การถ่ายคลิปโป๊เปลือยชายหญิงสมัครใจร่วมประเวณี แต่หารู้ไม่ว่ามีคนแอบถ่ายแล้วนำไปแบล็กเมล์ หรือเพื่อประโยชน์อันมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือหวังผลทางการเมือง
ความจริงมีมานานแล้วในสังคมไทย...
ก่อนอื่นอยากแนะนำกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อน มาตรา 338 แห่งประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติว่า ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่น ให้ยอมหรือยอมให้ตนหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ในลักษณะทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับซึ่งการเปิดเผยนั้น จะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่ 3 เสียหาย จนผู้ถูกข่มขืนใจจำยอมเช่นว่านั้น ผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 2,000-20,000 บาท
องค์ประกอบมาตรานี้คือ สิ่งที่ขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยต้องเป็นความลับ ดูคำพิพากษาศาลฎีกานี้ครับ ฎีกาที่ 1869/2536 จำเลยข่มขืนใจผู้เสียหายให้ยอมให้เงิน ขู่เข็ญว่า ถ้าไม่ให้จะนำภาพวิดีโอเทปการร่วมประเวณี ระหว่างผู้เสียหาย (น่าจะเป็นพระ) กับจำเลย (สงสัยเป็นสีกา) ไปเผยแพร่ประจาน ผิดฐานพยายามรีดเอาทรัพย์
สหบาทวันนี้ขอเลียบๆเคียงๆข้อเท็จจริงในอดีตที่คล้ายกับเหตุการณ์คลิปฉาวที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อเร็วๆนี้ โดยไม่มีเจตนาแทรกแซงการสืบสวนสอบสวน
การแฉคลิป แม้การกระทำบางกรณีไม่มีการขู่เข็ญเอาทรัพย์สินกัน แต่เป็นเรื่องไม่สมควร หากผู้เปิดเผยมีเจตนาเผยแพร่คลิปเพื่อกดดัน หรือตัดทางเจริญทางการเมือง หรือเพื่อประโยชน์ของตน อาจเข้าข่ายเป็นความผิดต่อเสรีภาพตามมาตรา 309
ที่วางหลักว่า ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง ทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจ โดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจจำยอมเช่นว่านั้น เป็นความผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท
...
ส่วนคำว่า “ประทุษร้าย” มีความหมายกว้าง เมื่อ 2 ปีก่อนมีอีกฎีกาหนึ่ง เป็นเรื่องฝ่ายชาย (นายแพทย์) แอบตั้งกล้องใต้โต๊ะทำงานในโรงพยาบาล แอบถ่ายใต้กระโปรงฝ่ายหญิง (พยาบาล) ที่มาพบ เป็นภาพเห็นต้นขาและช่วงล่างของผู้เสียหาย ทำให้อับอาย เป็นการประทุษร้ายและก่อความเดือดร้อนรำคาญ เป็นการคุกคามทางเพศด้วย
นี่ยังไม่นับความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ที่ผู้ส่งคลิป ผู้แชร์คลิป กดไลค์ กดเอามัน มีความผิดกันถ้วนหน้า
แต่เหนือกฎหมายคือ กฎแห่งกรรม ท่องจำให้ดี.
"สหบาท"