เต็ง จัดเป็นพรรณไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลาง สูง 10-30 เมตร อยู่ในวงศ์ยางนา ชื่อท้องถิ่นเรียกขานเยอะแยะไปหมด ตั้งแต่ไม้แงะ (คนเมือง), เคาะเจื้อ (ละว้า เชียงใหม่), ล่าไน้ (กะเหรี่ยง), ตะเลซิเหมาะ (กะเหรี่ยงแดง), ประจั๊ด (บุรีรัมย์), ประเจิ๊ก (สุรินทร์), พะเจ๊ก (พระตะบอง)
มักขึ้นกระจายพันธุ์ในป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ พื้นดินลูกรัง และเขาหินทราย ความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางถึง 1,300 เมตร เนื้อไม้สีน้ำตาลแข็งแรงทนทาน ในอดีตจึงถูกนำไปทำหมอนรองรางรถไฟ ทำเสาคาน ที่ต้องรับน้ำหนักมากๆ และพื้นกระดานบ้าน เวลานั่งหรือนอนจะไม่ร้อน เย็นสบาย
ที่สำคัญยังเป็นดัชนีชี้วัดฐานะทางเศรษฐกิจของคนในชนบทสมัยก่อน บ้านไหนสร้างด้วย “ไม้เต็ง” เจ้าของบ้านมีฐานะ
ด้วยเหตุนี้ทำให้บ้านหรูหรา คอนโดใหม่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด เจ้าของมักนำต้นเต็งมาปลูกประดับบารมี นอกจากเพราะความเชื่อแล้ว ต้นเต็งยังมีเรือนยอดเป็นพุ่มกว้างทรงสวย เปลือกต้นด้านนอกเป็นสีน้ำตาลเทา แตกร่อง เห็นแล้วแปลกตาสวยงามมีเทกเจอร์
แถมดอกสีเหลืองยังมีกลิ่นหอมแรง ถึงฤดูกาลมีดอกไปยืนใต้โคนต้นจะได้กลิ่นหอมชื่นใจ
ใครที่กำลังคิดจะเอามาปลูกเพื่อเสริมบารมี หรืออะไรก็ตามแต่ ดร.พรเทพ เหมือนพงษ์ ภาควิชาวนวัฒนวิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ข้อคิด เต็งเป็นไม้อีกชนิดหนึ่งที่ไม่ควรนำมาปลูกในเมือง โดยเฉพาะในภาคกลาง หรือ กทม. เนื่องจากสภาพดิน เป็นดินเหนียวอุ้มน้ำ ปลูกแล้วถ้าไม่ตาย เลี้ยงก็ไม่โต
เพราะเต็งเป็นไม้ป่าดิบแล้ง เอามาปลูกในเมืองมีแต่สูญเงินเปล่า.