ตลอด 1 ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติภายใต้การนำทีมของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีการเปลี่ยนแปลงเป็นที่ยอมรับในสายตาประชาชนมากยิ่งขึ้นสอบผ่านตามนโยบายรัฐบาล สามารถบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้ประชาชนได้เป็นอย่างดี
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่รู้จักช่วงเวลา มือประสานงาน ทำงานเข้ากับทุกฝ่ายได้เป็นอย่างดี นำพาองค์กรตำรวจไปในทิศทางเดียวกัน ไม่มีแตกแยก ใช้ความเป็นผู้นำอยู่ในใจของลูกน้องในหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตำรวจพอใจและพร้อมทำงานอย่างเต็ม ที่กับผู้นำที่พึ่งพาได้ ทำให้ภาพรวมตำรวจดูดี ประชาชนเชื่อมั่น แต่น่าแปลกใจตั้งแต่ปี 2558 ที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ได้ก้าวสู่ตำแหน่ง “พิทักษ์ 1” มีข่าวออกมาอยู่เรื่อย ผบ.ตร.ไม่น่าจะอยู่ครบ ไม่กี่ปีต้องเปลี่ยน เนื่องจากอายุราชการเกษียณปี 2563 ที่เหลืออีก 5 ปี
พล.ต.อ.จักรทิพย์ไม่สนคำวิจารณ์ ตั้งหน้า ตั้งตาทำงานเพื่อประชาชน พาองค์กรก้าวข้ามความขัดแย้ง ทำตามนโยบายรัฐบาลทุกเรื่องได้เป็นอย่างดี จนทำให้ปี 2562 ย่างเข้าปีที่ 4 จากที่เก้าอี้ ผบ.ตร.เคยถูกเขย่าสั่นคลอนช่วงปีแรกๆ ด้วยผลงาน ประสบการณ์ ทำงานถึงลูกถึงคน ใจถึงพึ่งได้ ทำให้เก้าอี้ ผบ.ตร.เหนียวแน่น
...
ยิ่งใกล้เข้าโค้งสุดท้ายการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศ หลายฝ่ายยังกลัวจะมีเหตุป่วนก่อความวุ่นวาย รัฐบาล คสช.จำเป็นต้องได้ ผบ.ตร. ที่มีผลงานและไว้วางใจมาช่วยงานในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ
เพราะความเชี่ยวชาญงานด้านความมั่นคงผ่านการควบคุมฝูงชนทั้งม็อบ “เสื้อเหลือง-เสื้อแดง” รวมทั้งคดีอาชญากรรมสำคัญหลายคดี ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์แสดงให้เห็นว่า “เอาอยู่” ทุกสถานการณ์
ตั้งแต่ปี 2561 พล.ต.อ.จักรทิพย์ควบคุมคดีอาชญากรรมได้เป็นอย่างดี หลายคดีสะเทือนขวัญเป็นที่สนใจของพี่น้องประชาชน ตำรวจคลี่คลายจับกุมผู้ต้องหาได้แทบทุกคดี แม้ว่าคนร้ายจะหลบหนีคดีไปที่ไหน ไม่เคยรอดฝีมือของทีมงาน ผบ.ตร. ที่มีนักสืบสวนมือปราบฝีมือดีอยู่ข้างตัว ร่วมช่วยกัน “ลงแขก” ปิดคดีสำคัญ
วันที่ 29 ต.ค. ปิดคดียิง 2 ศพ น.ส.ปวีณา หรือสปาย นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และ นายอนันตชัย หรือฟอส จริตรัมย์ อายุ 20 ปี มือปืนลั่นไกยิงเหยื่ออย่างโหดเหี้ยม เสียชีวิตคู่กันที่ลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี คนร้ายก่อเหตุโหดเหี้ยม มีอิทธิพล ไม่กลัวบาปบุญคุณโทษ
ผบ.ตร.ให้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. คุมคดีจับกุม นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ “เสี่ยอ้วน ภูเก็ต” ซึ่งมาติดพันน้องสปายเป็นคนบงการ แล้วหลบหนีข้ามฝั่งไปยังประเทศกัมพูชา พล.ต.อ.จักรทิพย์ยื่นคำขาดให้เสี่ยอ้วน เลือก 2 ทาง คือทางตาย หรือทางตัน ก่อนจะส่ง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อนร่วมรุ่น มือสืบชั้นดี ตามไปจับกุมถึงกัมพูชา ก่อนขยายผลตามรวบทีมฆ่ายกทีม
ทำให้ประชาชนเห็นว่าตำรวจไทยรักษากฎหมาย ไม่ปล่อยคนผิดและผู้มีอิทธิพลลอยนวล
อีกคดีที่โหดเหี้ยมไม่แพ้กันคดี น.ส.ธิติมา หรือเชอรี่ ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ ไฮโซสาวนักธุรกิจ ถูกคนร้ายใช้ไม้เบสบอลทุบศีรษะเสียชีวิตในโรงแรมแห่งหนึ่ง เหตุเกิดวันที่ 30 ก.ค. ตำรวจสืบทราบว่าคนร้ายคือ นายอัศยา หรือโก้ ชัยภา คนสนิทของผู้ตายได้หลบหนีไปประเทศกัมพูชา ก่อนชุด ศปอส.ตร. ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. จับกุมได้ในประเทศเพื่อนบ้าน
คดีใหญ่ที่มีผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยช่วงเดือน ต.ค. แหม่มสาวชาวอังกฤษอ้างว่าถูกมอมยาข่มขืนที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เป็นข่าวไปทั่วโลก พล.ต.อ.จักรทิพย์ส่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ไปควบคุมคดีด้วยตนเอง ก่อนจะพบว่าหลักฐานที่ตรวจพบขัดแย้งกับคำให้การของแหม่มสาว
ผบ.ตร.สั่งให้รวบรวมหลักฐานทางคดีอย่างละเอียด เน้นพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่งตำรวจไปสอบผู้เสียหายถึงประเทศอังกฤษ ตำรวจไทยทำงานได้อย่างรวดเร็ว สามารถชี้แจงนักท่องเที่ยวได้ จนสถานทูตอังกฤษพอใจการทำงานของตำรวจ
เป็นอีกคดีที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ใช้ประสบการณ์ ตัดสินใจทำงานแบบรวดเร็ว มืออาชีพ เรียกความเชื่อมั่นกลับคืนได้อย่างดีและรวดเร็ว
คดีอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ นำทีมตำรวจ ศปอส.ตร.บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามจับ 9 ครั้ง 7 ประเทศ จับกุมผู้ต้องหา 160 คน เป็นไต้หวัน 44 คน มาเลเซีย 2 คน กัมพูชา 5 คน และคนไทย 109 คน เยียวยา คืนเงินผู้เสียหาย 119 ราย เป็นเงินกว่า 24 ล้านบาท
...
รวมทั้งปราบปรามแก๊งชาวต่างชาติที่เข้ามาทำผิดในไทยนับครั้งไม่ถ้วน ช่วยจัดระเบียบงานด้านความมั่นคงให้รัฐบาลได้เป็นอย่างดี
แต่ที่เป็นผลงานอย่างมากคือ การปราบปรามเครือข่าย “เงินกู้นอกระบบ” ที่ช่วยแก้ปัญหาชาวบ้านส่วนใหญ่ทั่วประเทศที่ถูกหลอก เพราะความไม่รู้ข้อกฎหมาย ถูกหลอกเซ็นเอกสารเป็น “นิติกรรมอำพราง” มารู้ตัวอีกทีถูกยึดบ้าน ที่นา ไม่มีที่ทำมาหากิน เดือดร้อนหนัก รัฐบาลหลายๆยุคไม่เคยช่วยแก้ไขได้ ผบ.ตร.ส่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ลงพื้นที่ปราบปราม
คดีฉ้อโกงเงินสหกรณ์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย เป็นอีกหนึ่งคดีที่แสดงให้เห็นถึงภาวะผู้นำของ ผบ.ตร.ไม่ทอดทิ้งความเดือดร้อนลูกน้องตำรวจ เร่งรัดผลสืบสวนจับกุมและเยียวยาตำรวจชั้นผู้น้อยที่ถูกโกงเงินไปกว่า 196 ราย มูลค่ากว่า 230 ล้านบาท “นายโกงลูกน้อง” เป็นสิ่งที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์รับไม่ได้ ส่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ลงพื้นที่ทำคดี เป็นอีกคดีที่ได้ใจลูกน้องตำรวจ
ส่วนที่ได้รับการชื่นชมอย่างมาก ผบ.ตร.นำทีม ตชด.สำรวจเส้นทางเข้าช่วยเหลือ 13 หมูป่าที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ลูกน้อง บุกป่าฝ่าดงขึ้นเขา ตากฝน กินนอนอยู่กับผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ของลูกน้องตำรวจ
...
คือภาพรวมบางส่วนของภารกิจของ ผบ.ตร. ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2561 เข้าถึงความต้องการของประชาชนและรัฐบาลได้เป็นอย่างดี และในปีที่ 4 ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เน้นให้ ผบช. ผบก.และ ผกก.เข้าถึงพี่น้องประชาชน นำความเดือดร้อน เรื่องร้องเรียน ความผิดพลาดในอดีตมาเป็นบทเรียน ช่วยกันปรับปรุงทำให้ประชาชนรัก เข้าใจ และศรัทธาตำรวจให้มากยิ่งขึ้น
เป็นบทพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า ทำไม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. ถึงได้อยู่ในตำแหน่งยาวนานถึง 4 ปี จากที่มีข่าวเก้าอี้สั่นคลอนในช่วงปีแรก แต่ด้วยความตั้งใจทำงานแบบถึงลูกถึงคน รู้จักเลือกคนทำงาน รู้จักช่วงจังหวะเวลาในการทำงาน ขยับอะไรเป็นแต้มต่อเสมอ
ด้วยผลงานการันตีเก้าอี้ ผบ.ตร.ที่เหนียวแน่น ในการนำตำรวจกว่า 2 แสนขับเคลื่อนสนองงานตามนโยบายรัฐบาลและความต้องการอย่างแท้จริงของพี่น้องประชาชน ความที่ครบเครื่องของ ผบ.ตร.ในปี 2561 กับจังหวะการทำงานที่ถูกที่ถูกเวลา
เป็นอีกปีที่สมควรยกย่องให้เป็น “บุคคลแห่งปีของตำรวจ”.
ทีมข่าวอาชญากรรม