มาว่ากันต่อเรื่อง พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 ที่คลอดออกมาทำร้ายเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมันต้องหมดหนทางหากิน สูญเสียรายได้ไปกว่าปีละ 50,000 ล้านบาท
เพราะกฎหมายฉบับนี้จะมีผลทำให้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมจากผลผลิตของพืชพลังงานที่เกษตรกรปลูกจะไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐอีกต่อไป
เมื่อวานได้ตั้งข้อสังเกต...นี่น่าจะเป็นแผนการทำร้ายเกษตรกรเพื่ออุ้มชูนายทุนน้ำมันปิโตรเลียม เพราะข้อมูลที่คนกระทรวงพลังงานชี้แจงกับ คณะอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาปัญหาเรื่องอ้อยในคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ สภาผู้แทนราษฎร...มันฟ้องว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น
เนื่องจากแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) ของสำนักนโยบายและแผนพลังงาน ที่เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2551 ได้ตั้งเป้าไว้ว่า ภายในปี 2564 จะทำให้คนไทยใช้เอทานอลที่เป็นส่วนผสมในน้ำมันแก๊สโซฮอล์ให้ได้วันละ 9 ล้านลิตร
นั่นเป็นแผนแรก แต่ทำไปทำมาปี 2555 มีแผน 2 คลอดออกมาแทน ขอยืดระยะเวลาออกไปอีก 1 ปี...มาปี 2558 แผน 2 ยังทำไปไม่ถึงไหน ได้ไม่ถึงครึ่งของเป้าหมาย ยังอุตส่าห์คลอดแผน 3 ออกมาอีก คราวนี้เหมือนจะดูดี ขอเพิ่มเป้าหมายจะให้คนไทยได้ใช้เอทานอลจริงวันละ 11.3 ล้านลิตร แต่ขอยืดเวลาไปอีก 14 ปี จะทำให้ได้ภายในปี 2579
แค่นั้นไม่พอ ปีที่แล้วมีแผน 4 ออกมาอีกแล้ว คราวนี้ลดเป้าจะให้ใช้วันละ 6.6 ล้านลิตร แถมด้วยขอถ่วงเวลา ยืดออกไปอีก 1 ปี เป็นจะให้บรรลุเป้าหมายในปี 2580
ตกลงนี่มันใช่แผนพัฒนาพลังงานทดแทนเหรอ...น่าจะเรียกว่า แผนลดการใช้พลังงานทดแทนซะมากกว่า
โดยอ้างเหตุผล เนื่องจากต่อไปรถไฟฟ้าจะเข้ามาแทนรถยนต์...ขอถามหน่อยเหอะ มันใช่เหตุผลจริงมั้ย เอทานอล น้ำมันปาล์ม เอามาผลิตไฟฟ้าไม่ได้รึยังไง
...
ช่วยตะแบงให้มีตรรกะหน่อยนะ ท่านสาวกน้ำมันปิโตรเลียมจากฟอสซิลทำลายโลก.
สะ–เล–เต