เผือก...ร้อนๆจ้า มาอีกแล้ว?
กลืนไม่เข้าคายไม่ออกกันไป สำหรับกรณี นายฮาคีม อัล–อาไรบี อายุ 25 ปี อดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน สถานะเป็นผู้ลี้ภัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทยพร้อมภรรยา
แต่ดันมีหมายจับของตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) คดีอาญา 4 ข้อหาของประเทศบาห์เรน!
พอตำรวจ ตม.ไทยจับกุมเท่านั้นแหละ ถึงกับโป๊ะแตกพางานเข้าบ้านเข้าเมืองร้อนกันไปหมด เพราะเท่ากับไปรับเผือกร้อนจากปัญหาของคนอื่นมานั่งทับให้ร้อนตูดซะอย่างงั้น?
พอเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อัยการสำนักงานต่างประเทศยื่นคำร้องส่งตัวฮาคีมเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศบาห์เรน สถานทูตออสเตรเลีย องค์กรสิทธิทั่วสารทิศในโลก ไปจนถึงฟีฟ่า และนักฟุตบอล ออกมาประณามเหมือนไปฆ่าใครตาย
ลามไปถึงโลกโซเชียล ปล่อยกระแสแฮชแท็ก #SaveHakeem หรือ “ช่วยฮาคีม” ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ แถมผุดกระแสแฮชแท็ก #BoycottThailand ประท้วงทางการไทยด้วย
คราวนี้จะทำยังไง? ปล่อยไปง่ายๆตามคำเรียกร้อง กระบวนการยุติธรรมของเราก็เจ๊ง!
ถ้าไม่ปล่อยก็หาว่าไม่มีมนุษยธรรม เพราะฝ่ายนายฮาคีมกล่าวหาว่า การลงโทษของทางการบาห์เรนมีเงื่อนงำ มีแนวโน้มว่า จะโหดร้ายทารุณถึงชีวิต!
มันก็คิดได้ เมื่อเห็นการลงโทษอย่างโหดเหี้ยมของบางประเทศในโลกอาหรับที่หลุดออกมาตามโซเชียลมีเดีย
ขณะที่ทางการบาห์เรนยืนยันว่า โทษของนายฮาคีมคือจำคุก 10 ปีจากการก่อคดีอาญาเท่านั้น...
ชอบใจคำให้สัมภาษณ์ของ นายมาร์ค วอร์น็อค โฆษกเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ว่า รัฐบาลบาห์เรนทราบดีอยู่แล้วว่า นายฮาคีมอาศัยอยู่ที่ประเทศออสเตรเลียตั้งแต่ปี 2557 แต่ไม่เคยแสดงความพยายามหรือแจ้งรัฐบาลออสเตรเลียแม้แต่ครั้งเดียว
...
การกระทำของรัฐบาลบาห์เรนทำให้ประเทศไทยอยู่ในสถานะที่ลำบากมาก...
นักการทูตต่างประเทศยังรู้เลยว่า เรื่องแบบนี้มันทำให้ลำบากใจกันทุกฝ่ายโดยเฉพาะคนกลางอย่างเรา
วันหลังจะจับใครตามหมายจับตำรวจสากลที่ออกมาเป็นพันเป็นหมื่นหมาย ก็ตรวจสอบซะหน่อยว่า มันจะมีผลกระทบอะไรตามมากับประเทศชาติหรือเปล่า?
สหบาท