คดีตำรวจทางหลวง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จับกุมหนุ่มนราธิวาสรับจ้างขนลำเลียงยาบ้า 1 ล้านเม็ดและยาไอซ์ 10 กิโลกรัม มูลค่าของกลางกว่า 170 ล้านบาท จาก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ใส่ถุงปุ๋ย เพื่อจำหน่ายพื้นที่ภาคใต้ แต่ไม่รอดด่านสกัดกั้นของตำรวจทางหลวงในพื้นที่
เริ่มที่ พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผบก.ทล. รับแจ้งว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดรายใหญ่ ผ่านเส้นทางภาคใต้ส่งต่อไปจำหน่ายในประเทศที่ 3 มอบหมายให้ พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบ.ทล.
ร่วมกันวางแผนจับกุม
พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง สารวัตรตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ตั้งด่านที่ถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ หลัก กม.ที่ 308 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พบรถบรรทุกพ่วงยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน 70-6342 เพชรบุรี มี นายพัดรี ดือราแม อายุ 35 ปี ชาว จ.นราธิวาส เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เข้ามาที่ด่านตรวจ
ตำรวจเรียกรถหยุดเพื่อตรวจสอบ นายพัดรีมีอาการพิรุธ แถมยื่นเงิน 500 บาทให้กับตำรวจทางหลวงเพื่อเป็น “ค่าผ่านทาง”
ตำรวจทางหลวงสงสัยท่าที่ของผู้ขับขี่ และข้อมูลการข่าวของ บก.ทล.ว่าจะมีการลักลอบขนลำเลียงยาเสพติดลอตใหญ่เข้าพื้นที่ภาคใต้ จึงขอตรวจค้นรถโดยละเอียด
พบกระสอบปุ๋ยจำนวนมากอยู่ในรถตรวจค้นเพิ่มเติมพบยาเสพติดจำนวนมากในกระสอบปุ๋ย มียาบ้าอยู่ข้างใน 10 กระสอบ ห่อด้วยกระดาษสีขาว มียาบ้าบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินมัดละ 10 ถุงเล็ก
รวมยาบ้า 1 ล้านเม็ด มูลค่า 150 ล้านบาท และยาไอซ์ 1 ถุง 10 กิโลกรัม มูลค่า 20 ล้านบาท รวม 170 ล้านบาท
นายพัดรี ผู้ต้องหารับสารภาพ ได้รับค่าจ้างขนยาเสพติดเป็นเงิน 1 แสนบาทต่อเที่ยว รับยาเสพติดทั้งหมดมาจาก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา กำลังมุ่งหน้านำส่งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แต่ถูกจับเสียก่อน
...
เป็นผลงานตำรวจทางหลวง
ยุค “ผู้การชัช” พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผบก.ทล. เป็นยุคที่ตำรวจทางหลวงจับกุมยาเสพติดบนถนนหลวงได้ต่อเนื่องหลายครั้งแต่ละครั้งที่จับกุมได้มีทั้งรายใหญ่รายย่อยที่ถูกด่านตรวจสกัดจับตามแผน
ไม่ยอมปล่อยให้ขนลำเลียงยาเสพติดบนถนนหลวงได้ง่ายๆเหมือนแต่ก่อน
โดยเฉพาะครั้งนี้ เป็นปฏิญาณไหวพริบของตำรวจทางหลวง เมื่อคนร้ายยื่นเสนอเงิน 500 เป็นค่าผ่านทาง นอกจากจะไม่รับแล้ว ยังสงสัยว่าต้องมีการทำผิด นำไปสู่การตรวจค้นจับกุมยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด
เพราะตำรวจทางหลวงไม่เห็นแก่เศษเงิน.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th