หลังทำนาปีปลูกอะไรดี พื้นที่น้ำน้อยค่อนข้างแล้ง ภาครัฐแนะให้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รายได้อย่างดีไร่ละไม่ถึงหลักหมื่น...แต่พื้นที่พอมีน้ำ เกษตรกรเมืองกล้วยไข่ กำแพงเพชร ชวนปลูกมะละกอ โดยเฉพาะลงมือปลูกในช่วง พ.ย.-ธ.ค. พื้นที่ 10 ไร่ สามารถทำเงินได้มากถึง 1-2 ล้านบาท

ณฐพล นิยมจันทร์ เกษตรกร บ.จิตมาส ต.วังหามแห อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ให้เหตุผล เพราะลงปลูกในช่วง พ.ย.-ธ.ค. มะละกอจะเริ่มออกดอก ก.พ.-มี.ค. อากาศยังไม่ร้อนมากนัก โอกาสมะละกอติดดอกและผลสูง และจะได้ผลผลิตออกมาทันในช่วง ส.ค.-ต.ค. เป็นช่วงที่มะละกอมีราคาแพง ขายได้ กก.ละ 30-40 บาท

สำหรับเคล็ดลับในการปลูกให้ได้ผล...มะละกอชอบพื้นที่ความชื้นค่อนข้างสูง ไม่ร้อนมาก ฉะนั้นจึงเหมาะกับการปลูกแทบทุกภาค ยกเว้นภาคอีสานอาจได้ผลผลิตค่อนข้างน้อยกว่าภาคอื่น เพราะอากาศชื้นน้อย แต่แนะนำให้ติดตั้งสปริงเกอร์ในแปลง ให้มีระดับความสูงในตำแหน่งมะละกอออกดอก หรือสูงประมาณ 1.5-2 เมตร จะช่วยให้ติดผลได้มากขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง

เทคนิคการทำให้มะละกอติดดก ณฐพล แนะนำก่อนปลูกให้ใส่ปุ๋ยขี้ไก่รองพื้นเล็กน้อย ต่อมาใส่โคนต้น ต้นละ 2 กก. ทุก 2 เดือน จากนั้น ให้ปุ๋ยสูตร 15-0-0 ทุก 15 วัน เมื่อมะละกอออกดอก (2-3 เดือน หลังปลูก) ให้เปลี่ยนมาใส่ปุ๋ยบำรุงดอกผล สูตร 8-24-24 สลับกับ 14-7-35 หรือ 15-5-20 ทุก 15 วัน (ต้นละ 20 กรัม)

...

ส่วนให้ปุ๋ยทางใบ ฉีดพ่นธาตุอาหารเสริมสาหร่ายทะเล หรือแคลเซียมโบรอน ต่อเนื่องทุก 10 วัน ตั้งแต่ ออกดอก จะช่วยเสริมความแข็งแรงของเกสร ทำให้ระยะเวลาบานของดอกตัวเมียยาวนานขึ้น เพิ่มโอกาสผสมเกสรให้มากขึ้น ผลก็จะเพิ่มขึ้น

ณฐพล บอกอีกว่า การลงทุนจะอยู่ที่ไร่ละ 1.5 แสนบาท แต่ใน 1 รอบการปลูก สามารถเก็บผลผลิตได้กว่า 50 ครั้ง เก็บแค่ไม่ถึง 10 ครั้ง จะคืนทุนได้หมดแล้ว ที่เหลืออีกกว่า 40 ครั้งเป็นกำไรล้วนๆ อย่างที่นี่ปลูก 10 ไร่ สามารถทำเงินได้มากถึง 1-2 ล้านบาท

เกษตรกรสนใจเทคนิคการปลูกมะละกอให้ประสบความสำเร็จสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 08-9783-5887.