เมื่อไหร่เรื่องแบบนี้จะจบเสียที?
ที่กำลังเขียนถึงคือเรื่องราวของ นายกมลฉัตร แสงอรุณ หรือ น้องเกล้า วัย 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนปทุมคงคา ที่ถูกนักเรียนชั้น ปวส.ปี 3 วัย 17 ปี วิทยาลัยเทคโนโลยีกรุงเทพ แทงเสียชีวิต
ผู้ที่ต้องได้รับความชื่นชมในเรื่องเลวร้ายนี้คือ นายสมพงษ์ โคมทอง โชเฟอร์รถเมล์ใช้ไหวพริบ ขับรถเข้าไปใน สน.ท่าเรือ ทำให้ตำรวจจับผู้ต้องหาพร้อมมีดของกลางโดยไม่ต้องออกแรง
แต่น่าเสียดายที่เหยื่อไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เพราะบาดแผลถูกแทงนับ 10 แผล!
งานนี้เนื่องจากมือมีดเป็นเยาวชน การสอบสวนต้องเชิญสหวิชาชีพมานั่งรับฟังเรื่องราวห่วยๆ เกี่ยวกับการใส่เครื่องแบบนักเรียนคนละสี?
ยิ่งเมื่อรู้ว่า ผู้ตายกำลังจะเรียนจบระดับมัธยมอีกไม่กี่วัน ก่อนเกิดเหตุที่แต่งเครื่องแบบในวันอาทิตย์เพราะเพิ่งไปสอบความถนัด เพื่อเอาคะแนนไปแข่งขันเพื่อเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย มันยิ่งสะท้อนใจ
อาทิตย์ก่อนนักเรียนเพิ่งฆ่ากันตาย หน่วยงานที่ต้องดูแลสถาบันการศึกษาเหล่านี้ ไม่รู้สึกรู้สาอะไร?
พอดี นายดำรงศักดิ์ เครือแก้ว อุปนายกสภาทนายความฝ่ายปฏิบัติการ ออกมาให้สัมภาษณ์ประเด็นความรับผิดชอบของพ่อแม่ผู้ปกครองและครูอาจารย์ของสถานศึกษาอย่างน่าสนใจว่า ความจริงมีกฎหมายบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ม.429 หลักการว่า...บุคคลใดแม้ไร้ความสามารถเพราะเหตุเป็นผู้เยาว์ หรือวิกลจริตยังต้องรับผิดในผลที่ตนทำละเมิด บิดามารดาหรือผู้อนุบาลของบุคคลเช่นว่านี้ ย่อมต้องรับผิดร่วมกับเขาด้วย เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าตนใช้ความระมัดระวังตามสมควรแก่หน้าที่
“นอกจากนี้ มาตรา 430 ยังระบุว่า ครูบาอาจารย์ นายจ้าง หรือบุคคลอื่นซึ่งรับดูแลบุคคลผู้ไร้ความสามารถอยู่เป็นนิตย์ก็ดี ชั่วคราวก็ดี จำต้องรับผิดร่วมกับผู้ไร้ความสามารถในการละเมิด หากพิสูจน์ได้ว่าบุคคลนั้นๆมิได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร”
...
ขอสนับสนุนให้พ่อแม่ผู้ปกครองของน้องเกล้ารีบไปรับคำปรึกษาจากสภาทนายความเลยครับ เพราะดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจปัญหาเด็กนักเรียนฆ่ากันอีกแล้ว?
ฟ้องอาญาไม่ได้ ฟ้องแพ่งให้เดือดร้อนกันซะบ้าง ฟ้องไปถึงหน่วยงานที่ดูแลสถานศึกษาเลย
ไม่งั้นก็นิ่งตีขิมทำเป็นทองไม่รู้ร้อน จนฆ่ากันตายบ่อยๆแบบนี้มันไหวหรือ?
สหบาท