เดี๋ยวนี้คนฆ่าตัวตายกันง่าย เลือกวิธีตายสารพัดแบบ! และไม่ใช่เฉพาะชาวบ้านเท่านั้น ที่ตัดสินใจทำอัตวินิบาตกรรม แต่ที่ผ่านมามีข้าราชการตำรวจจำนวนมากตัดสินใจลาโลกไปก่อนหมดอายุขัย
บางรายทำมันในที่สาธารณะ เช่น หน้าโรงพัก จนทำคนผวากันเป็นแถบ!?
ทำเอา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. อยู่ไม่ไหว เพราะเห็นลูกน้องตายเยอะ สั่งการให้ สำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) รวบรวมข้อมูลส่งกลับมาพิจารณาพบว่า...
ปี 2551 ตำรวจฆ่าตัวตาย 12 นาย ปี 2552 ตำรวจฆ่าตัวตาย 22 นาย ปี 2553 ตำรวจฆ่าตัวตาย 31 นาย ปี 2554 ตำรวจฆ่าตัวตาย 32 นาย ปี 2555 ตำรวจฆ่าตัวตาย 47 นาย ปี 2556 ตำรวจฆ่าตัวตาย 30 นาย ปี 2557 ตำรวจฆ่าตัวตาย 57 นาย ปี 2558 ตำรวจฆ่าตัวตาย 36 นาย ปี 2559 ตำรวจฆ่าตัวตาย 37 นาย ปี 2560 ตำรวจฆ่าตัวตาย 33 นาย ปี 2561 ตำรวจฆ่าตัวตาย 40 นาย และปี 2562 เหลือไม่ถึงเดือนจะหมดปี ตำรวจฆ่าตัวตายไปแล้ว 19 นาย
พร้อมรายงานสถิติการสำรวจข้อมูลการฆ่าตัวตายขององค์การอนามัยโลกปี 2561 จากทั้งหมด 183 ประเทศ พบประเทศไทยมีอัตราการฆ่าตัวตายอยู่อันดับที่ 32 ของโลก เฉลี่ย 14.4 คนต่อประชากร 1 แสนคน
ส่วนข้าราชการตำรวจจากข้อมูลตั้งแต่ปีงบประมาณ 2551–2562 ฆ่าตัวตายทั้งหมด 396 นาย เฉลี่ยตำรวจฆ่าตัวตาย 18.2 นายต่อตำรวจ 1 แสนนาย
ทำให้เห็นว่า ตำรวจมีอัตราฆ่าตัวตายมากกว่าชาวบ้านทั่วไป 2.32 เท่า!
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลตำรวจฆ่าตัวตาย ตั้งแต่ปี 2551-2556 มีจำนวน 174 นาย ส่วนใหญ่เป็นเพศชายยศ จ.ส.ต.-ด.ต.และปฏิบัติงานป้องกันและปราบปราม
หน่วยงานที่ตำรวจฆ่าตัวตายมากที่สุดคือกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ที่ส่วนใหญ่ยิงตัวตาย!
...
ส่วนมากมาจากปัญหาครอบครัว รองลงไปปัญหาสุขภาพ ที่สำคัญมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี!
จากการสัมภาษณ์เชิงลึกพบว่าสาเหตุสำคัญคือ ด้านจิตใจ ส่วนใหญ่มีภาวะซึมเศร้า เคยคิดหรือพยายามฆ่าตัวตาย มีบุคลิกเก็บตัว วิตกกังวลง่าย หุนหันพลันแล่น มีความรับผิดชอบสูงไม่ยืดหยุ่น มักดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
เมื่อมีเหตุการณ์กระตุ้น เช่น ปัญหาการทำงาน ปัญหาสัมพันธภาพ หรือความเจ็บป่วยเรื้อรังต่างๆ จะทำให้ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น
จากข้อมูลข้างต้น เป็นที่มาของมาตรการแก้ปัญหาตำรวจฆ่าตัวตาย 3 ระยะ รอดูกันว่าได้ผลขนาดไหน?.
"สหบาท"