เป็นคดีที่น่าสนใจกับพฤติกรรมของผู้ต้องหาพนักงานบริษัทมือถือชื่อดัง ปลอมแปลงบัตรเครดิตของลูกค้าที่มาติดต่อบริษัทนำไปใช้สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ผู้เสียหายร้องเรียนมาที่ บก.ปอศ.
พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. สั่งให้ พ.ต.อ.ภาดลจันทร์ จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.ภูวเดช จุลกะเสวี สว.กก.5
บก.ปอศ. และ ฝ่ายสืบสวน กก.5 บก.ปอศ. จับกุม นายสาธิต อายุ 29 ปี ชาว จ.อุตรดิตถ์
ข้อหาปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ และเพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระราคาสินค้าแทนการชำระด้วยเงิน จับกุมผู้ต้องหาได้ที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม 2 เขตบางขุนเทียน
แต่ที่น่าสนใจคดีนี้ นายสาธิต ผู้ต้องหาเป็นพนักงานบริการลูกค้าของบริษัทมือถือชื่อดังแห่งหนึ่ง ลักลอบถ่ายสำเนาบัตรประชาชน และสำเนาบัตรเครดิตของลูกค้า
นำเอาข้อมูลบัตรไปสั่งซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ขายสินค้าในต่างประเทศ ได้แก่ Amazon Ebay StockX Farfetch
แล้วให้เรียกเก็บเงินจากลูกค้า
ผู้ต้องหาอาศัยความรู้ที่ได้มาจากการทํางาน ปกปิดร่องรอยการทํารายการสั่งซื้อสินค้า ใช้โทรศัพท์มือถือหลายเครื่องในการทํารายการสั่งซื้อ
แต่ละเครื่องจะสร้างอีเมล บัญชีผู้ใช้บริการขึ้นมาเป็นการเฉพาะและดัดแปลง แก้ไขชื่อและนามสกุล เพื่อให้ยากต่อการติดตามตัว
ผู้ที่ปลอมเอกสารคนอื่นมาใช้สั่งซื้อสินค้า
ในส่วนของการรับสินค้าจะจงใจให้ที่อยู่ปลอมไปเพื่อให้พัสดุตีกลับ จากนั้นปลอมหนังสือมอบอำนาจแล้วให้ Grab bike ไปรับสินค้ามาส่งมอบให้กับผู้ต้องหา
ยากที่จะติดตามจับกุม
...
ก่อนจะนำสินค้าไปลงประกาศขายในเฟซบุ๊กส่วนตัวและตามกลุ่มขายของออนไลน์ต่างๆ นำเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน รวมถึงซื้อทรัพย์สินมีค่าหลายๆอย่างด้วยเงินสด
ตั้งแต่ทาวน์เฮาส์ย่านพระราม 2 ในราคาเงินสด 2 ล้านบาท รถเก๋งมินิ คูเปอร์ ราคา 2.5 ล้านบาท รถฮอนด้า CRV ราคาประมาณ 1.4 ล้านบาท และรถโตโยต้า CHR ราคาประมาณ 1 ล้านกว่าบาท อยู่ในบางส่วนของทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่ได้มาจากความเดือดร้อนของลูกค้าบริษัทเจ้าของบัตรเครดิต
เป็นอีกภัยที่อยู่ใกล้ตัวทุกคน.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th