โดรนมีชีวิต

ผึ้งหึ่ง หรือบัมเบิลบี (Bumble bee) ผึ้งในสกุล Bombus มีลักษณะเด่นเป็นแถบตามตัวสีดำสลับเหลือง พบมากในแถบยุโรปและอเมริกา

ส่วนบ้านเราพบได้ทางภาคเหนือ ในพื้นที่สภาพอากาศค่อนข้างเย็น โดยเฉลี่ยตัวใหญ่กว่าผึ้งทั่วไปเท่าตัว มีขนทั่วตัว เวลาบินมาเป็นฝูงมักส่งเสียงหึ่ง จึงเป็นที่มาของชื่อ

แม้ผึ้งหึ่งมีบทบาทสำคัญในการผสมเกสร แต่ล่าสุดทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยวอชิงตัน (University of Washington) ได้ค้นพบหนทางที่จะทำให้ผึ้งชนิดนี้เป็นเหมือนโดรนตัวจิ๋ว ใช้เก็บข้อมูลด้านการเกษตร

เนื่องจากการทำงานของโดรนมีเวลาจำกัด จำเป็นต้องเอากลับลงมาชาร์จแบตเตอรี่อย่างต่ำ 30 นาที แล้วถึงจะบินขึ้นไปใหม่ได้ ที่สำคัญโดรนทำได้แต่บินรอบๆ ไม่สามารถบินไปใกล้พืชได้เท่าผึ้ง

การได้ข้อมูลด้านการเกษตรเชิงลึกจึงไม่ละเอียดนัก นำมาวิเคราะห์ในเชิงสถิติได้ยาก

ทีมวิจัยได้พัฒนาแพลตฟอร์ม หรือระบบปฏิบัติการ ที่เป็นโปรแกรม สำหรับการตรวจจับ การคำนวณ และอุปกรณ์สื่อสารไร้สายขนาดจิ๋ว น้ำหนักเพียง 102 มก. ขนาด 6.1×6.4 มม. ติดบนหลังผึ้ง ให้พลังงานโดยแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ใช้งานได้ยาวนาน 7 ชม. สามารถชาร์จไฟจากอุปกรณ์ไร้สายได้ทันที ไม่ต้องหยุดพักเหมือนโดรน อันจะมีประโยชน์ต่อการทำฟาร์มอัจฉริยะในอนาคต

เซ็นเซอร์สามารถตรวจวัดความชื้นในวัตถุ ในบรรยากาศ ความเข้มของแสง ครอบคลุมทุกที่ที่ผึ้งบินไป ทำให้ได้ค่าต่างๆ ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด สามารถช่วยในการให้น้ำที่แม่นยำ และตรวจสอบได้ว่าสภาพภูมิอากาศนั้นเหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกพืชชนิดนั้นๆหรือไม่ หรือควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือนให้เหมาะสมกับพืชแต่ละอายุ แต่ละชนิดได้

ขณะเดียวกัน ได้เตรียมพัฒนาตัวเซ็นเซอร์ตรวจวัดสมองของผึ้ง เพื่อนำมาควบคุมคลื่นสมองของผึ้งและสัตว์ชนิดอื่นต่อไปในอนาคต.