มีคนสงสัยว่าเดี๋ยวนี้ตำรวจจับกุมอะไรที ต้องตั้งชื่อปฏิบัติการสวยหรู?
ถ้าจะพูดกันตรงๆ มันก็เป็นการตลาดแบบหนึ่ง ที่จะทำให้ลูกค้าคือประชาชนจำการปฏิบัติหน้าที่ครั้งนั้นๆ ได้ง่ายขึ้นว่ามันเกี่ยวกับเรื่องอะไร?
ตำรวจก็ต้องปรับตัวไปตามยุคสมัยนะครับ...
แต่โดยรวมแล้วทุกปฏิบัติการ ทุกยุทธการ หรือทุกคดีสำคัญหมด เพราะมันหมายถึงการเอาคนเลวแยกออกจากสุจริตชน เข้าไปนอนอยู่ในคุก
ที่ฮือฮาอยู่ในขณะนี้ คงหนีไม่พ้น “ยุทธการกวาดลานวัด” ของตำรวจกองปราบ ที่ลงทุนลงแรงสืบสวนสอบสวนหาตัวกันมาพักใหญ่
วันแรกตามลากคอเหล่าโจรที่มีหมายจับ หนีคดีไปซุกผ้าเหลืองเป็นเกราะกำบัง แถมยังมีคนเข้าไปกราบไหว้ เอาข้าวเอาน้ำไปให้กินได้ถึง 18 คน ทำเอา พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. “เจ้าพ่อกองปราบ” ยิ้มแก้มแทบปริ
ใน 18 โล้นที่มีหมายจับ แยกประเภทความผิด 4 กลุ่ม กลุ่ม 1 คดีความผิดเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศ 4 คน กลุ่ม 2 คดีเกี่ยวกับทรัพย์ 9 คน กลุ่ม 3 คดีความผิดพิเศษ 1 คน อันนี้เป็นความผิดหนีทหาร และกลุ่ม 4 คดีความผิดที่รัฐเป็นผู้เสียหาย 4 คน กลุ่มนี้เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติด
วันต่อมายังไปสึก พระครูสังฆรักษ์ปพนสรรค์ กนตธัมโม เจ้าอาวาสวัดรอเจริญ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี หรือ นายปพนสรรค์ เพ็ชร์พันธุ์ อายุ 40 ปี ที่หนีคดีมาบวชถึง 15 ปีจนได้ดิบได้ดีเป็นเจ้าอาวาส
อันนี้พระผู้ใหญ่มีหมายจับเยอะหน่อย 2 ใบ คือ หมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ 821/47 ลงวันที่ 24 พ.ย.2547 และหมายจับศาลจังหวัดสมุยที่ 93/48 ลงวันที่ 2 มิ.ย.2548 ข้อหาเดียวกัน ร่วมกันพยายามฆ่า มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง
พูดง่ายๆก็ไปไล่ยิงเค้าแหละ พอถูกจับสารภาพคดีที่ จ.นครศรีธรรมราช คดีเดียว?!
...
ความจริงโจรหนีคดีหนีไปบวชไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่ผ่านมาไม่ค่อยมีใครสนใจตามจับ...
แว่วมาว่าถึงตอนนี้ยังจับไม่หมดนะครับ ที่มีข้อมูลประวัติอยู่ในมือกองปราบเกือบ 30 หมาย ยังต้องตามล่ากันต่อ ไม่รู้ว่าจะมีพระผู้ใหญ่กว่าระดับเจ้าอาวาสหรือเปล่า?
สหบาท