ในขณะที่หลายฝ่ายค่อนข้างวิตกกันมากกับกรณีสหรัฐอเมริกาประเทศตัดสิทธิ GSP ไทย 573 รายการ โดยเฉพาะกับกลุ่มสินค้าเกษตร 157 รายการ ได้แก่ กลุ่มผักแปรรูป ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ชาเขียว ขิงป่น หูฉลาม เส้นพาสตา ผลไม้แปรรูป และกลุ่มประมงแปรรูป
กระทรวงพาณิชย์ออกมาแถลงทันควัน มีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยแค่ 0.01% สอดคล้องกับข้อมูลจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ที่ว่าการตัดสิทธินี้แทบไม่มีผลกระทบต่อสินค้าเกษตร และสินค้าอาหารหลักของไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯมากนัก
เพราะสินค้าทั้ง 157 รายการที่ถูกตัดสิทธิ GSP มิใช่กลุ่มพิกัดสินค้าหลักที่ไทยส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ รวมถึงไม่ใช่สินค้ากุ้งและปลาทูน่ากระป๋อง อย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจกัน
แต่ถึงอย่างไร ก็ตาม ต้องยอมรับว่า สินค้าของบ้านเราต้องได้รับผลกระทบด้านราคาขายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผลไม้แปรรูป จากเดิมภาษี 0% ต่อไปต้องถูกเก็บภาษี 4%-14%...โดยปีที่แล้วมีมูลค่าส่งออก 45 ล้านเหรียญสหรัฐฯ...เส้นพาสตา จะถูกเพิ่มภาษีเป็น 6.4% ปีที่แล้วมีมูลค่าการส่งออก 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนสินค้าอื่นๆโดนภาษีแทบไม่ต่างกัน
แต่ในอีกมุมที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง สหรัฐฯไม่ได้ตัดสิทธิ GSP อย่างเดียว...ยังได้คืนสิทธิให้สินค้าเกษตรไทย 7 รายการ โดยเฉพาะดอกกล้วยไม้และโกโก้
เดิมกล้วยไม้ตัดดอกเราต้องเสียภาษี 6.4% โกโก้ 3.5% ต่อไปจะเสียภาษี 0%
กล้วยไม้เป็นสินค้ามูลค่าสูงที่ไทยมีศักยภาพในการผลิตและเพาะพันธุ์ จึงนับเป็นโอกาสดีที่จะกลับเข้าไปเพิ่มตลาดในสหรัฐฯ
ส่วนโกโก้ต่อไปน่าจะได้เลื่อนชั้นสู่พืชเศรษฐกิจตัวใหม่อย่างแท้จริง หลังจากพบว่า บ้านเรามีพื้นที่เพาะปลูกและสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม แต่ยังติดปัญหาหลายประการ เกษตรกรเลยกล้าๆกลัวๆที่จะลงมือปลูก.
...
สะ-เล-เต