มีระเบียบกองบัญชาการศึกษาเมื่อปี 2553
ว่าด้วยเครื่องหมายเชิดชูเกียรติของกองบัญชาการศึกษา ตอบแทนคุณงามความดี แก่ครูอาจารย์วิทยาลัยการตำรวจ และกองบังคับการฝึกอบรมตำรวจกลาง ผู้บังคับบัญชา รวมทั้งผู้ให้การสนับสนุนต่างๆของกองบัญชาการศึกษาจนเกิดประโยชน์ต่อทางราชการ ข้าราชการตำรวจ และประชาชน
ให้มีคณะกรรมการพิจารณามอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ เป็นเข็มกลัดติดหน้าอกและเนกไท ทำด้วยโลหะ “สีทอง” มอบแก่ครูอาจารย์ที่สอนตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป “สีเงิน” มอบแก่ครูอาจารย์ที่สอนตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป “สีทองแดง” มอบแก่ครูอาจารย์ที่สอนตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป
ทั้งนี้ ยังให้สลักชื่อครูอาจารย์ที่ได้รับเข็มเชิดชูเกียรติ และลงหมายเลขลำดับในทะเบียนไว้ด้านหลังของเข็มทุกอัน พร้อมให้ออกวุฒิบัตรรับรองเป็นหลักฐานประกอบกำกับเข็มเชิดชูเกียรติ
เพื่อเป็นเกียรติยศแสดงถึงคุณความดีที่ได้กระทำไว้
อีกชนิดเป็น “โล่เกียรติยศ” มอบแก่ครูอาจารย์ที่สอนตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป
ส่วนบุคคลที่ได้รับเชิญมาบรรยายพิเศษจะได้รับเครื่องหมายเชิดชูเกียรติโดยใช้หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเช่นเดียวกับครูอาจารย์ที่สอนในวิทยาลัยการตำรวจ และกองบังคับการฝึกอบรมตำรวจกลาง
ผ่านไปนานเกือบ 10 ปี กองบัญชาการศึกษาจัดหลายหลักสูตร สำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เชิญ “อาจารย์ระดับเทพ” มาจากหลากหน่วยงานล้วนมีประสบการณ์คับแก้วเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้ แม้มีค่าตอบแทนน้อยมากเมื่อเทียบเท่าตำราทางความคิดของผู้ทรงคุณวุฒิเหล่านี้
เข็มเชิดชูเกียรติถึงมีความหมายด้านบำรุงขวัญกำลังใจ ทว่าปัจจุบันกลับเงียบหายไป
...
บ้างว่า ไม่มีงบประมาณเพียงพอ
หรือระเบียบกองบัญชาการศึกษาเมื่อปี 2553 ยุค พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ เป็นผู้บัญชาการศึกษา ยกเลิกไปแล้ว
ความจริงวิทยากรหลายท่านไม่ต้องการเงินค่าสอน ขอเพียง แค่กำลังใจ
ถ้าขาดแม่พิมพ์ดีๆ แล้วตำรวจจะพัฒนาได้แค่ไหน.
"สหบาท"