นิคมอุตสาหกรรมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคตะวันออก...ว่ากันว่า เนิ่นนานมาแล้วมีแรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานกันคลาคล่ำ แน่นอนว่าปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มีทั้งผลดีและผลเสียตามมา

หน่วยงานรัฐจะเพิ่งตื่นหรือตื่นนานแล้วไม่ทราบได้ เมื่อไม่นานมานี้เองได้มีการลงนามความร่วมมือระหว่าง การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กับกระทรวงแรงงาน เพื่อเชื่อมโยงฐานข้อมูลแรงงานต่างด้าวแบบดิจิทัล เพิ่มความคล่องตัวของหน่วยงานรัฐทั้งระบบ ตอบโจทย์...ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0

“กรมการจัดหางาน” และ “การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย” เห็นถึงความสำคัญที่จะร่วมพัฒนา...ปรับปรุงระบบงานบริการของหน่วยงานให้มีความร่วมมือกันในการวางแผน ออกแบบ พัฒนาระบบงาน และปรับปรุงกระบวนงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การเชื่อมโยงข้อมูล อำนวยความสะดวกในการให้บริการ

ขั้นตอนสำคัญคือการปรับรูปแบบวิธีการดำเนินการของภาครัฐให้มีลักษณะ “เบ็ดเสร็จครบวงจร”

...มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อให้ผู้รับบริการสามารถติดต่อราชการได้โดยง่าย สะดวก รวดเร็ว โปร่งใส เสียค่าใช้จ่ายน้อยและที่สำคัญ...ตรวจสอบได้

ปัจจุบันโลกก้าวเข้าสู่ “สังคมยุคดิจิทัล” หรือ “ยุคเศรษฐกิจใหม่” ใช้ระบบสื่อสารข้อมูลคอมพิวเตอร์ ระบบสารสนเทศเข้ามาอำนวยความสะดวกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หน่วยงานรัฐจำเป็นต้องปรับตัวแข่งขันให้ทันกับกระแสโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จะเดินอุ้ยอ้ายต้วมเตี้ยมเช้าชามเย็นชามไม่ได้แล้ว

สาระสำคัญคือ...กรมการจัดหางานมีหน้าที่รับผิดชอบในการเปิดเผยข้อมูลคนต่างด้าวที่ได้รับใบอนุญาตทำงานให้แก่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาอนุญาตขยายระยะเวลาให้คนต่างด้าวอยู่ต่อในราชอาณาจักรและทำงานในนิคมอุตสาหกรรม

...

ขณะที่ กนอ.มีหน้าที่แจ้งการอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรและทำงานในนิคมอุตสาหกรรมมาตรา 46 แห่งพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522 ต่อนายทะเบียน

เพื่อออกใบอนุญาตทำงานตามมาตรา 62 แห่งพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมทั้งเปิดเผยข้อมูล...เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตให้นำ “ช่างฝีมือ” หรือ “ผู้ชำนาญการ” เข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรม

รวมทั้งการอนุญาตอื่นที่เกี่ยวข้องที่ต้องแจ้งให้กรมการจัดหางาน

แน่นอนว่าการทำงานเชิงรุกตื่นตัวเตรียมพร้อมไว้ก่อนย่อมดีกว่าตั้งรับ มีปัญหาแล้วต้องมานั่งแก้กันแบบวัวหายล้อมคอก โดยเฉพาะปัญหา “แรงงานต่างด้าว” ที่มีหลากหลายมิติให้ติดตาม

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ “แรงงานต่างด้าว” สัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา กลุ่มที่ใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) จะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน และ 1 พฤศจิกายน 2562 และวันที่ 31 มีนาคม 2563 และ...การอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่หมดอายุ

เข้ามาทำงานอยู่ในประเทศไทยตาม MOU โดยไม่ต้องเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร โดยกลุ่มที่ใบอนุญาตทำงานจะหมดอายุ 30 กันยายน และ 1 พฤศจิกายน 2562...เริ่มดำเนินการ 2 กันยายน 2562

ส่วนกลุ่มที่ใบอนุญาตทำงานหมดอายุ 31 มีนาคม 2563 เริ่มดำเนินการ 16 ธันวาคม 2562 และอนุญาตให้ทำงานไม่เกิน 2 ปี

หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงย้ำว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา กลุ่มที่ใบอนุญาตทำงานและการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรยังไม่หมดอายุ ซึ่งไม่รวมกลุ่มที่นำเข้าตามระบบ MOU และกลุ่มที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางที่ยังมีอายุเหลืออยู่ในวันที่ไปยื่นขออนุญาต เพื่ออยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว สามารถดำเนินการในลักษณะนำเข้าตาม MOU โดยไม่ต้องเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร และอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 2 ปี

โดยประทับตราอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักร (ขออยู่ต่อ) ครั้งละไม่เกิน 1 ปี

ส่วนการอนุญาตทำงานจะอนุญาตไม่เกิน 2 ปี โดยแยกเป็น 2 ห้วงเวลา คือ หนึ่ง...ใบอนุญาตทำงานหมดอายุตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2562 ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2563 ใบอนุญาตทำงานจะสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564

สอง...ใบอนุญาตทำงานหมดอายุตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมถึง 30 มิถุนายน 2563 ใบอนุญาตทำงานจะสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2565

หน่วยงานที่จะดำเนินการประกอบด้วย...กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานรับเอกสารในขั้นตอนแรกและออกใบอนุญาตทำงาน ...กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสุขภาพและประกันสุขภาพ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรต่อไป (ขออยู่ต่อ) โดยอนุญาตครั้งละไม่เกิน 1 ปี และ กระทรวงมหาดไทย จัดทำทะเบียนประวัติและออกบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย

ซึ่ง...ด้านหลังบัตรจะเป็นใบอนุญาตทำงาน

สำหรับระยะเวลาดำเนินการเพื่อขอรับใบอนุญาตทำงานและการขออยู่ต่อในราชอาณาจักรต่อไปจะเริ่มวันที่ 2 กันยายน 2562 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2563 โดยดำเนินการใน 2 รูปแบบคือ...

เริ่มดำเนินการวันที่ 2 กันยายน 2562 สำหรับกลุ่มใบอนุญาตทำงานหมดอายุตั้งแต่วันที่ 30กันยายน 2562 ถึงวันที่ 30 มีนาคม 2563 ณ สถานที่ตั้งของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

...

และ รูปแบบที่สอง คือ...เริ่มดำเนินการวันที่ 16 ธันวาคม 2562 สำหรับกลุ่มใบอนุญาตทำงานหมดอายุตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ดำเนินการในลักษณะศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ (OSS)

โดยในกรุงเทพมหานครมอบหมายให้อธิบดีกรมการจัดหางานเป็นผู้พิจารณา ในส่วนภูมิภาคมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณา

เพชรรัตน์ สินอวย
เพชรรัตน์ สินอวย

เพชรรัตน์ สินอวย อธิบดีกรมการจัดหางาน เสริมว่า ขณะนี้มีแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติที่จะต้องดำเนินการดังกล่าว 2,001,379 คน แบ่งเป็น...กลุ่มที่การอนุญาตทำงานจะสิ้นสุดก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2563 มี 261,491 คน เป็นกลุ่มพิสูจน์สัญชาติเดิม 243,093 คน...กลุ่มประมงฯ มาตรา 83 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 จำนวน 12,040 คน...กลุ่มจัดทำ/ ปรับปรุงทะเบียนประวัติ จำนวน 6,358 คน

และ กลุ่มที่การอนุญาตทำงานจะสิ้นสุดตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2563 มี 1,739,888 คน โดยเป็นกลุ่มพิสูจน์สัญชาติเดิม 558,443 คน และกลุ่มจัดทำ...ปรับปรุงทะเบียนประวัติ 1,181,445 คน

...

เพชรรัตน์ ย้ำว่า ขอให้นายจ้าง...สถานประกอบการดำเนินการตรวจสอบข้อมูลการจ้างแรงงานต่างด้าวที่สำนักงานจัดหางานจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ ในพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่

หากพบว่าข้อมูลยังไม่เป็นปัจจุบัน เช่น มีการรับแรงงานต่างด้าวเข้ามาใหม่หรือเพิ่งเลิกจ้างแรงงานต่างด้าว ก็ให้แจ้งเข้า–ออกจากงานของแรงงานต่างด้าวภายใน 15 วัน เป็นต้น

นอกจากนี้...หากไม่พบข้อมูลการอนุญาตทำงานในฐานข้อมูล ขอให้นายจ้าง...สถานประกอบการประสานกับสำนักงานจัดหางานจังหวัด หรือสำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่เพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป

ประชาสัมพันธ์ให้คนในแวดวงแรงงานต่างด้าวรู้กันโดยทั่ว...ดำเนินการให้ถูกต้อง อย่าหรรษาพาเพลินรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง เหมือนวันวานที่ผ่านมาไม่ได้อีกแล้ว.