ได้อ่านรายงานพิเศษเรื่อง “พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง กระทืบซ้ำอ้อย+ปาล์ม+มันฯ” ที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันพุธที่ 28 ส.ค. 2562 ให้รู้สึกเศร้าใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องเกษตรกร
ต่อไปอ้อย มันสำปะหลัง ที่เกษตรกรปลูกเพื่อนำไปผลิตเป็นเอทานอล ปาล์มน้ำมันที่ปลูกไปผลิตเป็นไบโอดีเซล จะหมดช่องทางทำมาหากิน คิดเป็นเงินมากถึงปีละกว่า 50,000 ล้านบาท
เนื่องจากกฎหมายที่ออกมาไม่ให้รัฐเอาเงินมาอุดหนุนน้ำมันจากพืชที่เกษตรกรปลูกอีกต่อไป...ไม่เพียงช่องทางขายผลผลิตและรายได้ของเกษตรกรจะลดลง ประชาชนทั่วไปยังพลอยได้รับมลพิษทางอากาศจากการเผาไหม้น้ำมันปิโตรเลียมมากขึ้น
หลายคนคงตั้งข้อสงสัย...พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 ที่คลอดมาแบบลักหลับอย่างนี้ได้อย่างไร
ความจริงแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องประหลาดแต่อย่างใด...หากใครได้ติดตามความเคลื่อนไหวของคนในกระทรวงพลังงาน จะรู้ได้ทันที ไม่มีความจริงใจในเรื่องพลังงานทดแทนสักเท่าไร
เขามีแผนจะไม่ให้เราใช้พลังงานทดแทนจากพืชมานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะมาทำตอนออกกฎหมายฉบับนี้
ที่ว่านี่ไม่ใช่นึกมโนขึ้นเอง ข้อมูลที่คนกระทรวงพลังงานชี้แจงกับคณะอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาปัญหาเรื่องอ้อยในคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ สภาผู้แทนราษฎร...มันฟ้อง
ข้อมูลที่ว่า แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกของสำนักนโยบายและแผนพลังงาน ที่เขาเรียกเป็นภาษาอังกฤษแบบโก้ๆว่า AEDP ที่เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2551
แต่มันก็เป็นแค่แผนอวดโชว์ให้ดูดี เอาเข้าจริง ยิ่งทำยิ่งเละ ยิ่งต้องการให้คนไทยใช้พลังงานทดแทนลดลง...แผนนี้มันเป็นยังไง พรุ่งนี้มาสาวไส้ขุดพุงกันต่อ.
สะ-เล-เต
...