คดีที่ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. จับกุมตรวจยึดขบวนการสวมซากรถยนต์ พร้อมของกลางรถยนต์ต้องสงสัย 30 คัน ซากรถยนต์ 2 ซาก เครื่องยนต์ 18 เครื่อง ชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์ 291 ชั้น ตรวจยึดของกลางได้ที่ จ.กาฬสินธุ์ นครปฐม ระยอง ปทุมธานี สมุทรปราการ และอุบลราชธานี

คดีนี้เริ่มจากที่ สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งจากนายประเสริฐ ฤทธิ์ศรี เจ้าของรถยนต์ฟอร์ด เรนเจอร์ ผู้เสียหายแจ้งความว่า พี่ชายยืมรถไปใช้แล้วนำไปจำนองและได้หลุดจำนองไปแล้ว เหตุเกิด 17 ม.ค.2561 ต่อมาวันที่ 20 ก.ย. นายประเสริฐเห็นรถกระบะยี่ห้อเดียวกัน จำสติกเกอร์ที่ติดอยู่หน้ารถได้

เชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่หายไป

จอดอยู่กลางซอยรัชดา ซอย 36 แยก 9-1 ได้แจ้งความ สน.พหลโยธิน สอบถามผู้ครอบครองรถคือ นายหาญ พันธ์พรม ได้แสดงหลักฐานกรรมสิทธิ์รถถูกต้องตรงกับตัวรถ บอกว่าซื้อมาถูกต้องตามกฎหมาย

ตำรวจตรวจสอบพบว่า ภายในรถมีใบเสร็จส่งงวดรถของนายประเสริฐอยู่ในช่องเก็บของด้านหน้ารถ และนายประเสริฐมีกุญแจสำรองของรถ ทำให้ตำรวจเชื่อว่ารถคันนี้เป็นของนายประเสริฐ

ตำรวจกองปราบปรามขยายผลทำเป็นขบวนการใหญ่แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน เริ่มหาซากรถจากรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุและไม่ได้มีการแจ้งกรมขนส่งให้มีการหยุดการใช้รถ หารถที่ถูกโจรกรรมหนีไฟแนนซ์และหนีภาษีขบวนการสวมซากรถยนต์ และขบวนการนำเข้าสู่ตลาดในการขายส่ง

รถที่ “สวมซาก” เริ่มซื้อขายซากรถในราคา 1-2 แสนบาท นำมา ประกอบใหม่โดยไม่มีการจดทะเบียนที่ถูกต้อง ขายในราคา 5-6 แสนบาท ภายใน 1 เดือนประกอบได้ 5-6 คัน ได้กำไรหลายเท่าตัว ตำรวจได้ ออกหมายเรียก “นายหน้า” ที่นำรถสวมซากประกอบเสร็จไปขายพร้อมกับพวก 6 คน

เป็นอีกปัญหา “รถสวมซาก”

...

รูปแบบของกลุ่มนำเข้ารถนอก และแก๊งโจรกรรมรถที่นำมา “สวมซาก” ส่วนใหญ่เป็นรถที่ประสบอุบัติเหตุชนหนักพังทั้งคัน แต่มีกลุ่มขบวนการนี้นำรถที่ถูกลัก รถหนีไฟแนนซ์ หรือรถหรูนำเข้ามา “สวมซาก” หรือ “สวมทะเบียน” ใช้เป็นรถสภาพใหม่กว่าเดิมนำออกมาจำหน่ายในตลาดมืด และเต็นท์รถมือสอง

แต่ที่น่าสนใจ รถสวมซาก–รถนำเข้าหนีภาษี แม้จะถูกสวมทะเบียน ต้องนำรถตรวจสภาพที่ กรมการขนส่งทางบก จะอ้างไม่รู้รถมีอุบัติเหตุบางคันที่มีประกัน และรถนำเข้าขอจดทะเบียนได้ เป็นเรื่องที่ประชาชนคาใจเจ้าหน้าที่รัฐ หากเข้มงวดตรวจสอบสภาพรถและเอกสารอย่างครบถ้วน น่าจะเห็นพิรุธของขบวนการ “สวมซาก” ปัญหาเหล่านี้ไม่น่าเกิดขึ้นได้ คงไม่มีนายทุนหน้าไหนกล้ามาเสี่ยงซื้อขายรถ “สวมซาก” กันอีก

เพราะช่องทางที่เคยหากินถูกปิดตาย.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th