ชมรมช่วยเหลือหมอนวดไทย ยกระดับการนวดแผนไทย เปิดตัว "กระษัย 4 ศาสตร์" ฟื้นฟูแก้ไขปัญหา "การเสื่อมของร่างกาย" แถมช่วยแก้ "ปัญหานกเขาไม่ขันในชาย-เซ็กซ์เสื่อมในหญิง" สร้างความสัมพันธ์ให้ชีวิตคู่ ต่อยอดอาชีพหมอนวด สร้างรายได้-ยกระดับคุณภาพชีวิต 

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.62 อ.ศรัญญา คงจักร์ ประธานชมรมช่วยเหลือหมอนวดไทยและผู้คิดค้นการนวด กระษัย 4 ศาสตร์ กล่าวว่า กระษัยมีความหมายว่า "การเสื่อมของร่างกาย" โดยการเสื่อมนี้ถูกนับรวมตั้งแต่ประสิทธิภาพการทำงานที่ถดถอยลง, อาการป่วยและร่างกายอ่อนแอ ไปจนถึงการเสื่อมของสมรรถภาพทางเพศทั้งชายและหญิง โดยในยุคโบราณการนวดกระษัยจะช่วยในการแก้อาการปวดหลัง เอว ปัสสาวะติดขัด รวมไปถึงโรคต่างๆ ที่เกิดจากในอวัยวะทั้ง 6 ได้แก่ หัวใจ ตับ ไต ม้าม ปอด และลำไส้ ซึ่งจะมีทั้งกระษัยเส้นและกระษัยโอปปาติกะ และตนได้ประยุกต์เอาศาสตร์การนวดกระษัย 4 แบบเข้าด้วยกัน ได้แก่ แบบไทย จีน อินเดีย และตะวันตก จนได้เกิดเป็น "กระษัย4ศาสตร์" เพื่อดึงเอาข้อดีและหลักการตามวิชาการ มาก่อให้เกิดคุณค่าของการนวด ตอบสนองให้เกิดความประทับใจ และสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับผู้ป่วยได้ทุกชนชาติ 

อ.ศรัญญา กล่าวต่อว่า สำหรับหลักการที่แท้จริงของ "กระษัย 4 ศาสตร์" คือการนวดเพื่อฟื้นฟูต้นเหตุของปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ โดยพบว่า ชายไทยกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ มีปัญหาภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชาย ส่งผลให้นกเขาไม่ขันหมดอารมณ์ทางเพศ ส่งผลกระทบต่อปัญหาหลายอย่าง ทำให้เกิดโรคเสื่อมต่างๆ ตามมา อาทิ โรคซึมเศร้า ไม่มีความรู้สึกทางเพศ (กามตายด้าน) โรคกระษัย เบาหวาน โรคอ้วน ต่อมลูกหมากโต จนถึงขั้นเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ ซึ่งเป็นโรคที่คร่าชีวิตผู้ชายไทยมากสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากโรคมะเร็งปอด

"หากจะให้นับอาการนกเขาไม่ขันในหมู่ชายไทย พบว่า อาการนี้จะเริ่มพบตั้งแต่อายุ 26-36 ปี เป็นส่วนน้อยประมาณ 15% อายุ 37-48 ปี เป็นประมาณ 25% อายุ 49-60 ปี เป็นส่วนใหญ่ประมาณ 50% และอายุ 61 ปี ขึ้นไป ที่มีสุขภาพดีอยู่ที่ประมาณ 10% และไม่ใช่เฉพาะในหมู่ชายไทยเท่านั้นที่มีปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เพราะในกลุ่มเพศหญิงก็พบปัญหาเหล่านี้ได้เช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วจะส่งผลต่อการปวดประจำเดือน ต่อมไร้ท่อทำงานหย่อนยาน อาการเหล่านี้จะนำมาซึ่งปัญหามากมาย ทั้งช่องคลอดแห้ง-หลวม มดลูกหย่อน ปวดหลัง-เอว-หน้าขา จนทำให้เกิดภาวะตายด้าน ที่สามารถฟื้นฟูโดยการนวดกระษัยได้เช่นเดียวกัน" อ.ศรัญญา กล่าว

...

อ.ศรัญญา กล่าวต่อว่า สำหรับขั้นตอนการฟื้นฟูร่างกายด้วยการนวดกระษัย 4 ศาสตร์ จะใช้ระยะเวลารักษาไม่นาน โดยการรักษาแต่ล่ะครั้งจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วย โดยขั้นตอนการนวดจะเริ่มจากการนวดแก้เส้นประสาทด้านหลังในคู่ที่เกี่ยวข้อง ขยายหลอดเลือดส่วนหลัง ปรับโครงสร้างตามความจำเป็น แก้ไขบริเวณเอวสะโพก ขอบกระดูกเชิงกรานเกลียวข้างและสลักเพชรใน ถัดมาจะเป็นขั้นตอนการแก้เส้นขาด้านหลังใต้ก้นย้อย และแก้เส้นในขาตะเกียบ ต่อจากนั้นจะเป็นการกดจุดบริเวณก้นกบ กดจุดสะท้อนไปยังระบบอวัยวะเพศ หลังจากนั้นก็จะมีการนวดท้องด้วยศาสตร์จีนที่เรียกว่า "ชี่เนยจังประยุกต์" เพื่อแก้ไขปัญหาอวัยวะภายในช่องท้อง เพื่อปรับสมดุลตามแบบแผนจีน เสริมด้วยการเลาะพังผืดตามหัวเหน่าขาหนีบ ฝีเย็บ จนจบด้วยการตรวจและเคลียร์ปัญหาต่างๆ เป็นอันเสร็จสิ้น นอกจากนี้ยังมีการนวดเสริมรูปแบบอื่นอีกมากมาย ขึ้นกับอาการของผู้ป่วยที่เข้ามาฟื้นฟู

อ.ศรัญญา กล่าวปิดท้ายว่า แม้ว่าปัญหาเสื่อมของสมรรถภาพทางเพศ จะเกิดขึ้นได้ทั้งในเพศชายและหญิง แต่ต้องยอมรับว่ากว่า 99% ของผู้ที่มารับการฟื้นฟู มีเฉพาะเพศชายซึ่งผู้ป่วย โดยเพศหญิงอาจมองเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าอายและไม่สำคัญ ซึ่งนี่เป็นความคิดที่ผิด เพราะเรื่องการเสื่อมของเซ็กซ์นั้น เป็นสิ่งปกติที่พบได้ในทุกคน ทุกเพศ และทุกที่ สำหรับกระษัย 4 ศาสตร์นั้น นับเป็นการสืบสานภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย ซึ่งในปัจจุบันมีหมอนวดไทย เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เรียนรู้ศาสตร์นี้ ดังนั้นชมรมช่วยเหลือหมอนวดไทยได้เขียนตำราการนวดกระษัย 4 ศาสตร์ ฉบับชะลอการหลั่งและแข็งไม่เต็มที่ เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้กับหมอนวดไทย และยังเปิดสอนให้สำหรับหมอนวดที่สนใจ เนื่องจากการนวดชนิดนี้จะสามารถสร้างรายได้ให้กับหมอนวดสูงถึงครั้งละ 3,000-4,000 บาท ต่างจากการนวดแบบปกติ อีกทั้งอาชีพหมอนวดเป็นอาชีพที่มีรายได้ไม่แน่นอน หากมีความรู้เพิ่มเติมน่าจะสามารถต่อยอดอาชีพ และเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับอาชีพหมอนวดไทยได้

ผู้ที่สนใจเรียนการนวดกระษัย 4 ศาสตร์ หรือสนใจนวดเพื่อฟื้นฟู หรือต้องการหนังสือ "การนวดกระษัย 4 ศาสตร์" ฉบับชะลอการหลั่งและแข็งไม่เต็มที่ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ "ชมรมช่วยเหลือหมอนวดไทย" โทร. 088-196-1869 หรือ Line : @saranya1341 หรือเฟซบุ๊ก facebook.com/saranyacommunity หรือที่เว็บไซต์ www.saranyacommunity.com