมา มีรถหนาแน่นตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา กระทั่งเช้าสามารถทำความเร็วได้คล่องตัว ยกเว้นบางช่วงหน้าปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส ช่วงทางต่างระดับสามแยกปักธงชัย ทางขึ้นเขาตั้งแต่เขต ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว รถชะลอตัวยาวต่อเนื่องไปถึง ต.กลางดง อ.ปากช่อง ถึงพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ส่วนเส้นทาง 304 ช่วง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา รถแน่นเช่นเดียวกัน กระทั่งเข้าสู่เขตรอยต่อ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทำความเร็วปกติ ทั้งที่เจ้าหน้าที่ประเมินล่วงหน้าว่ารถจะมากเกือบทั้งคืน ขณะที่บรรยากาศบนสถานีขนส่งกบินทร์บุรี จุดเชื่อมต่อภาคตะวันออกกับภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบว่าช่วงเช้ามีผู้โดยสารน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เช่นกัน

นายอติชาติ บุญยัง ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงปราจีนบุรี กล่าวว่า ถนนสาย 304 ตั้งแต่รอยต่อจาก อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ไปถึงพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี มีระยะทาง 100 กม.เศษ ทุกปีการจราจรช่วงการเดินทางกลับจะมีรถมาก แต่ในปีนี้ปริมาณรถขาล่องน้อยผิดปกติ ทำให้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงปราจีนบุรี ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรู้สึกแปลกใจมาก เชื่อว่าสาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากโรงงานใน จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ยังไม่เปิด โดยไปเปิดในวันที่ 6 ม.ค. พนักงานได้หยุดยาวต่อเนื่อง คาดว่าช่วงการเดินทางกลับวันเสาร์-อาทิตย์นี้น่าจะมีรถมาก เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเตรียมพร้อมในการอำนวยความสะดวกเพื่อให้การเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย

ส่วนที่สถานีรถไฟหัวลำโพง กทม. ตั้งแต่ช่วงเช้าถึงค่ำวันที่ 2 ม.ค. ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทยอยเดินทางจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนืออย่างต่อเนื่องตลอดวัน การรถไฟแห่งประเทศไทยเพิ่มขบวนรถพิเศษอีก 1 ขบวน ช่วยการโดยสารจากจำนวนปกติ 244 ขบวน ในเส้นทางอุบลราชธานี-กรุงเทพฯ ออกจากอุบลราชธานีเวลา 19.45 น. วันที่ 2 ม.ค. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 07.15 น. วันที่ 3 ม.ค. ประชาชนส่วนใหญ่พากันขนสัมภาระและสิ่งของต่างๆ รวมถึงของอุปโภคบริโภคเพื่อมาเป็นเสบียงลดค่าครองชีพใน กทม. ทั้งข้าวสารและ อาหารแห้งต่างๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟและเจ้าหน้าที่จิตอาสาคอยดูแลรักษาความปลอดภัย พร้อมอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆให้กับประ– ชาชนที่มาใช้บริการ บรรยากาศโดยทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

...

ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ หรือหมอชิต 2 บรรยากาศตลอดวันเนืองแน่นไปด้วยประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ เริ่มทยอยเดินทางกลับมาประกอบสัมมาชีพใน กทม.ตามปกติ พร้อมหอบหิ้วข้าวของสัมภาระลงจากรถหนาแน่นทั้งบริเวณชานชาลาขาเข้าและบริเวณจุดบริการรถแท็กซี่มีประชาชนมาต่อแถวรอใช้บริการยาวเหยียด ทั้งนี้ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) คาดการณ์ว่าวันที่ 2 ม.ค. จะมีประชาชนเดินทางกลับมากกว่าวันที่ 1 ม.ค. ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 120,898 คน โดยใช้บริการรถโดยสารประกอบด้วยรถ บขส. รถร่วม รถตู้ 7,401 เที่ยว บขส.จัดเที่ยววิ่งรถโดยสารจากปกติวันละ 5,486 เที่ยว เพิ่มเที่ยวเสริมวันละประมาณ 2,118 เที่ยว รวม 7,604 เที่ยว รองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 141,788 คน ทั้งประสานรถ ขสมก.เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก

สำหรับอุบัติเหตุในช่วงการเดินทางกลับเมื่อคืนวันที่ 1 ม.ค. เวลา 22.00 น. ร.ต.อ.ศักดิ์ชาย กิตติอุดมพันธ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุรถตกถนนสายนางรอง-ปะคำ ทางโค้งใกล้ทางเลี้ยวเข้า บขส.นางรอง ต.นางรอง ไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์นางรอง พบรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน ฏบ 1042 กรุงเทพมหานคร พลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้า ในป่ากล้วยข้างทาง ในรถมีผู้บาดเจ็บ 4 คน เจ้าหน้าที่พาส่ง รพ.นางรอง และเสียชีวิต 1 ศพชื่อนายกษิเดช เส็งประโคน อายุ 17 ปี อยู่บ้านหนองมะค่า ต.สะเดา อ.นางรอง สอบสวนทราบว่า รถคันดังกล่าวมุ่งหน้า เข้าตัวเมือง ถึงทางโค้งมีรถวิ่งตัดหน้า ต้องเบรกกะทันหัน ทำให้รถเสียหลักพุ่งตกถนนพลิกคว่ำ

อีกรายเวลา 07.30 น. วันที่ 2 ม.ค. พ.ต.ท.ประวิทย์ นันจันที สว. (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสาคร ร่วมกับหน่วยกู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาครไปตรวจสอบรถตู้ชนเสาไฟส่องสว่าง หน้าศูนย์รถมิตซูบิชิชัยพร ถนนเอกชัย ต.มหาชัย พบรถตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮบ 6599 กรุงเทพมหานคร ชนเสาไฟส่องสว่างกลางถนน มีผู้โดยสารบาดเจ็บ 13 คน ลำเลียงส่ง รพ.เอกชัย นายชนะชัย บุญธรรม อายุ 55 ปี คนขับ ให้การว่า รับผู้โดยสารทั้งหมดออกจาก จ.มหาสารคาม ตั้งแต่เย็นวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมาเพื่อไปส่ง ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร ระหว่างมาถึง เขตเมืองสมุทรสาครรถเสียหลักปีนฟุตปาทชนเสาไฟส่องสว่าง ด้านนายวิชิต อัถวิรัตน อายุ 49 ปี 1 ในผู้โดยสารที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเผยว่า คาดว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากคนขับหลับใน เพราะตลอดทาง ขับมาคนเดียว ช่วงก่อนเกิดเหตุรถก็ส่ายไปมา

...