“แก๊งทวงหนี้โหด”...ออกตระเวนปล่อยเงินกู้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยสุดโหด ไล่บี้ทวงหนี้ด้วยการข่มขู่ และใช้ความรุนแรง นับวันยิ่งเหิมเกริมหนักถึงขั้นเลวร้ายสุดขีด บางกลุ่มบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ร่วมกันทำร้ายร่างกาย...ทรัพย์สินลูกหนี้เสียหาย ชนิดแบบไม่เกรงกลัวกฎหมาย

ต้นเหตุเกิดหนี้ไม่พ้นเงินไม่พอใช้ หันมากู้หนี้นอกระบบ และหาเงินจ่ายหนี้รายวันไม่ไหว ไปกู้เงินจากแหล่งอื่นมาจ่ายแทน ซึ่งมีไม่น้อยหันไปหาเงินด้วยการพนัน กลายเป็นดินพอกหางหมู ไม่สามารถจ่ายไหวได้

เกิดการเบี้ยว หนีหนี้...ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย...

วิศรุ พนักงานเร่งรัดหนี้สินในพื้นที่ กทม. ให้ข้อมูลรูปแบบการกู้ยืมเงินว่า สำหรับการกู้ยืมเงินด่วน หรือเงินร้อน มีหลากหลายรูปแบบ แต่ที่พบบ่อย คือ นายหน้าปล่อยเงินร้อน เรียกเก็บเงินกู้ยืมคืนแบบเป็นรายวัน ที่เก็บแต่ดอกเบี้ย ไม่มีการหักเงินต้น ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่...เจ้าหนี้เงินกู้ ยิ่งได้กำไรมากขึ้นเท่านั้น

หนำซ้ำ...เจ้าหนี้บางรายก็นิยมให้จ่ายทั้งต้นและดอกพร้อมกัน เช่น จ่ายเงินไป 100 บาทต่อวัน ต้องถูกหักเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 60 ส่วนที่เหลือร้อยละ 40 จะถูกนำไปหักจากเงินต้น ทำให้เงินต้นลดลง และดอกเบี้ยคิดเป็นรายวันเช่นเดิม

ส่วนใหญ่กลุ่มที่มักกู้เงิน คือ แม่ค้าพ่อค้า หรือผู้มีรายได้รายวัน มีผลตามมา หาเงินได้มากเท่าใด ต้องจ่ายหนี้เงินกู้หมด หากไม่จ่าย...ดอกเบี้ยก็เพิ่มขึ้นอัตโนมัติ กลายเป็นดินพอกหางหมู ดอกทบต้น

ในที่สุด...ก็ไม่มีเงินจ่าย ต้องหนีหนี้ และเกิดการทวงหนี้มหาโหดตามมา!

และถูกพวกหมวก ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ “ไล่ทวงเก็บเงินกู้” ตามรังควานถึงบ้าน บริษัทที่ทำงาน ทั้งคุกคาม ข่มขู่ ไม่เว้นถึงขั้นทำร้ายร่างกาย

สิ่งที่น่ากลัว คือ กลุ่มปล่อยเงินกู้นายหน้าเถื่อน...จำพวกหนี้การพนัน หรือหนี้บ่อนการพนัน ถือว่าเป็นหนี้ผิดกฎหมายตั้งแต่ต้น
ไม่สามารถฟ้องร้องได้ในชั้นศาล มีทั้งนำรถยนต์ค้ำประกันหนี้ หรือจำนำรถ ซึ่งหนี้จำนำนี้ เจ้าหนี้ไม่ค่อยตามทวง แต่จะนำรถออกขายทอดตลาดในราคาถูกแทน

...

หากเป็นหนี้กู้ยืมเงินสด เจ้าหนี้ต้องตามทวงเงิน “จนถึงที่สุด” จากกลุ่มรับจ้างทวงหนี้มืออาชีพเฉพาะ หากสามารถตามหนี้ได้สำเร็จ มีผลตอบแทนสูง 50 ต่อ 50 ของเงินที่ตามได้

กลุ่มทวงหนี้ประเภทนี้ มีแบ็กระดับบิ๊กสีเขียวและสีกากี บางคนคอยสั่งการหนุนหลัง เพราะเป็นผู้รับงานจากเจ้าหนี้ตัวจริง ในการทวงหนี้ และมาจ่ายงานต่อให้มือรับจ้างทวงหนี้อีกทอดหนึ่ง น่าสนใจว่า...พวกนี้มีวิธีการทวงหนี้หลากหลายที่แบบชนิดไม่พูดมาก...“ต่อความยาว สาวความยืด”

ถามคำเดียวจ่ายหรือไม่จ่าย และใช้ทุกรูปแบบทวงหนี้ที่โหด เถื่อน ถึงเนื้อถึงตัวกันเลย...

ต่างจากพวกเงินกู้ด่วน มีโฆษณา ตามเสาไฟฟ้า ตู้โทรศัพท์หรือป้ายรถเมล์ เมื่อมีการโทรศัพท์ตามหมายเลขประกาศไว้ นายหน้าปล่อยเงินกู้ จะแนะนำวิธีเงื่อนไขรายละเอียดในการกู้ยืมเงินต่างๆ และสอบถามถึงบัตรเครดิต เพื่อพาไปรูดสินค้าที่ใกล้เคียงกับเงินที่ต้องการ

หากไม่มีบัตรเครดิต จะพาไปทำบัตรเครดิตตามสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร เมื่อมีบัตรเครดิตแล้ว ก็พาไปรูดซื้อสินค้าเช่นเดิม

ถือว่าเป็นรูปแบบหลบเลี่ยงกฎหมาย ในรูปแบบซื้อสินค้า...ไม่ใช่การกู้เงินนอกระบบ!

จากนั้นจะทำการยึดสินค้าเอาไว้ และจ่ายเป็นเงินสดแทน แต่ยอดเงินที่ต้องการจะถูกหักออกจากเงินต้น เรียกว่าค่าดำเนินการร้อยละ 20-30 และผู้กู้เงินต้องผ่อนค่าสินค้า พร้อมกับชำระค่าดอกเบี้ยกับบัตรเครดิต

ทว่า...นายหน้าเงินกู้บางคน อาจทำสัญญาปลอมลักษณะซื้อสินค้า ...ผ่อนสินค้า ระหว่างคนต้องการกู้ และผู้ให้กู้ แต่ไม่มีสินค้าให้ตามจริง มีการจ่ายเงินสดแทน และตามเก็บเงินรายวันเช่นกัน...

วิศรุ ให้ข้อมูลอีกว่า ส่วนกู้เงินในระบบ หรือการทำธุรกรรมสินเชื่อส่วนบุคคล ทั้งหนี้สถาบันการเงิน หนี้บัตรเครดิต หนี้ประกอบการสาธารณูปโภค และหนี้หนีไฟแนนซ์ มีการทำสัญญากู้ยืมเงินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ลูกหนี้กลับไม่ทำตามที่ระบุไว้ในสัญญา

จนเกิดการทวงถามหนี้ขึ้นในรูปแบบตามกฎหมาย มีระยะเวลากรอบที่กำหนดไว้ เมื่อทวงหนี้จากลูกหนี้ไม่ได้ ก็กลายเป็น “หนี้สูญ”

ไม่สามารถทำอะไรได้ มีช่องทางเดียว...นำออกมาประมูลขายหนี้ ให้กับบริษัทเร่งรัดหนี้ ในราคาถูกกว่าหนี้กู้ยืมไป...แม้จะขาดทุน แต่ดีกว่าไม่ได้เงินกลับคืนมาเลย

แต่ว่า...บริษัทเร่งรัดหนี้สิน มีสิทธิเข้าร่วมประมูล ต้องจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนใหญ่มักเป็นสำนักงานกฎหมาย หรือนิติบุคคล จดทะเบียนประกอบกิจการทวงถามหนี้สิน ตาม พ.ร.บ.การทวงหนี้ 2558

เมื่อมีการประมูลหนี้สูญมาได้แล้ว ถือว่าได้รับอำนาจเป็นเจ้าหนี้ สามารถติดตามจัดเก็บหนี้ รวมถึงงานด้านกฎหมาย ได้แก่ ฟ้อง และสืบทรัพย์คดีในการติดตามเร่งรัดหนี้

ทั้งนี้วงการสถาบันการเงิน ธุรกิจสินเชื่อต่างๆมีหนี้สูญถูกนำออกมาเปิดประมูลทุก 3–6 เดือน...แต่บริษัทเร่งรัดหนี้สินจะเสนอราคาเข้าร่วมประมูลหนี้สูญนั้น ต้องพิจารณาเรื่องโอกาสในการทวงหนี้เป็นหลัก ทั้งราคาประมูล จำนวนหนี้สูญ แหล่งอาศัย หรือสถานที่ทำงานลูกหนี้ เพื่อวิเคราะห์ช่องทางการติดตาม มีโอกาสทวงถามได้มากน้อยเพียงใด รวมถึงระยะเวลาติดหนี้แต่ละคน

เพราะลูกหนี้ยืมเงินเป็นเวลาสั้นเท่าใด ยิ่งมีโอกาสได้เงินมากกว่าลูกหนี้ทวงนาน เช่น ลูกหนี้เคยถูกทวงหนี้มา 10 ปี ก็ไม่ยอมจ่าย จนเป็นหนี้สูญนำออกมาขาย ลักษณะเช่นนี้โอกาสทวงหนี้ได้ยาก

ที่ผ่านมามีการเข้าร่วมประมูลหนี้สูญปีละ 2 ครั้ง ตามอัตราพนักงาน 20 คน มีลูกหนี้ที่ต้องติดตามทวงถามประเภทหนี้ไฟแนนซ์รถจักรยานยนต์ 60 ราย จากประมูลซื้อหนี้สูญในราคา 120,000 บาท มีมูลค่าหนี้สูญ 4-5 ล้านบาท และหนี้บัตรเครดิต 500 ราย ในหนึ่งปีสามารถสร้างผลกำไร 4 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท จากหนี้สูญที่ประมูลมาได้นี้ ธุรกิจนี้ไม่ใช่มีผลกำไรอย่างเดียว แต่ยังต้องแบกรับภาระเสี่ยงขาดทุนมากมาย ไม่รู้ว่าหนี้สูญที่ลงทุนประมูลมานั้น จะทวงถามได้มากน้อยเพียงใด ทำให้บางปีขาดทุนก็มี...

...

ในการทวงถามนั้นต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.การทวงหนี้ 2558 อาทิ ติดต่อในวันราชการ เวลา 08.00-20.00 น. กรณีเป็นผู้รับมอบอำนาจต้องแสดงหลักฐานชัดเจน ต้องใช้วาจาที่สุภาพ ห้ามข่มขู่ ใช้ความรุนแรง ทำให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายหรือทรัพย์สิน หากลูกหนี้มีการร้องเรียน อาจมีความผิดตามกฎหมายได้

“กรณีลูกหนี้หลบหนีหนี้ไปแล้ว คิดว่าไม่อาจตรวจสอบตามหาตัวได้นั้น ขอให้คิดใหม่ ถ้ายังอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย คุณมีวิธีหลบเลี่ยงจ่ายหนี้ เราก็มีวิธีตามหนี้เช่นกัน” วิศรุ ว่า “เราสามารถตรวจสอบและขอข้อมูลอัปเดตของลูกหนี้แบบรายวัน...รายเดือน และรายปีด้วยซ้ำ ด้วยการจ่ายเงินค่าธรรมเนียมในการคัดลอกชื่อ...ข้อมูลส่วนบุคคล 5-6 บาทต่อคน จากกลุ่มคนบางคน ในหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงแรงงาน จะได้ข้อมูลชัดเจนเลยว่า ลูกหนี้อยู่พื้นที่ใด ใช้โทรศัพท์หมายเลขอะไร และเปลี่ยนทำงานอยู่ที่ไหน...”

เรื่องแบบนี้คนในวงการรู้กันดีอยู่แล้ว...ย้อนไปก่อนหน้านี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เคยจ่ายกันในราคา 40-60 บาทต่อคน ปัจจุบันมีธุรกิจเร่งรัดหนี้สินมากขึ้น ทำให้การจ่ายค่าธรรมเนียมคัดลอกชื่อ....ข้อมูลส่วนบุคคลถูกลง

บันทึกลับสารพัดการ “ทวงหนี้” เป็นเช่นนี้ สำหรับหนทางไม่เป็นหนี้ ที่ไม่ต้องระแวงจะถูกทวงหนี้โหดมีทางเดียว...รู้จักประหยัด อดออม...เท่านี้ชีวิตก็มีความสุขและอยู่ห่างไกลการเป็นหนี้ได้แล้ว.