สั่งตรวจสอบย้อนหลังคาดผู้เสียหาย 400 คน แจ้งปัญหาถึงกระทรวง อว.
รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพครู (กมว.) เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเรื่องมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งผลิตนักศึกษาปริญญาโทบริหารการศึกษา เกินจำนวนรับจากที่ได้รับการอนุมัติจากคุรุสภา และปรับเปลี่ยนชื่อผู้เรียนหลายครั้ง ทำให้ กมว.ไม่สามารถออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหารให้ได้ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากผู้เรียนหลักสูตรบัณฑิตศึกษาสาขาบริหารการศึกษาว่า เรียนจบแล้ว แต่ไม่สามารถขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ จากการตรวจสอบพบว่ามหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้รับการอนุมัติให้เปิดรับปีการศึกษา 2557-2558 ปีละ 100 คน แต่มีการแจ้งรายชื่อผู้สำเร็จการศึกษาเกินจำนวนที่คุรุสภารับรอง รวมถึงมีการขอเปลี่ยนรายชื่อผู้สำเร็จการศึกษาตลอดเวลารวม 14 ครั้ง แต่ละครั้งรายชื่อก็ไม่ตรงกัน จึงมีมติให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนเพื่อความชัดเจน คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 สัปดาห์ หากไม่มีปัญหาก็จะได้ออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพผู้บริหาร
“ที่ประชุม กมว.เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะกระทบต่อสิทธิผู้เรียน จึงต้องเทียบรายชื่อที่มหาวิทยาลัยส่งมาครั้งแรกจนถึงครั้งล่าสุด โดยจะนัดประชุมวาระพิเศษพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นว่ามหาวิทยาลัยดำเนินการไม่ตรงไปตรงมา และทราบว่ามีการแอบเปิดสอนนอกสถานที่ตั้งโดยไม่ได้รับการรับรอง มีการรับนักศึกษามากกว่า 500 คน เกินจำนวนที่ได้รับอนุญาต ขณะนี้ข้อมูลค่อนข้างชัดเจนว่ามหาวิทยาลัยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าพอมีเด็กมาร้องเรียนก็สลับชื่อซิกแซ็ก นำรายชื่อนักศึกษานอกที่ตั้งมาใส่แทน กมว.จึงขอตรวจสอบข้อมูลก่อนว่า 100 คนที่ส่งมามีการเปลี่ยนแปลงกี่คน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เรียน” รศ.ดร.เอกชัยและว่า ที่ผ่านมา
...
กมว.ได้อนุมัติใบอนุญาตฯให้กับผู้เรียนหลักสูตรดังกล่าวปี 2557 จำนวน 74 คน ปี 2558 จำนวน 56 คน แม้จะได้รับอนุมัติแล้วก็จะต้องตรวจสอบย้อนหลัง หากพบว่าเป็นรายชื่อที่แทรกเข้ามาและเรียนนอกสถานที่ตั้งก็จะพิจารณาถอดถอนใบอนุญาตฯต่อไป คาดว่ามีประมาณ 400 คนสามารถฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากมหาวิทยาลัยได้ตามสิทธิ โดยทางคุรุสภาจะส่งรายชื่อมหาวิทยาลัยที่มีปัญหาให้กับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ด้วย ที่ประชุม กมว.ยังมีมติลงโทษทางจรรยาบรรณวิชาชีพครูและผู้บริหารโรงเรียน 10 ราย โดยเพิกถอนใบอนุญาตฯ 2 ราย ที่เหลือเป็นการลงโทษหลายกรณี ทั้งตีเด็ก ทำร้ายเด็ก ส่วนใหญ่มีโทษภาคทัณฑ์เพื่อไม่ให้ทำอีก.