อีกรายย้ายของไฟดูดดับ กู้ภัยลุยช่วย 4 ดช.หวุดหวิด อีสานยังอ่วม-จมบาดาล
อุทกภัยยังน่าห่วง น้ำคลองคูเมืองเอ่อท่วมเมืองร้อยเอ็ด 13 ชุมชนจมใต้บาดาลกว่า 1 เมตร ทหารต้องนำเรือท้องแบนไปช่วยอพยพชาวบ้าน กาฬสินธุ์น้ำป่าดงระแนงท่วมนาข้าวพันไร่ หนักสุดในรอบ 10 ปี บึงกาฬพระสงฆ์ต้องลุยน้ำออกบิณฑบาต ที่ร้อยเอ็ด ศพลอยติด ผักตบริมห้วย ถนนมิตรภาพแยกบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น น้ำแห้งรถวิ่งได้แล้ว สลดหนุ่มช่วยขนของหนีน้ำโดนไฟช็อต ดับอนาถ ด้านพิจิตรน้ำถล่มรถ จยย.วิ่งผ่านถนนน้ำท่วมเมียตายผัวรอด เมืองสองแควอ่วมน้ำท่วมถนนชาวบ้านสังเวยเป็นศพที่ 2 มีกู้ภัยช่วย 4 เด็กเล่นนํ้ารอดหวุดหวิดอุตุฯเตือนรับมือฝนหนักอีกระลอก
สถานการณ์อุทกภัยหลายจังหวัดยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะภาคอีสานและภาคเหนือถูกอิทธิพลพายุ “โพดุล” พัดถล่มอย่างหนักและเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ถนนมิตรภาพช่วงแยก อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ถูกน้ำท่วมสูงถึง 1 เมตร รถสัญจรไม่ได้ ขณะที่หลายหน่วยงานระดมเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน
ร้อยเอ็ดจมบาดาล–เร่งสูบน้ำออก
โดยเมื่อวันที่ 1 ก.ย. ที่ จ.ร้อยเอ็ด ยังคงมีน้ำท่วมหนักหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด มวลน้ำจากอ่างเก็บน้ำห้วยแอ่ง ต.โพธิ์สัย อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด และน้ำจาก จ.มหาสารคาม ไหลลงคลองคูเมืองเอ่อท่วมถนนทุกสาย และชุมชนทั้ง 13 ชุมชนอย่างรวดเร็วจนชาวบ้านตั้งตัวไม่ทันทำให้ทรัพย์สินต่างๆ รถยนต์และรถ จยย.จมน้ำเสียหาย ระดับน้ำสูงถึง 1 เมตร ทำให้ชาวบ้านติดอยู่ในบ้าน ทหารช่างร.16 พัน.1 ต้องนำเรือท้องแบนไปช่วยอพยพออกมาอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนร้านค้าต่างๆ ห้างสรรพสินค้าร้อยเอ็ดพลาซ่าถูกน้ำท่วมจนต้องปิดกิจการ ขณะที่นายวันชัย คงเกษม ผวจ.ร้อยเอ็ด สั่งระดมเครื่องสูบน้ำ 6 เครื่อง นำไปติดตั้งบริเวณถนนบายพาสสามแยกโพนทอง แยกธวัชบุรี แยกสุวรรณภูมิ และห้าแยกกกโพธิ์ เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
...
“อนุทิน” ลงพื้นที่เยี่ยมชาวเสลภูมิ
ต่อมาเวลา 10.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข พร้อมคณะลงพื้นที่ดูสถานการณ์น้ำท่วมที่วัดบ้านนาแซง ต.นาแซง อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด หลังถูกลำน้ำยังเซาะพนังกั้นน้ำพังทลายหลายจุด ทำให้วัด บ้านเรือนและไร่นาถูกน้ำท่วมเสียหาย โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผวจ.ร้อยเอ็ด ให้การต้อนรับและพาเยี่ยมชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน นายอนุทินกล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้มาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในครั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะนำยารักษาโรคมาบริการให้แก่พี่น้องประชาชนโดยเร่งด่วน และดูแลระยะยาวหลังน้ำลด พี่น้องประชาชนจะต้องได้รับการดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเรื่องโรคน้ำกัดเท้าและโรคอื่นๆที่มากับน้ำ
พบศพสาวน้ำซัดจมห้วย
เช้าวันเดียวกัน ตำรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ด รับแจ้งพบศพหญิงสาวลอยน้ำริมตลิ่งลำห้วยเหนือ บ้านโนนงาม หมู่ 16 ต.เหนือเมือง ตรวจสอบพบศพ น.ส.ชลธิชา หรือโบว์ อาจเจริญ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ถนนรณชัยชาญยุทธ ต.ในเมือง อ.เมืองร้อยเอ็ด สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงบ่ายวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา เกิดน้ำไหลหลากเอ่อท่วมหอพักที่ผู้ตายเช่าอยู่กับเพื่อนๆ ริมห้วยบ้านอ้น หมู่ 3 ต.ดงลาน อ.เมืองร้อยเอ็ด น.ส.ชลธิชาและเพื่อนรวม 5 คน พยายามฝ่ากระแสน้ำหนีออกมาจากหอพัก ก่อนถูกน้ำซัดหายไปต่อหน้าต่อตาเพื่อนๆ กระทั่งเจอศพลอยติดผักตบดังกล่าว
น้ำป่าดงระแนงท่วมนาข้าวพันไร่
ที่ จ.กาฬสินธุ์ น้ำป่าจากป่าสงวนแห่งชาติดงระแนงไหลท่วมนาข้าวในพื้นที่บ้านแก ต.อิตื้อ อ.ยางตลาด เสียหายเป็นบริเวณกว้างหลายพันไร่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอยางตลาดต้องประกาศเตือนชาวบ้านห้ามเล่นน้ำหรือออกหาปลา เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยวมากเกรงว่าอาจเกิดอันตราย ส่วนเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์น้ำที่ไหลท่วมบ้าน 10 ชุมชนเริ่มทรงตัว แต่ยังอยู่ในระดับสูง บางจุดน้ำท่วมกว่า 1.50 เมตร ชาวบ้านเดือดร้อน 1,533 หลังคาเรือน ต่างรอคอยความช่วยเหลือจากทางการนำสิ่งของจำเป็นไปแจกจ่ายประทังความเดือดร้อนจนกว่าน้ำจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ชาวบ้านเผยว่า น้ำท่วมปีนี้หนักสุดในรอบ 10 ปี น้ำไหลมาเร็วมาก ไม่ถึงชั่วโมงก็ท่วมบ้านจนทำอะไรไม่ถูก
บ้านไผ่น้ำลด–มิตรภาพวิ่งได้แล้ว
ส่วนที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หลายพื้นที่น้ำลดลงไปมากจนสามารถกลับเข้าไปอยู่ในบ้านได้แล้ว แต่บางหลังที่อยู่ในที่ลุ่มริมลำห้วยจิกยังมีน้ำท่วมขังยังไม่สามารถเข้าไปได้ ขณะที่บางครอบครัวไร้ที่อยู่อาศัย เพราะถูกน้ำซัดบ้านพังเสียหายทั้งหลังต้องพักอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ทางราชการจัดไว้ 6 จุด ส่วนถนนมิตรภาพจากสี่แยกเกียรติสินไปถึงสี่แยกไฟแดงบ้านเกิ้ง ระยะทาง 2 กม. ที่ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร ล่าสุดน้ำแห้งกลับสู่ภาวะปกติ รถทุกชนิดวิ่งผ่านได้แล้ว เช่นเดียวกับถนนแจ้งสนิทตั้งแต่ทางรถไฟไปถึงสี่แยกไฟแดงถนนมิตรภาพ (เกียรติสิน) บริเวณสะพานขาวข้ามลำห้วยจิกที่ถูกน้ำท่วมหนักที่สุดระยะทางประมาณ 2 กม. ขณะนี้น้ำแห้งแล้วเช่นกัน
...
แม่ใจสลายลูกชายถูกไฟช็อตดับ
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านเลขที่ 28/11 ชุมชนคุ้มวัดโพธิ์สิริโสภณ หมู่ 2 บ้านไผ่เก่า ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หลังทราบว่ามีคนถูกไฟช็อตเสียชีวิตขณะไปช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของหนีน้ำท่วมเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา มีนางศิลากร จันโทแพง อายุ 43 ปี เจ้าของบ้านและญาติพี่น้องช่วยกันจัดงานศพลูกชายคือนายสราวุธ จันโทแพง อายุ 20 ปี นางศิลากรเปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันที่ 31 ส.ค. มีน้ำท่วมชุมชนสูงเกือบ 2 เมตร นายสราวุธ ลูกชายไปช่วยเพื่อนบ้านขนของและถูกไฟช็อตจมน้ำใกล้เสาไฟฟ้าที่ถูกน้ำท่วมถึงหม้อแปลง หลังเกิดเหตุรีบนำลูกชายส่ง รพ.บ้านไผ่ แต่ก็ไปไม่ได้เพราะน้ำท่วมต้องพาไป รพ.โนนศิลาและส่งต่อ รพ.พล กระทั่งลูกชายเสียชีวิต เสียใจมาก เพราะลูกอยู่ระหว่างฝึกงานที่สำนักงานที่ดินอำเภอบ้านไผ่ กำลังมีอนาคตที่ดี แต่ต้องมาจบชีวิตเช่นนี้ จึงอยากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าหากเกิดน้ำท่วมเจ้าหน้าที่ต้องตัดกระแสไฟฟ้าทันที เพื่อความปลอดภัย
พระสงฆ์ลุยน้ำออกบิณฑบาต
ที่ จ.บึงกาฬ เกิดฝนตกดึกช่วงกลางดึกที่ผ่านมาในพื้นที่ อ.เซกา กระทั่งรุ่งเช้าน้ำระบายไม่ทันเอ่อท่วมบ้านพักของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเซกาสูงกว่า 30 ซม. เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยสัจธรรมเซการ่วมกุศลเข้าไปช่วยเหลือยกสิ่งของขึ้นที่สูง ขณะที่พระสงฆ์ต้องลุยน้ำออกไปบิณฑบาตอย่างทุลักทุเล ส่วนที่ อ.บึงโขงหลง น้ำลำห้วยทรายเอ่อท่วมบ้านริมน้ำได้รับเสียหายหลายหลัง โดยเฉพาะบ้านนายพูน ชาปาน อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 160 หมู่ 2 ต.โพธิ์หมากแข้ง ตั้งอยู่ริมห้วยถูกน้ำเซาะตลิ่ง พัดกะละมังเลี้ยงไส้เดือนและปุ๋ยน้ำหมักมูลไส้เดือนหายไปกับกระแสน้ำ มูลค่าความเสียหายกว่า 3 หมื่นบาท
...
น้ำเซาะบ้านริมห้วยทรุดเอียง
ที่ จ.ยโสธร เมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วยโพงเอ่อท่วมบ้านซ่งแย้ หมู่ 7 ต.คำเตย อ.ไทยเจริญ น้ำสูงกว่า 1.50 เมตร ทำให้ชาวบ้านตั้งตัวไม่ทัน นายอดินัย ดอกไม้ อายุ 38 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 172 หมู่ 7 ต.คำเตย ที่ได้รับความเสียหายน้ำไหลเข้าท่วมบ้านเซาะเสาบ้านทรุดเอียง 5 ต้น เผยว่า น้ำจากห้วยโพงได้ไหลทะลักเข้าหมู่บ้านช่วงประมาณ 22.00 น.คืนวันที่ 31 ส.ค.และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ตัวบ้านที่อยู่ริมห้วยถูกเซาะเสาบ้านเอียง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้กระทั่งตีสามกว่าน้ำค่อยๆลดลง รุ่งเช้าจึงขอแรงเพื่อนบ้านมาช่วยกันนำไม้มาค้ำยันบ้านไม่ให้พังถล่มลงห้วย หลังจากน้ำแห้งเป็นปกติค่อยหาทางซ่อมแซมต่อไป คาดว่าความเสียหายครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท
อพยพผู้ป่วยติดเตียงหนีน้ำ 2 ม.
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รอง ผวจ.อุบลราชธานี พร้อมด้วยนายสมมาฏฐ์ โพธิ นายอำเภอตระการพืชผล นำเรือท้องแบนบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคยาเวชภัณฑ์และน้ำดื่มไปมอบให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบประสบภัยน้ำท่วมที่บ้านท่าบ่อแบง หมู่3 ต.ขามเปี้ย อ.ตระการพืชผล รวม 58 ครัวเรือนและวัดเสียหายอีก 1 แห่ง ล่าสุดน้ำยังท่วมสูงถึง 2 เมตร ถนนในหมู่บ้านถูกตัดขาดจากภายนอก ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ช่วยกันอพยพผู้ป่วยติดเตียงที่บ้านโนนบ้อแบง หมู่ 11 ไปอยู่บ้านญาติชั่วคราว นอกจากนี้จังหวัดอุบลราชธานีร่วมกับ อบต.ขาม– เปี้ย ยังมอบเรือท้องแบนเพื่อให้ประชาชนไว้ใช้สัญจรเข้าออกหมู่บ้าน พร้อมตั้งศูนย์ช่วยเหลือและโรงครัว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน
ลำน้ำเซบายท่วม 200 ครอบครัว
ที่ จ.อำนาจเจริญ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมืองอำนาจเจริญ ร่วมกับ นพค.51 จ.อำนาจเจริญ นำเรือท้องแบนไปช่วยย้ายผู้ประสบภัยน้ำท่วมบ้านนาหมอม้า และบ้านหนองเรือ ต.นาหมอม้า อ.เมืองอำนาจเจริญ หลังลำน้ำเซบายเอ่อท่วมเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านนับ 100 ครอบครัวหนีออกมาไม่ทัน เนื่องจากน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสูงกว่า 2 เมตร ทรัพย์สินรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ถูกน้ำท่วมเสียหาย เจ้าหน้าที่ย้ายชาวบ้านไปอยู่ที่วัดบ้านโนนสมบูรณ์ หมู่ 6 ต.นาหมอม้า ส่วนถนนอรุณประเสริฐระหว่างแยกน้ำปลีกไปยังแยกหนองสามสี อ.เสนางคนิคม ถูกน้ำท่วมกว่า 2-3 เมตร รถสัญจรไม่ได้ ชาวบ้านกว่า 100 ครอบครัวถูกตัดขาดและกำลังรอคอยความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
...
เมืองสองแควอ่วม–น้ำท่วมถนน
ที่ จ.พิษณุโลก น้ำท่วมในพื้นที่ อ.วังทอง ขยายวงกว้างมากขึ้น หลังจากลำน้ำเข็กที่ไหลลงสู่แม่น้ำวังทองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเอ่อท่วมถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก บริเวณหน้าโรงพยาบาลวังทอง ต.วังทอง ตั้งแต่ช่วงเวลา 20.00 น. วันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดช่วงเช้าน้ำสูงถึง 60 ซม. ทำให้รถเล็กไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ตำรวจต้องให้ผู้ใช้รถทุกคันเลี่ยงไปใช้เส้นทางพิษณุโลก-วัดโบสถ์-เขื่อนแควน้อย-อ.ชาติตระการ-อ.นครไทย ไปออก อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ส่วนถนนสายวังทอง-สากเหล็ก มีน้ำท่วมฝั่งขาออกจาก อ.วังทอง แต่รถยังสัญจรได้ ด้าน ต.เนินกุ่ม อ.บางกระทุ่มจุดรับน้ำจาก อ.เนินมะปราง ล่าสุดน้ำในคลองเนินกุ่มเอ่อท่วมบ้านและพื้นที่การเกษตรแล้ว ส่วนตลาด 120 ปีวังทองน้ำแม่น้ำวังทองเอ่อล้นตลิ่งท่วมร้านค้าและบ้านเรือนกว่า 100 หลัง
ส่งเรือท้องแบนช่วยย้ายผู้สูงอายุ
ช่วงสายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบจ.พิษณุโลก นำเรือท้องแบน 2 ลำไปช่วยชาวบ้านบ้านซำเตย หมู่ 2 ต.ดินทอง อ.วังทอง หลังแม่น้ำวังทองเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำประมาณ 120 หลังคาเรือน ระดับน้ำสูง 1-3 เมตร เจ้าหน้าที่เร่งอพยพ ผู้สูงอายุที่ติดอยู่ในบ้านออกมาไว้ที่ศูนย์พักพิงช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมบริเวณถนนสายวังทอง-สากเหล็ก ด้านนางนภา สระทองเพชร เปิดเผยว่า ที่บ้านถูกน้ำท่วม สูงกว่า 1 เมตร ในบ้านมีนางคอย ปานบุญ ป้าวัย 80 ปี และพี่ชายพิการ ทำให้ครอบครัวได้รับความเดือดร้อนมาก ดีที่เจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือไม่เช่นนั้นคงต้องใช้ชีวิตกันอย่างลำบาก เนื่องจากน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ระทึกช่วย 4 เด็กชายน้ำซัดหวิดจม
เวลา 14.00 น. วันที่ 1 ก.ย. หน่วยกู้ภัยสมาคมกู้ภัยบูรพาร่วมกับกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพมงคลธรรมไปช่วยเหลือเด็ก 4 คนถูกน้ำท่วมซัดลอยเกาะกอไม้บ้านวังประดู่ หมู่ 1 ต.วังพิกุล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พบเด็กชายอายุ 12-14 ปีเกาะอยู่กับกอไม้กลางกระแสน้ำที่ท่วมสูง เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำเด็กออกมาอย่างปลอดภัย สอบสวนญาติทราบว่าเด็กทั้ง 4 คนเรียนอยู่ ม.2 และ ม.3 ก่อนเกิดเหตุชักชวนกันไปเล่นน้ำบนถนนในหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วม ระหว่างเล่นน้ำอย่างสนุกสนานน้ำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆและไหลแรงก่อนซัดเด็กลอยไปตามกระแสน้ำ ทั้งหมดพยายามคว้ากอไม้ลอยอยู่กลางน้ำ ทำให้รอดตายหวุดหวิด
พบศพสังเวยน้ำท่วมรายที่สอง
ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.ชนินทร์ พานทอง รอง สว. (สอบสวน) สภ.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก รับแจ้งมีผู้พบศพนายชำนาญ เอี่ยมคง อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 151 หมู่ 5 ต.ไทรย้อย อ.เนินมะปราง ริมถนนที่ถูกน้ำท่วมขังบริเวณทางเข้าพุทธสถานร่วมบุญอริยทรัพย์ ถนนบ้านหนองบ่อ-วังดินเหนียว หมู่ 15 ต.ไทยย้อย ตรวจสอบพบรถ จยย. จมน้ำห่างจากศพประมาณ 200 เมตร สอบสวนญาติทราบว่า ช่วงเย็นวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ผู้ตายขี่รถ จยย.ออกจากบ้านไปเยี่ยมญาติแล้วหายตัวไป สันนิษฐานว่าถูกน้ำซัดจมน้ำทั้งรถและคน กระทั่งมีผู้พบศพ ดังกล่าว และนับเป็นศพที่สองของ จ.พิษณุโลกแล้ว ต่อจากนายเวียง ทองย้อยยอด อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/2 หมู่ 7 ต.วังทอง อ.วังทอง ที่จมน้ำเสียชีวิตที่บ้านพัก
น้ำป่าถล่ม รพ.สต.–ดินสไลด์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาตี 3 วันที่ 1 ก.ย. เกิดน้ำป่าจากลำน้ำแม่แงะ ไหลหลากเข้าท่วม รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านโพซอ หมู่ 5 ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ทำให้อุปกรณ์ทางการแพทย์ และวัสดุต่างๆที่อยู่ชั้น 1 ของอาคารได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมทั้งรถยนต์และ จยย.ของทางราชการ ถูกน้ำท่วมและน้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้านโชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะเดียวกันมีต้นไม้ล้มและดินสไลด์ลงมาปิดถนนสายแม่สะเรียง-บ้าน–โพซอ รวมทั้งหมด 39 จุด ทหารพรานที่ 36 เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน อบต.เสาหิน อบต.บ้านกาศ และฝ่ายปกครอง อ.แม่สะเรียง ระดมกำลังและเครื่องจักรกลหนักเข้าเคลียร์เส้นทางและตัดต้นไม้ที่กีดขวางการจราจร ยกเว้นเส้นทางช่วงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน ไปถึงบ้านโพซอ ต.เสาธงหิน ยังใช้การไม่ได้เพราะฝนตกต่อเนื่อง และดินสไลด์ปิดเส้นทางจำนวนมาก ต้องรอรถแทรกเตอร์ ฝ่ายทหาร นพค.36 มาสนับสนุนเปิดเส้นทางต่อไป
อุตรดิตถ์น้ำท่วมพินาศ 3 อำเภอ
จ.อุตรดิตถ์ น้ำท่วมรวม 3 อำเภอ บ้านเรือนเสียหาย 107 หลัง ประกอบด้วย อ.น้ำปาด มี ต.น้ำไคร้ 32 หลัง รวม 5 หมู่บ้าน และ ต.แสนตอ 30 หลัง รวม 3 หมู่บ้าน ส่วน ต.น้ำไผ่ พื้นที่ทางการเกษตรและถนนถูกน้ำกัดเซาะขาดรถสัญจรไม่ได้รวม 8 หมู่บ้าน อ.ฟากท่า มี ต.ฟากท่า รวม 6 หมู่บ้าน ชาวบ้านได้รับผลกระทบ 45 หลังคาเรือน และหมู่ 7 ต.น้ำหมัน อ.ท่าปลา พื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นบริเวณกว้าง นายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ผวจ.อุตรดิตถ์ เผยว่า แม้วันนี้น้ำลดเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่เพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ได้เรียกประชุมผู้เกี่ยวข้องหาแนวทางแก้ไขหากเกิดฝนตกหนักหลายวันเหมือนครั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ส่วนผู้ได้รับผลกระทบจะเร่งสำรวจเพื่อให้ความช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการโดยเร็ว
น้ำซัด จยย.เมียตาย–ผัวรอด
จ.พิจิตร สายวันเดียวกัน ขณะนายประจวบ พรมชัย อายุ 62 ปี และนางอุบล พรมชัย อายุ 54 ปี สองผัวเมียอยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ 1 ต.ดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ขี่รถจักรยานยนต์ไปทำธุระในพื้นที่ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร ระหว่างวิ่งมาถึงถนนสายทับคล้อ-เขาทราย ก่อนถึง สภ.ทับคล้อ เป็นช่วงที่มีน้ำท่วมและไหลแรง กระแสน้ำซัดรถ จยย. ของทั้งคู่จมหายไป หลังเกิดเหตุชาวบ้านและหน่วยกู้ภัยช่วยเหลือนายประจวบขึ้นมาได้ ก่อนนำส่ง รพ.ทับคล้อ ส่วนนางอุบลหาไม่พบ เจ้าหน้าที่ระดมค้นหา กระทั่งเวลา 15.00 น. พบศพถูกน้ำซัดเสียชีวิตไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุมากนัก
“เฉลิมชัย” สั่งสำรวจพื้นที่เกษตร
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือและภาคอีสานว่า ได้สั่งการให้กรมชลประทานเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง ทั้งในพื้นที่เกษตร พื้นที่ชุมชนและพื้นที่เศรษฐกิจ ซึ่งได้รับรายงานว่า มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 19 จังหวัดคือ แพร่ พิจิตร น่าน พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม อุดรธานี อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร สกลนคร สระแก้ว ชุมพร และระนอง ให้ระดมเครื่องจักร เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ รถขุด และเจ้าหน้าที่ไปคลี่คลายปัญหาโดยเร่งด่วน จากการพยากรณ์ของกรมอุตุนิยม-วิทยาคาดว่า ภาวะฝนตกหนักจากพายุโพดุลจะถึงวันที่ 1 ก.ย.เป็นวันสุดท้าย สถานการณ์น้ำท่วมจะดีขึ้น นอกจากนี้ยังสั่งการกรมส่งเสริมการเกษตรเตรียมสำรวจความเสียหายพื้นที่การเกษตรทันทีหลังน้ำลด โดยเฉพาะพื้นที่ได้รับผลกระทบ 44 จังหวัด
เตรียมเยียวยาพืชผลเสียหาย
นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ส่วนมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยนั้น หากผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติ เกษตรกรจะต้องยื่นแบบความจำนงขอรับการช่วยเหลือ (กษ.01) ให้ผู้นำท้องถิ่นเซ็นรับรองข้อเท็จจริง ก่อนจะมีการตรวจสอบทะเบียนเกษตรกรและพื้นที่ความเสียหายทางการเกษตร เพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเกษตรกรต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรไว้ก่อนเกิดภัย จะจ่ายเงินช่วยเหลือตามพื้นที่จริงที่ได้รับความเสียหายรายละไม่เกิน 30 ไร่ นาข้าวได้รับอัตราไร่ละ 1,113 บาท พืชไร่ ไร่ละ 1,148 บาท และพืชสวนและอื่นๆไร่ละ 1,690 บาท นอกจากการช่วยเหลือพืชผลที่เสียหายแล้วจะพิจารณามาตรการช่วยเหลืออื่นๆตามความเหมาะสมเช่น สนับสนุนปัจจัยการผลิตสำหรับฤดูกาลเพาะปลูกต่อไป ประสานกระทรวงพาณิชย์หาตลาดจำหน่ายผลผลิต
นายกฯบี้ทุกหน่วยเร่งช่วยน้ำท่วม
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์–โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยจากพายุโพดุลอย่างใกล้ชิด รวมทั้งกำกับดูแลการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ต่างๆทั้ง 16 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. ขณะนี้ได้รับรายงานว่า สถานการณ์อุทกภัยเริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงเกือบทุกจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ หลังจากนี้จะเร่งสำรวจความเสียหายทั้งบ้านเรือน พื้นที่เกษตรกรรม กำชับให้ทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อบรรเทาความเสียหายและช่วยเหลือประชาชนอย่างทั่วถึง ทันเวลา นายกรัฐมนตรีได้ย้ำขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ต่อไป ขอให้ประชาชนที่ได้รับความเสียหายและยังไม่ได้รับความช่วยเหลือติดต่อได้ที่สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ผบ.ตร.สั่งตำรวจช่วยผู้ประสบภัย
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีความห่วงใยประชาชนในพื้นที่ประสบภัย กำชับและสั่งการให้ศูนย์อำนวยการจิตอาสา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ (ศอ.จอส.) (ตร.) ให้เข้าช่วยเหลือแก้ไขปัญหา ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม พร้อมทั้งให้ศูนย์อำนวยการจิตอาสา ตำรวจภูธรภาค 1-4 และ ศูนย์ระดับจังหวัดในพื้นที่ประสบภัยเปิดทำการและมอบหมายผู้รับผิดชอบจัดการเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ข้อมูลข่าวสารจากฝ่ายปกครอง สำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยภัยในพื้นที่ กรมอุตุนิยมวิทยา หรือหน่วยเกี่ยวข้อง อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง รวมทั้งให้ ผบก.ภ.จ.ในพื้นที่ที่ประสบภัย มอบหมาย Local CAT ทุกนายออกช่วยเหลือ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุอย่างเต็มกำลังความสามารถ
ร้อยเอ็ดป่วนย้ายนักโทษหนีน้ำ
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมจากพายุโพดุล ส่งผลให้เรือนจำ จ.ร้อยเอ็ดได้รับผลกระทบเสียหายมากสุด จนต้องมีการเคลื่อนย้ายนักโทษ โดยนักโทษชาย 600 คน กระจายไปยังเรือนจำ 4 จังหวัด อาทิ ขอนแก่น สุรินทร์ ส่วนนักโทษหญิง 140 คน ย้ายไปยังเรือนจำ จ.มหาสารคามทั้งหมด ขณะนี้เรือนจำร้อยเอ็ดกำลังเร่งสูบน้ำออก หากฝนไม่ตกเพิ่มเติมคาดว่าจะเคลื่อนย้ายนักโทษกลับสู่เรือนจำร้อยเอ็ดได้ปลายสัปดาห์นี้ แต่เวลานี้สถานการณ์พายุยังวางใจไม่ได้ จึงได้สั่งการให้ราชทัณฑ์ภาคเหนือ และนายสมมาตย์ สุราช ผู้บัญชาการเรือนจำกลางจังหวัดขอนแก่น ประธานเขต 4 ที่ดูแลภาคอีสานตอนบน 12 จังหวัด 16 เรือนจำเฝ้าระวังสถานการณ์และหาแนวทางป้องกันโรคติดต่อต่างๆด้วย
เตือนรับมือฝนตกหนักอีกระลอก
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่าร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขอให้ประชาชนบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหล ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย สำหรับทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังโดยหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย