เป็นข่าวใหญ่กรณี นายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ กะเหรี่ยงนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนหายตัวลึกลับ หลังถูกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานจับตัวไปเมื่อวันที่ 17 เม.ย.2557
กว่า 5 ปีที่หายไป ตอนแรกเป็นคดีอุ้มตัวหายธรรมดา แต่สุดท้ายกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รับคดีนี้มาทำเป็นคดีพิเศษแถลงสรุปว่า นายบิลลี่ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ถูกฆ่าเผายัดถังน้ำมันใต้สะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เนื่องจากผลการตรวจทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ พันธุกรรมของกระดูก
พบตรงกับแม่ของนายบิลลี่
หลังเป็นข่าวการเสียชีวิตด้วยการฆาตกรรมอำพรางนายบิลลี่ เป็นเรื่องที่เครือข่ายกะเหรี่ยง ชาวเล รับไม่ได้ ออกมาเคลื่อนไหวเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่รัฐช่วยคลี่คลายคดีหาตัวผู้ที่กระทำผิดออกแถลงการณ์ที่ว่า
1.ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ทุ่มเททำงาน จากคดีอุ้มหาย จนกลายเป็นคดีฆาตกรรม ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวนายบิลลี่
2.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการสืบสวน สอบสวน จับกุมผู้กระทำผิดทั้งหมด รวมถึงความคืบหน้าคดีวางเพลิงเผาทรัพย์ชุมชนบ้านใจแผ่นดิน-บางกลอยบน จำนวนมากกว่า 100 หลังคาเรือน รวมทั้งบ้านปู่คออี้
3.เรียกร้องให้รัฐบาลไทยและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องคุ้มครองวิถีชีวิตชาวเลและกะเหรี่ยงอย่างเป็นรูปธรรม ตามคำวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุด กรณีสิทธิชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิมบ้านใจแผ่นดิน-บางกลอยบน
นายบิลลี่เป็นผู้ประสานงานฟ้องร้องดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจนได้รับชัยชนะ
...
รวมทั้งต้องชดเชยเยียวยาความเสียหายให้ครอบครัวของบิลลี่อย่างเป็นธรรมและเหมาะสม
ก่อนที่จะถูกอุ้มหายตัวไป
ไม่ว่าเรื่องนี้จะเดินต่อกันไปได้อย่างไร คำแถลงการณ์ของกรมสอบสวนคดีพิเศษเรื่องการเสียชีวิตของนายบิลลี่ ชาวกะเหรี่ยง แกนนำกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง และเป็นตัวแทนเพื่อต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชน ดึงความสนใจของคนทั้งประเทศ โดยเฉพาะเครือข่ายกะเหรี่ยงชาวเลและองค์กรสิทธิมนุษยชน เฝ้าติดตามความคืบหน้าคดีหายตัวไปอย่างน่าสงสัยของแกนนำคนสำคัญ
เรียกร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ กระชาก “หน้ากากฆาตกร” ผู้ที่ร่วมกระทำความผิดมาลงโทษ และเยียวยาความเสียหายให้กับครอบครัว นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งดีเอสไอบอกว่า มีข้อมูลรู้กลุ่มผู้กระทำผิดแล้ว อีกไม่นานคงได้เห็นโฉมหน้าฆาตกรสุดโหดฆ่าเผายัดถังนายบิลลี่
ได้รู้กันว่าอะไรคือสาเหตุฆาตกรรม.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th