คนเขียนมาบอกเล่าว่า รูปแบบการพนันปรับเปลี่ยนวิธีการจนเจ้าหน้าที่บ้านเมืองตามไม่ทัน หรือรู้เต็มอกแต่ไม่ดำเนินการใดๆ จึงไม่แปลกที่บ้านเมืองมีแต่ บ่อนและผีพนัน อาจเป็นเพราะคนไทยชอบได้เสียหรือเปล่าสุดจะคาดเดา มีบ่อกุ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในเนื้อที่ 1 ไร่ ในพื้นที่จังหวัดปริมณฑลติดกรุงเทพมหานคร เป็นบ่อสำหรับขังกุ้ง และให้นักกีฬาไปตกเช้ายันค่ำ ค่ำยันเช้า
งานการไม่ต้องทำ
ติดกันงอมแงม “ผีพนัน” ส่วนมากเป็นหนุ่มโรงงานที่เข้าไปมั่วสุม หลายครอบครัวสิ้นเนื้อประดาตัว เหตุเพราะที่บ่อตกกุ้งแห่งนี้ไม่ได้ตกกุ้งเพื่อความสนุกสนาน และเอากุ้งไปประกอบอาหารอย่างเดียว
แต่มีการพนันแอบแฝง ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา มีการแทงได้แทงเสียมีเงินหมุนเวียนวันละหลายแสนบาท
เมื่อนักตกตกได้และใส่ภาชนะหรือตะกร้าไว้ จะชั่ง การพนันก็เกิดขึ้น ที่นั่นมีสกอร์คล้ายบาคาร่าหรือไฮไลไฮเทค แต่แทงคู่แทงคี่เป็นสองทาง แปดขีดคือคู่ ห้าขีดคือคี่ แทงกันตั้งแต่หลักร้อยยันแสน โดยประกบเงินไว้ที่เจ้าของบ่อกุ้ง
แต่ก่อนจะเปิดหรือผลจะออก เจ้าของบ่อจะชักออก 10 เปอร์เซ็นต์เป็นค่าต๋งทุกครั้ง คือประกบ 1 หมื่นคิดง่ายๆ ถ้าชนะเก็บขึ้นหมื่นเก้าเป็นที่สำราญบานตะไทของผู้ประกอบการ “กาสิโนในบ่อกุ้ง” แต่หลายคนว่าต้องได้รับไฟเขียวจากเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ไม่งั้นคงทำไม่ได้และอยู่ยงคงกระพันมานานนับปี
บอกว่าเส้นแข็งโป๊ก
คนที่ร้องบอกว่า ตำรวจหนีไม่พ้นข้อครหาที่ได้รับผลพวงจากรายได้ของเจ้าของบ่อ เพราะชาวบ้านหรือนักพนันน้อยใหญ่ไม่เคยเห็นตำรวจเจ้าของพื้นที่มาปรากฏกายให้เห็นในช่วงหลายเดือน ได้ยินแต่คำคุยของผู้ประกอบการพนันว่าเส้นใหญ่ เส้นโต เอาอยู่ทุกสี กากี ขี้ม้า สามารถเรียกให้มาหมอบราบคาบแก้วได้ตลอดเวลา
...
ผลพวงจากการประกอบการธุรกิจบ่อกุ้งแห่งนี้มีมากมายหลายครอบครัว ฉิบหาย เกิดคดีถี่ยิบ ไม่ว่าลัก วิ่ง ชิง ปล้น นอกจากที่นั่นจะมีสิ่งที่ว่าทั้งหมด ยังกลายเป็นที่สังสรรค์และนัดพบแรงงานผิดกฎหมายพร้อมทั้ง “นายหน้า” ค้ามนุษย์มาพบปะและจัดส่งเข้าเมืองอุตสาหกรรมโรงงานในจังหวัดและปริมณฑล
การจัดการในสิ่งผิด วันนี้ยังไม่มี และไม่มีทีท่าว่าจะมี เพราะทุกหน่วยในจังหวัดหูหนวก ตาบอด หลายคน หลายครอบครัว อยากให้ผู้บริหารบ้านเมืองใช้มาตรการใดก็ได้พิฆาตบ่อกุ้งในคราบของกาสิโนเสียที
ถ้าทำได้ในเร็ววัน จะขอขอบคุณที่ให้ความสำคัญกับคนยากคนจน
เพราะวันนี้ลูกเต้าจะแทะข้างฝากินกันอยู่แล้ว.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th