ถ้าแยกส่วนพิจารณา เริ่มจากพิมพ์ทรง เนื้อหา ไปถึงริ้วรอยธรรมชาติ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่องค์นี้...ไม่แจ่มกระจ่างสว่างตาสักเท่าไหร่

แต่เมื่อมองภาพรวมๆ ก็จะเห็นว่า ทุกองค์ประกอบเชื่อมโยงได้ ไม่สะดุดตา

แม่พิมพ์...เอาเค้าเส้นสายพิมพ์ใหญ่ “องค์ครูเอื้อ” มาเทียบ ก็ไปกันได้ สะดุดเส้นกรอบกระจกด้านซ้าย...ไม่คมชัดตลอดสาย...มาแผ่วขาดเอาตรงจุดที่แตะเส้นซุ้ม ระหว่างกลางพระกร ถึงพระกัปประ (ข้อศอก) ซ้าย

จุดนี้ เป็นหนึ่งในหลายจุด ข้อพิจารณาของเซียนสำนักท่าพระจันทร์ สี่พิมพ์ใหญ่มาตรฐาน ถ้าเส้นกรอบกระจกมีช่องไฟห่าง ไปแนบปลายเส้นซุ้ม...ท่านว่า ผิดพิมพ์

หรือไม่ ก็ต้องอ่านเป็นพิมพ์ใหญ่บางขุนพรหม

แต่หลักนี้ ถูกวางไว้ทีหลัง เพราะผู้รู้รุ่นเก่ากว่า...อย่างรุ่นประชุม กาญจนวัฒน์ ก็มีภาพสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ พิมพ์เส้นสายเรียวบาง เส้นกรอบกระจกไม่แตะข้อศอกซ้าย...ให้ดูเป็น “องค์ครู” อยู่หนึ่งองค์

ก็ต้องยอมรับว่า อิทธิพลของหลักสี่พิมพ์ใหญ่ ยังมีไม่น้อย

พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ เนื้ออาบรักน้ำเกลี้ยง ซึ้งจัด...ของอภิเซียน ประจำ อู่อรุณ ลงตีพิมพ์ในนิตยสารพระเครื่องมาตรฐาน องค์หนึ่งมีคำบรรยายว่า ซื้อไว้ในราคาหลักแสน เมื่อกว่ายี่สิบปีที่แล้ว...

ทำให้คิดได้ว่า พระยังอยู่กับเจ้าของ คือพี่จำ เพราะสะดุดหลัก ที่เซียนท่าพระจันทร์กำหนด

ความจริงก็คือ พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ไม่ได้มีแค่สี่พิมพ์เท่านั้น ยังมีอีกหลายพิมพ์ พิมพ์ป้อม พิมพ์ชะลูด ฯลฯ...เส้นกรอบกระจก ก็ไม่ได้แตะเส้นซุ้มซ้ายระดับข้อศอกองค์พระ...แต่เซียนใหญ่หลายสำนัก ยืนยันว่าเป็นพระแท้

กระทั่งหลายองค์ ที่พิมพ์เข้าสี่พิมพ์มาตรฐาน แต่เส้นกรอบกระจกที่ว่า ไม่ติด หรือสึกหรอไป จนมองไม่เห็น แต่เมื่อดูเส้นสายอื่น เนื้อหา ธรรมชาติที่คุ้นตา...เมื่อมียี่ห้อเซียนใหญ่กำกับ

...

แสดงว่า จุดนี้ก็เป็นเพียงจุดหนึ่ง...ในการพิจารณาพระแท้ ไม่ใช่ข้อตัดสินเด็ดขาด

เรื่องจุดตำหนิที่ว่า กระทั่งรอยยุบ รอยแยก ฯลฯ พระปลอมวันนี้ พัฒนามาก มีทุกอย่างให้ดู มีสิ่งเดียวที่ทำยังไงก็ไม่เหมือน ก็คือความเก่า ถึงอายุ พระผงที่สร้างไว้กว่า 150 ปี

มองพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่องค์นี้ อีกที พิมพ์ทรงทุกเส้นสายถูกต้อง เนื้อละเอียด ผิวแป้งโรยพิมพ์บาง จะเรียกผิวเยื่อหอมก็ได้ มวลสารประปราย มองดูหม่นคล้ำ แต่ผุดผาดสะอาดตา

ริ้วรอยธรรมขาติ หลุมร่อง แม้จะน้อย... แต่ก็พอมี ดีกว่าริ้วรอยพระปลอมที่ทำอย่างตั้งใจ...

“ครูตรียัมปวาย” สอนไว้ข้อหนึ่งว่า...พระที่ผิวแห้งบริสุทธิ์ สะอาดขาวเกลี้ยงเกลา พระปลอมรุ่นเก่า ไม่อยากทำ ทำแล้วประจานความสดใหม่ (แต่พระปลอมรุ่นใหม่ทำได้ใกล้เคียง)...คนไม่เป็นพระ ดูแล้วไม่สนใจ

แต่สำหรับเซียน ตัดสินใจได้ง่ายๆ แทบไม่ต้องเข้าแว่น

ฝึกสายตา ดูพระแท้สภาพนี้ไว้หลายๆ องค์ ให้ติดตา

พระปลอมวันนี้ ทำเนื้อฉ่ำลวงตา คนไม่เป็นพระว่า “ซึ้งจัดได้ดี แต่พระปลอมที่ทำแบบสภาพเดิม ขาวๆ เกลี้ยงเกลา...แม้จะ

เติมคราบฝ้า ให้ดูเก่ายังไง ก็ยังเก่าไม่จริง เพราะขาดความซึ้งตา

ความแห้งบริสุทธิ์ ตามนิยามของ “ตรียัมปวาย” หรือคำ “ผิวเดิมๆ” ของเซียนรุ่นใหม่ ...ตัดสินเก๊แท้กันด้วยความซึ้งตา...ซึ่งเชื่อมโยงไปสู่ความ “ซึ้งใจ”

คำว่า “ซึ้ง” เป็นนามธรรม ที่ฝึกฝนกันได้ ด้วยการดูพระแท้ให้มากๆองค์.

O พลายชุมพล O