สวัสดีท่านผู้ชมกันด้วย ธรรมะสนามพระวิภาวดี ของ พระอาจารย์ชยสาโร “การให้ธรรมเป็นทานคือการให้อันยอด เพราะเป็นการช่วย” หงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีปในที่มืด ด้วยหวังว่า คนมีจักษุจักเห็นรูปได้ “ใครมีส่วนร่วมในการส่งเสริม ศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญา ในจิตใจของเพื่อนมนุษย์ ย่อมได้บุญอย่างยิ่ง”.....
ส่วนพระเครื่องที่มาเปิดสนามพระอาทิตย์แรกของเดือน 6 คือ พระสมเด็จอรหัง พิมพ์ฐานคู่ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ พระบรมราชาจารย์ของในหลวงรัชกาลที่ ๑-๔ แห่งราชวงศ์จักรี--และทรงเป็นพระกรรมวาจาจารย์ในการอุปสมบทและสอนกรรมฐาน สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี).....
เจ้าประคุณ-สมเด็จฯ สร้างพระนี้ขึ้นเป็นที่ระลึก ครั้งได้รับสถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร ประมุขสงฆ์ องค์ที่ ๔ ของรัตนโกสินทร์ ระหว่างปี พ.ศ.๒๓๖๐-๒๓๖๓.....
ลักษณะเป็น พระเนื้อผงพุทธคุณ ผสมปูนขาว อีกส่วนหนึ่งพบที่ วัดสร้อยทอง มีทั้งเนื้อสีขาวและสีแดง รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า (ชิ้นฟัก) ด้านหน้าเป็นองค์พระปฏิมา ประทับนั่งเหนือฐานสามชั้น ในซุ้มครอบแก้ว ด้านหลัง มีลายมือจาร-อักขระภาษาบาลี คำว่า อรหัง.....
ส่วนหนึ่งมอบศิษย์ผู้ร่วมพิธี ส่วนที่เหลือนำบรรจุในองค์พระเจดีย์ วัดมหาธาตุ และยังมีที่ค้นพบบรรจุ กรุพระเจดีย์วัดสร้อยทอง อีกส่วนหนึ่ง.....
รวมทั้ง ๒ วัด มี พิมพ์พระที่นิยมเป็นมาตรฐาน ๕ แบบพิมพ์คือ ๑.พิมพ์สังฆาฏิ (เข่าตรง) เศียรโต เศียรเล็ก ๒.พิมพ์ฐานคู่ (เข่าโค้ง) ๓.พิมพ์เกศอุ เปลวเพลิง ๔.พิมพ์โต๊ะกัง (ยันต์ปั๊ม) ๕.พิมพ์เล็ก.....
...
พระสมเด็จอรหัง ถือเป็น ต้นสกุลพระพิมพ์สมเด็จ ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) สร้างตามรอยพระอาจารย์ จนมีชื่อเสียงยกย่องเป็น จักรวรรดิ พระเครื่อง ทำให้ความนิยมพระต้นสกุลสูงตามไปด้วย เพราะมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ปรากฏครบครอบรอบด้านเหมือนกัน ปัจจุบัน องค์งามๆ สภาพเยี่ยมๆอย่างองค์นี้ของ เสี่ยจิรวัฒน์ คงทวีบุญ (ต้อม พระสิงห์) อยู่ที่ หลักล้าน มานานแล้วจ้า.....
องค์ที่สองคือ พระพิมพ์ยืนปางประทานพร กรุเจดีย์เล็ก วัดใหม่อมตรส กทม. ของ เสี่ยปรีดา คูวิบูลย์ศิลป์ เป็นพระแท้ดูง่าย ที่มุมบนขวามือเรา มีเนื้อร่อยไปนิด เป็นมาแต่ในกรุ ไม่ถือว่าชำรุด ยังคงสภาพเป็นพระสวยสมบูรณ์สภาพเดิมๆ แท้ดูง่าย ทรงดี พิมพ์เด่น.....
สภาพคราบกรุมีเกิดขึ้นหนาบางพองามและเสมอกันทั่วองค์ ไม่มีจุดบดบังมุมมอง เห็นทุกเส้นศิลป์และพิมพ์พระชัดเจนเป็นธรรมชาติ ปราศจากการตกแต่ง.....
ค้นพบตอนบูรณะปรับปรุงพื้นที่วัด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ ในเจดีย์องค์เล็ก ข้างพระเจดีย์องค์ประธาน ซึ่งเป็นของ ตระกูลธนโกเศศ มี ๖ พิมพ์ คือ ๑.แหวกม่าน ๒.พิมพ์ฐานหมอน หรือสามเหลี่ยมหน้าหมอน ๓.พิมพ์ยืนปางประทานพร ๔.พิมพ์สมาธิ ๕.พิมพ์ไสยาสน์ ๖.พิมพ์ฐานคู่.....
ตอนพบพระ แรกๆยังหาข้อยุติเรื่องผู้สร้างไม่ได้ ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าสร้างพร้อมพระสมเด็จ กรุเจดีย์ใหญ่ อีกฝ่ายว่าสร้างภายหลัง จนเมื่อเวลาล่วงเลย มีผู้ทำบุญบูชาพระไปใช้บูชา โดยเฉพาะวัยรุ่น ย่านบางขุนพรหม นิยมนำ พระพิมพ์สามเหลี่ยมหน้าหมอน ไปคล้องคอแบบติดกระเดือกด้วยสายร่มตามเทรนด์จิ๊กโก๋ยุคนั้น และมีเรื่องตะลุมบอนตีรันฟันแทงกับวัยรุ่นต่างถิ่นเป็นประจำ แต่แค่บาดเจ็บฟกช้ำ ไม่มีเลือดตกยางออก.....
ทำให้มีผู้สนใจไปทำบุญบูชาพระหมดจากวัดไป โดยไม่ใส่ใจเรื่องผู้สร้าง ปัจจุบันความนิยมพระสกุลนี้มีสูงขึ้น ราคาอยู่ที่ หลักแสนต้นถึงกลาง โดยเฉพาะพิมพ์นิยมหายากสภาพงามเยี่ยม อย่างองค์นี้.....
ตามมาด้วย พระท่ามะปราง เนื้อชินเงิน กรุเมืองกำแพงเพชร ที่มีการค้นพบในกรุพระสำคัญหลายจังหวัด ในเขตภาคกลางตอนเหนือ ทั้งกรุต้นกำเนิด วัดท่ามะปราง พิษณุโลก ที่สร้างชื่อด้วยการแสดงอานุภาพคุ้มครองทหารไทย ที่ไปปราบกบฏเมืองเหนือ โดยไม่มีใครได้รับอันตรายเสียเลือดเนื้อแม้แต่คนเดียว--ทำให้พระได้รับการขนานนาม “เงี้ยวทิ้งปืน”.....
ต่อมาได้ค้นพบพระพิมพ์เดียวกันนี้ที่กรุพระในกำแพงเพชร และสุโขทัย และพบเป็น พระฝากกรุ ในพิจิตร สุพรรณบุรี อีกบางส่วน.....
เฉพาะในเมืองกำแพงเพชร มีพบที่ วัดอาวาสน้อย วัดบรมธาตุ วัดกะโลทัย วัดพิกุล วัดสี่อิริยาบถ เป็นพระพิมพ์เดียวกับของเมืองพิษณุโลก แต่มีสภาพสมบูรณ์งดงามกว่า เนื้อพระที่พบส่วนใหญ่ เป็นชนิดเนื้อชินเงิน ส่วนน้อยเป็น เนื้อตะกั่วสนิมแดง เนื้อดิน เนื้อว่าน .....
นิยมที่พบในกรุพระเมืองกำแพงเพชร กว่าเมืองอื่น แม้ของเมืองพิษณุโลก เพราะมีความสมบูรณ์สวยงามมากกว่า อย่างองค์นี้ของ เสี่ยวีระพันธ์ เมธาชูโชค.....
...
อีกสำนัก มาจากวัดบวรนิเวศฯคือ เหรียญ พระไพรีพินาศ พ.ศ. ๒๔๙๕ เนื้อทองคำลงยา ของ เสี่ยพงศกร เล้าสมรุ่งเรือง สร้างเนื่องในงานฉลองพระชนมายุครบ 80 ปี ของ สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื่น นพวงศ์) สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 13 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์.....
สมเด็จเจ้าประคุณ ทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษาในวันที่ 22 พ.ย. พ.ศ.2495 แต่การจัดสร้างวัตถุมงคล มาดำเนินการกันในปี 2496 โดยเททองหล่อพระกันเมื่อวันที่ 4 เม.ย.2496 ซึ่งมีการเท พระไพรีพินาศ รุ่นแรก ได้แก่ พระบูชา พระกริ่ง พิมพ์บัวแหลม พิมพ์บัวเหลี่ยม พระชัยวัฒน์ไพรีพินาศ เหรียญไพรีพินาศ และหม้อน้ำมนต์.....
เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช เป็นพระเชื้อพระวงศ์ที่เคร่งครัดสมถะเรียบง่าย ทรงเป็นพระสุปฏิปันโน โปรดห่มสบงจีวรสีเหลืองที่ย้อมด้วยน้ำแก่นขนุน (สีกรัก) ตลอดเวลาที่ผนวชกว่า 70 ปี ในการเสด็จออกวัด มักจะดำเนิน ไม่ใช้รถ ข้าวของที่มีผู้ถวาย ก็จะให้นำแจกจ่าย จึงมีธรรมเนียมจับสลากของวันประสูติกันทุกปี.....
ถัดไป ขอเสนอ เหรียญหล่อ หลวงพ่อทวด หลังเตารีด พิมพ์นิยม A พ.ศ.๒๕๐๕ วัดช้างให้ อ.โคกโพธิ์ ปัตตานี ซึ่งไม่ได้มาให้ชมนานแล้ว เหมือนไม่มีความเคลื่อนไหว .....
...
แต่ไม่ใช่เพราะความนิยมลดลง แต่เป็นเพราะไม่มีพระหมุนเวียนในวงการมากเหมือน ๔-๕ ปีก่อน ที่ความนิยม พระหลวงพ่อทวด ทุกรุ่นทุกแบบ ที่สร้างไว้โดย อ.ทิม วัดช้างให้ มีความร้อนแรง.....
ราคาพระทุกชนิดพุ่งสูง อย่าง เหรียญหล่อหลังเตารีด รุ่นนี้ราคาไปถึงหลักแสน ยิ่งเป็นองค์งามๆระดับแชมป์สภาพเดิมๆ แบบองค์นี้ของ เสี่ยเฉิน รังเทพ มีข่าวซื้อขายถึงหลักล้านมาแล้วหลายองค์.....
อีกรายการ เป็น พระพุทธรูปบูชา พุทธศิลป์สมัยเชียงแสน สิงห์ ๓ พุทธศิลป์ถึงยุค อายุถึงสมัย ที่ต้องชื่นชมว่างามเยี่ยม รายละเอียดในพระพักตร์ พระขนง พระเนตร พระกรรณ พระนาสิก ตลอดองค์ลงมาถึงฐานชั้นล่างสุด รวมถึงเส้นสายลายศิลป์รูปทรงองค์ บอกได้ว่า พุทธศิลป์สูงล้ำงามเลิศ.....
ทั้งขนาด หน้าตัก ๘ นิ้ว ก็ยังเป็นที่นิยมสูง เพราะลำพังพระพุทธรูปพุทธศิลป์สมัยเชียงแสน สิงห์ ๓ แท้ๆ องค์ขนาดนี้ ก็หายากมากแล้ว จะหาองค์งามเลิศแบบนี้ยิ่งกว่าหายาก แต่ เสี่ยอมรศักดิ์ พงศ์พศุตม์ ก็หาจนได้.....
...
อีกรายการ คือ เหรียญ เสมา ๘ รอบ เนื้อเงินลงยา สีเดียว พ.ศ.๒๕๑๘ หลวงปู่ทิม อสิรโก วัดละหารไร่ อ.บ้านค่ายระยอง เหรียญที่ระลึกในงานทำบุญฉลองอายุครบ ๘ รอบ ของท่าน.....
สร้างพร้อมเหรียญห่วงเชื่อม เหรียญนาคปรก เหรียญหล่อฉลุ เมื่อวันที่ ๑๖ มิ.ย.๑๘ เนื้อเหรียญ มีทั้งชนิดเนื้อทองคำ ทองคำลงยา เงินลงยา นวโลหะลงยา และเนื้อทองแดง.....
เฉพาะชนิดเนื้อเงินลงยา สีเดียว อย่างเหรียญนี้ ของ เสี่ยจิระเดช สุคนธมาน สร้าง ๑,๘๙๗ เหรียญ ทุกเหรียญตอกโค้ดเม็ดงา และโค้ดตัวอิ ที่ข้างเข่าซ้าย ปัจจุบันได้รับความนิยมสูง ราคาหลักหมื่นถึงหลักแสน.....
ลากันด้วย เรื่องปิดท้าย ของ เสี่ยนิยม เจ้าของร้ายขายมอเตอร์ไซค์ ย่านพุทธมณฑล.....
พอเมียตาย เสี่ยนิยม ก็เลี้ยงลูกตามลำพัง แต่ก็กลุ้มใจเพราะลูกชายชื่อ นายศักดิ์สิทธิ์ เรียนอยู่วิทยาลัยอาชีวะ มีนิสัยใจร้อน ชอบเอามอเตอร์ไซค์ ไปขับแข่งเป็นเด็กแว้น ถูกตำรวจจับเพราะมีเรื่องพะบู๊บ่อยๆ ห้ามก็ไม่ฟัง นายนิยมต้องวิ่งขึ้นโรงพัก เข้าออกโรงพยาบาล จนเอือมระอา.....
แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรเด็ดขาด เพราะสงสาร เห็นว่าลูกกำพร้าแม่ แต่ก็กลุ้มจนต้องหันหน้าเข้าหาวัด พึ่งบารมีเจ้าอาวาสวัดใกล้บ้าน เล่าปัญหาให้ท่านฟัง.....
เจ้าอาวาสฟังแล้ว ก็บอกแบบนี้ต้องหาพระดีๆให้คล้องคอซักองค์ จะได้ช่วยคุ้มครองให้แคล้วคลาด และใจเย็นลง เสี่ยนิยม ก็เห็นด้วย ถามหลวงพ่อแล้วจะให้ใช้พระอะไร ถึงจะทำให้ลูกผมใจเย็นได้.....
เจ้าอาวาสนิ่งคิดสักพักแล้วตอบว่า น่าจะลองให้ใช้ พระหลวงพ่อปาน นะโยม เขาว่าหยุดเรื่องร้ายๆได้ชะงัดนัก เสี่ยนิยม ซึ่งไม่ค่อยรู้เรื่องพระเครื่อง ก็ถามรายละเอียดเพื่อจะไปหาพระให้ลูกชาย.....
แต่ป่านนี้ ลูกชายก็ยังเกเร โมโหร้ายใจร้อน มีเรื่องเหมือนเดิม เพราะไปถามเซียนสำนักไหนก็หา หลวงพ่อปาน พิมพ์ไก่เบรค ที่เจ้าอาวาสแนะนำไม่ได้ เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง