ตำรวจแต่ละคนมีเส้นทางการเติบโตในสายงานของตัวเองต่างกันไป มันแสดงให้เห็นเมื่อเจอปัญหาเฉพาะหน้านี่แหละ?
ที่พูดถึงไม่ใช่ใครที่ไหน?
แต่คือ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่มานั่งกินโจ๊กด้วยท่าทางอารมณ์ดีที่ สน.หนองค้างพลู ตั้งแต่เช้า วันที่ชุดสืบสวนนครบาลจับกุม นายจิรายุส หรือแบงก์ สวนมิ อายุ 19 ปี โจรชิงทรัพย์รถขนเงินที่ห้างบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขาพุทธมณฑลสาย 3 ได้เงินสดไปถึง 7.2 ล้านบาท!
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคนร้ายระเบิดกระสุนข่มขู่ถึง 2 ครั้ง แล้วหลบหนีลอยนวลไปพร้อมเงินเป็นฟ่อน เป็นพฤติกรรมที่อุกอาจสะเทือนขวัญประชาชนเป็นอย่างมาก
คดีนี้ “บิ๊กแป๊ะ” ให้ความสนใจเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะเลือดนักสืบเก่าเริ่มพลุ่งพล่าน ถึงกับมาร่วมอำนวยการสืบสวนด้วยตัวเอง
ถ้าจับผู้ต้องหาไม่ได้ อาจมีคนคิดเลียนแบบเดินสายโจรเพิ่มขึ้นอีกเยอะ?
ให้สัมภาษณ์สื่อที่ไปติดตามทำข่าวเองเกือบตลอด โดยเฉพาะประเด็นสำคัญเช่น กล้องวงจรปิดตามเส้นทางหลบหนีของผู้ต้องหา ที่ ผบ.ตร.ตอบคำถามเองเลยว่า เสียเกือบทั้งหมด?!
ทำให้หลายคนเริ่มหมดหวัง แต่ในเวลาเดียวกัน มันทำให้ผู้ต้องหาตายใจ?
แต่พอถึงวันที่ 27 ก.พ. พนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู หอบหลักฐานไปขออำนาจศาลตลิ่งชันออกหมายจับผู้ต้องหา 2 คนคือ นายทักษ์ดนัย หรือกอล์ฟ เหนี่ยวรั้งใจ อายุ 27 ปีหัวโจก และนายจิรายุส หรือแบงก์ สวนมิ อายุ 19 ปี ลูกสมุนคนขี่ จยย.หน้าตาเฉย
ในสำนวนมีหลักฐานมีภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางการหลบหนีละเอียดยิบ ตั้งแต่ห้างเกิดเหตุไปซอยเพชรเกษม 81 ถนนเลียบคลองภาษีเจริญฝั่งใต้ ถนนบางบอน 4 จนถึงแยกซอยประสิทธิ์ 4/3 บ้านผู้ต้องหา
และยังสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนนี้เคยก่อเหตุฉกเงินสดกว่า 6 ล้านบาทจากรถขนเงินบริษัทเดียวกันสำเร็จมาแล้ว ที่ห้างเซ็นทรัล เวสต์เกต เมื่อวันที่ 7 พ.ย.60
...
กลยุทธ์ใช้สื่อหลอกล่อผู้ต้องหา มีนักสืบหลายคนในอดีตเคยใช้ ตัวผู้สื่อข่าวเองรู้ทั้งรู้ว่าถูกหลอก แต่มันก็เหมือนน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ช่วยๆกันไป...
ที่สำคัญที่สุดคือ การลากคอ “คนร้าย” มาลงโทษได้ ทำให้สังคมดีขึ้น?
สหบาท