ตอกหน้ารัฐบาลเข้าอย่างจังจากเหตุการณ์ลอบป่วนกรุงท้าทาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ที่กุมอำนาจการบริหารกระทรวงกลาโหม

และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในยามขาด “หัวโขน” ตำแหน่ง หัวหน้า คสช.

อีกบทพิสูจน์ความล้มเหลวของงานด้านการข่าว

ตั้งแต่หย่อนวัตถุประกอบวงจรไฟฟ้าและตลับลูกปืนที่ไม่มีดินระเบิดสร้างความตื่นตระหนกบริเวณ หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อบ่ายวันที่ 1 ส.ค.2562 ก่อนวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมีกำหนดไปเยือนเพื่อ “นั่งหัวโต๊ะ” ทำหน้าที่ประธาน ก.ตร.เพียงวันเดียว

เสมือนส่งสัญญาณเตือน แต่ยังไม่กระเทือนเข้าหูหน่วยข่าวความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง

กระทั่งรุ่งเช้าวันถัดมาเกิดเหตุลอบบึมหลายจุดทั่วกรุงลุกลามไปถึงศูนย์ราชการ โดยเฉพาะ หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม. รวมไปถึงด้าน หน้าสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

แถมมีการตั้งระเบิดหน่วงเวลาจุดชนวนให้เกิดเพลิงไหม้เผาวอดร้านเสื้อผ้าตลาดไซด์วอล์ค ซอยเพชรบุรี 19 แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กทม.
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวัดพลังความสามารถ “นักสืบพระกาฬ” ในชุดดรีมทีมของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.อีกครั้งว่าจะแกะรอยไล่ต่อ “จิ๊กซอว์” ไปหาตัวการผู้อยู่เบื้องหลังสร้างสถานการณ์ทำลายภาพเศรษฐกิจเมืองหลวงได้มากแค่ไหน

...

หลังประเดิมรวบ นายลูไอ แซแง อายุ 23 ปี นายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี สองหนุ่มชาวรือเสาะ จ.นราธิวาส ที่ก่อเหตุ ป่วนหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้วหลบหนีลงกลับถิ่นเกิดไปจนมุมด่านตรวจปฐมพร ถนนเพชรเกษม หมู่ 9 ต.วังไผ่ อ.เมืองชุมพร

เปิดฉากให้ตามพิสูจน์ความจริงของเรื่องทั้งหมดว่ามี “กลไกความขัดแย้งทางการเมือง” เกี่ยวข้องตามที่หลายคนตั้งข้อสังเกต

หรือเป็นเรื่องก่อความไม่สงบจากฝีมือโจรโต้.

"สหบาท"