ราคาไข่ไก่ตกต่ำแน่นิ่งมาตั้งแต่ปลายปี 59 ราคาไข่คละหน้าฟาร์มอยู่ที่ฟองละ 2.30 บาท...วันนี้ราคาเริ่มขยับขึ้นมาอยู่ที่ฟองละ 2.50 บาท
นั่นเป็นผลมาจากความพยายามในการแก้ปัญหาของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่มอบหมายให้กรมปศุสัตว์เป็นโต้โผในการขับเคลื่อนมาตรการ
ราคาที่ขยับขึ้นแสดงให้เห็นปริมาณไข่ไก่ล้นตลาดเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะสมดุล ด้วยทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนทั้งรายใหญ่ รายกลาง และเกษตรกรผู้เลี้ยงรายย่อยให้ความร่วมมือช่วยกันอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะมาตรการระยะสั้นครั้งล่าสุดที่กรมปศุสัตว์ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการทุกภาคส่วน ในการปรับลดจำนวนแม่ไก่ไข่ยืนกรง 4,000,000 ตัว พร้อมดำเนินกิจกรรมลดพ่อแม่พันธุ์ (PS) ให้เหลือ 460,000 ตัว รวมถึงลดปู่ย่าพันธุ์ (GP) ให้เหลือ 3,800 ตัว และการรวบรวมไข่ไก่สดส่งไปจำหน่ายต่างประเทศแล้ว 138 ล้านฟอง
ล่าสุดกรมปศุสัตว์ยังได้เปิดตลาดสิงคโปร์เพิ่มอีกเดือนละ 47 ล้านฟอง จากเดิมที่ส่งออกไปฮ่องกงอยู่แล้ว
สร้างความพึงพอใจให้กับเกษตรกรเพราะส่งผลดีต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ทั้งประเทศ ที่แบกรับภาระขาดทุนอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน เกษตรกรเชื่อว่าต่อไปราคาจะดีขึ้นเรื่อยๆหากทุกภาคส่วนยังคงร่วมกันแก้ปัญหาเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม การขอความร่วมมือจากคนในวงการ ที่มีความหลากหลายทั้งระดับเกษตรกรรายย่อย รายกลาง กลุ่มทุนระดับกลาง รวมถึงกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย...บางรายใหญ่จริงรัฐขอความร่วมมืออะไรก็ทำให้
แต่บางรายเลี้ยงไก่ไข่ระดับ 200,000 ตัว ออกตัวเป็นแค่เกษตรกร เพื่อผลักภาระให้คนอื่นเสียสละแทน พอรัฐขอให้ปลดไก่แม่พันธุ์ยืนกรง เพื่อให้ช่วยกันแก้ปัญหาไข่ล้นตลาด กลับทำนิ่งเฉย กั๊กไก่ไว้ในเล้า หวังให้มีผลผลิตขายในจังหวะที่ทั้งวงการพากันลดการเลี้ยง
พฤติกรรมแบบนี้จะให้เรียก...อะไรดี.
สะ-เล-เต