เหตุระเบิดป่วนเมืองและระเบิดเพลิงไหม้ เกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุดรอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร เหตุการณ์ทั้งหมดน่าจะมีความเชื่อมโยงกัน และคาดหวังผลสร้างสถานการณ์
จุดแรกที่ป้ายด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เก็บกู้ระเบิดได้ 2 ลูก ช่วงเย็นวันที่ 1 ส.ค. ตำรวจไล่ล่าคนร้ายมือวางระเบิดตามภาพกล้องวงจรปิด ขณะหลบหนีกลับพื้นที่ภาคใต้ แต่ช่วงเช้าระเบิดเสียงดังสนั่นพร้อมกันหลายจุดในพื้นที่ตั้งสถานที่ราชการสำคัญ ย่านชุมชน และย่านท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
เสียงระเบิดทำให้คนหวาดกลัว
เหตุเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกันรวมทั้งหมด 4 จุด รอบกรุงเทพฯ ได้แก่ จุดแรก ซอยพระรามเก้า 57/1 ระเบิดขึ้น 1 ลูก จุดที่ 2 สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี เกิดระเบิดขึ้น 2 ลูก จุดที่ 3 สวนหย่อมหน้าอาคารบี ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เกิดระเบิดขึ้น 2 ลูก หน้าป้ายทางเข้ากองบัญชาการกองทัพไทย ระเบิดอีก 1 ลูก และกู้ได้ 1 ลูก รวมเฉพาะในศูนย์ราชการ ที่ตั้งหน่วยงานด้านความมั่นคงทหาร ตำรวจ พบระเบิดรวม 4 ลูก
จุดที่ 4 ซอยพระรามเก้า 57/1 แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง อีก 1 ลูก เหตุคนร้ายวางระเบิดเพลิงไหม้ย่านประตูน้ำ ช่วงเช้า อาจจะมีความเชื่อมโยงกัน
...
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกฝ่ายความมั่นคง กล่าวประณามกลุ่มก่อเหตุและผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุระเบิดป่วนเมือง บริเวณสถานที่ราชการและพื้นที่สัญจรของประชาชนหลายจุดในกรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายราย
ถือเป็นการบ่อนทำลายชาติ
ที่ต้องการลิดรอนระบบเศรษฐกิจและเสถียรภาพความสงบสุขมั่นคงปลอดภัยของประชาชนในภาพรวม ซึ่งประชาชนทุกภาคส่วนสมควร
ร่วมกันแสดงออกถึงการต่อต้านการใช้ความรุนแรงดังกล่าว ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันให้กำลังใจกันและกัน ไม่วิพากษ์ยั่วยุหรือให้ข้อมูลผ่านสื่อที่สร้างความสับสนกับประชาชน
ขอให้ร่วมกันเฝ้าระวังและติดตามให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับเจ้าหน้าที่รัฐ ขยายผลนำผู้กระทำผิดมาลงโทษโดยเร็ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งให้ ผบ.ตร.เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ และให้ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายข่าว เร่งสืบสวนขยายผลนำผู้ก่อเหตุระเบิดและผู้อยู่เบื้องหลังมาลงโทษให้ถึงที่สุดโดยเร็ว
ขอให้พิจารณาถึงความเชื่อมโยงของเหตุไฟไหม้ย่านธุรกิจสำคัญควบคู่กัน ให้ปิดล้อมและตรวจสอบการเข้าออกพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียด ได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคง เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและดูแลความปลอดภัยในพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจ จุดสัญจรของประชาชน และสถานที่ราชการต่างๆมากขึ้น
เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในภาพรวม.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th