ตำราไวยากรณ์บาลี แยกคำศัพท์ เป็นปุงลิงค์ เพศชาย อิตถีลิงค์ เพศหญิง นปุงสกลิงค์ ไม่ใช่เพศหญิง–ชาย และเมื่อลิงค์ กลายเป็น “ลึงค์” ความหมายเดิม คือเพศ เจาะจงเป็น “อวัยวะเพศชาย”
ศิวลึงค์ในศาสนาฮินดู ไศวนิกายเป็นสัญลักษณ์ขององค์พระศิวะ ไม้แกะสลักเป็นรูป “ลึงค์” เป็นของขลังอย่างหนึ่งของพระไทย... เรียกกันว่าปลัดขิก
ที่ดังๆซื้อหากันในราคาแพง ปลัดขิกหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
เมื่อราวๆสามสี่สิบปีที่แล้ว อาจารย์ซ่วน ทำปลัดขิกดุ้นใหญ่ ตั้งไว้ในวัดท่าลาดเหนือ ฉะเชิงเทรา แจกปลัดขิกดุ้นเล็กให้ชาวบ้าน มีนักการเมือง ข้าราชการใหญ่ไปเป็นลูกศิษย์อาจารย์ซ่วน เจอข้อหาทำเดรัจฉานวิชา
ผมเคยไปสัมภาษณ์อาจารย์ซ่วน ถึงวัดท่าลาดเหนือ ยังสงสัยอยู่ตอนนั้น “ปลัดขิก” มากับพระในพุทธศาสนาตั้งแต่เมื่อไร
อ่าน “ศิลปวัฒนธรรม” ฉบับ พ.ย.2561 เรื่องสงครามแย่งปราสาท ในตำนานชาวญัฮกุร (เนียะกุร) และข้อสันนิษฐานการสลายตัวของรัฐทวารวดี ของ ผศ.พิพัฒน์ กระแจะจันทร์ ผมเจอคำตอบ
มีความเป็นไปได้ รัฐทวารวดีสลายตัวจากปัญหาสงครามกับอาณาจักรกัมพูชา
นักประวัติศาสตร์โบราณคดีหลายคนมั่นใจ หลังพบจารึกโอสเม็ช ศิลาจารึกหลักหนึ่ง พบที่เสียมเรียบ เมื่อ ค.ศ.1994
จารึกหลักนี้ทำขึ้น พ.ศ.1557 สมัยพระเจ้าสูรยวรมันที่ 1 (พ.ศ.1545-1593) ผู้อุปถัมภ์การทำจารึก ชื่อ “พระกัมสเตงอัญศรีลักษมีปติวรมัน” แม่ทัพคนสนิทของพระเจ้าสูรยวรมัน
แม่ทัพคนนี้ได้รับพระราชบัญชายกทัพมายึดเมืองลวปุระ (ลพบุรี) เมื่อ พ.ศ.1554
จารึกบรรทัดที่ 24 ว่า...ทหารฝ่ายยุทธการได้ปราบพวกชาวรามัญด้วยการใช้กำลังทหาร และความชาญฉลาดด้านยุทธวิธี
...
ด้วยความชั่วร้ายแห่งกลียุค ลวปุระได้กลายเป็นป่า ความงดงามของเมืองได้มลายไป ความรุ่งเรืองของเมืองได้ถูกทำลาย อุดมไปด้วยสัตว์ป่า เช่น เสือ ดูเลวร้ายราวกับพื้นที่เผาศพในป่าช้า
จารึกต่อไปว่า...กษัตริย์ทรงบัญชาให้ศรีลักษมีปติวรมัน ฟื้นฟูเมือง จนกลับมาสมบูรณ์ และเจริญรุ่งเรืองดังเก่า
“คำกลียุค” ผู้รู้ตีความว่า เกิดจากการที่กัมพูชา สั่งเก็บภาษีชาวรามัญเพิ่มสิบเท่า
และเกิดจากคำสั่งให้สถาปนา ศิวลึงค์ทองคำขึ้นยังพื้นโลก ถอดถอนพระพุทธรูปออก พร้อมทั้งกัลปนาสิ่งของและข้าทาส
การรีดภาษีชาวรามัญเจ้าของแผ่นดินลพบุรี รวมกับสั่งยกพระพุทธรูปสัญลักษณ์พระพุทธศาสนาของชาวพุทธออก แล้วให้ ตั้งศิวลึงค์ทองคำแทน มีผลให้ชาวรามัญส่วนหนึ่งทนอยู่
แต่บางส่วนไม่ทน อพยพหนีไปอยู่บนถิ่นที่เรียกว่าภูเขา คนกลุ่มนี้มีชื่อญัฮกุร หรือเนียะกุร แปลว่าคนบนเขา
สันนิษฐานว่า ถิ่นที่อยู่นี้ยังอยู่ที่ภูเขาอำเภอเทพสถิตย์ จังหวัดเพชรบูรณ์ ปัจจุบัน
ผมอ่านเรื่องนี้ แล้วจินตนาการต่อ พระในพุทธศาสนาที่ไม่หนี ยอมอยู่กับนายใหม่ ปั้นศิวลึงค์บูชา แทนพระพุทธรูป เพื่อความอยู่รอดปลอดภัยของตัว จึงพอเข้าใจความอยู่รอด ของอาจารย์ซ่วน วัดท่าลาดเหนือ
ผมเคยเมินหน้าปลัดขิก วันนี้ก็จะยอมไหว้ ถ้าเป็นศิวลึงค์ทองคำ ราคาดีก็ยิ่งจะยอมบูชา
ศิวลึงค์ เข้ามาในพุทธศาสนา กลายเป็นปลัดขิก เพราะอำนาจการเมือง อำนาจที่เข้าไปที่ไหน เปลี่ยนได้ ไม่ว่าความเชื่อ ความรัก และความชัง
ขึ้นชื่อว่าการเมือง ไม่ว่าในสมัยลพบุรี หรือสมัยนี้ ก็ไม่แตกต่างกัน.
กิเลน ประลองเชิง