วันก่อนฝนเทลงมาซู่เดียว ภาพวันเก่าปี 54 หวนคืนมา...สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) หน่วยงานกลางในการบริหารจัดการน้ำ ได้เตรียมความพร้อมรับมือน้ำหลากปีนี้แค่ไหน

“ขณะนี้ได้มีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนการเพาะปลูกให้ชัดเจน ทั้งในเขตและนอกเขตชลประทาน มีการปรับปรุงการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำใหม่ทั่วประเทศ จัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำหลาก มีแผนการป้องกัน รับมือ และเผชิญเหตุอุทกภัย ตรวจสอบสภาพอาคารชลศาสตร์ ระบบการระบายน้ำ สถานีโทรมาตร เพื่อติดตามเฝ้าระวัง

มีการตรวจสอบสิ่งกีดขวางทางน้ำ สำรวจแม่น้ำ คูคลอง ขุดลอกผักตบชวาตลอดจนขยะ ไม่ให้เป็นอุปสรรคกีดขวางการระบายน้ำ ในช่วงฤดูน้ำ หลากปีนี้ ตลอดจนเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือในการให้ความช่วยเหลือ” นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. ร่ายยาวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำหลากในปีนี้

นอกจากนี้ยังได้มีการกำหนดเกณฑ์การ ปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติ เพื่อบริหารจัดการน้ำใน สภาวะปกติและสภาวะ วิกฤติ ซึ่งมีทั้งหมด 3 ศูนย์ปฏิบัติการ

1.ศูนย์อำนวยการน้ำของ สทนช. เริ่มปฏิบัติงานเมื่อกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเข้าสู่ฤดูฝน จะเป็นหน่วยงานหลักในการประสาน ติดตามข้อมูลจากหน่วยงานด้านน้ำ เพื่อวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์ประจำวัน... เป็นการดำเนินการในภาวะปกติ ระดับที่ 1 หรือระดับสีเขียว ขณะนี้เริ่มปฏิบัติงานแล้ว

2.ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติจะเริ่มปฏิบัติงาน เมื่อมีพายุก่อตัวและคาดว่าจะมีผลกระทบต่อประเทศไทย หรือความกดอากาศต่ำพาดผ่าน มีปริมาณฝนตกหนาแน่นครอบคลุมหลายจังหวัด ฝนสะสม 3 วัน เกินกว่า 200 มม. ปริมาณน้ำในลำน้ำมากกว่า 60% ของความจุลำน้ำ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำมีมากกว่า 60%...อยู่ในเกณฑ์ ระดับที่ 2–3 หรือระดับสีเหลือง คาดว่าจะเริ่มปฏิบัติงานช่วงกลางเดือนกรกฎาคม

...

3.ศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ มีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บัญชาการศูนย์ฯ สถานการณ์รุนแรงระดับประเทศ เข้าสู่ระดับ 4 ระดับสีแดง ระดับสูงสุด มีผลกระทบในวงกว้าง จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลสถานการณ์ พื้นที่รับผลกระทบไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยเร่งด่วน.

สะ–เล–เต