การแก้ปัญหาท้องถิ่นด้วยการกระจายอำนาจนั้นเห็นพูดจากันมายาวนานหลายสิบปี มีกฎหมายหลายฉบับ แต่แล้วปัญหาทั้งหลายทั้งปวงไม่เคยแก้ไข ได้ทะลุปรุโปร่งเสียที
มาตอนนี้ก็เหมือนเคย พอเสียงปี่กลองการเลือกตั้งเริ่มดังขึ้น รัฐบาลก็ดูเหมือนว่าจะใจกว้างเตรียมออกพระราชบัญญัติฉบับใหม่ว่าด้วยการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นกันอีกแล้ว เรียกว่า
ร่างพระราชบัญญัติกระจายหน้าที่และอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ...ซึ่ง คณะรัฐมนตรี เพิ่งมีมติอนุมัติและรับทราบในคราวการประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ลองมาดูกันหน่อยว่ามีอะไรแปลกใหม่กันบ้างหรือเปล่า เท่าที่แถลงกันมาเขาบอกว่าสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ประกอบด้วย
1.กำหนดบทบาทของคณะกรรมการการกระจายหน้าที่และอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) เพิ่มมากขึ้น ให้เป็นองค์กรบริหารและผลักดันการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การกำหนดยุทธศาสตร์การกระจายหน้าที่และอำนาจฯ และนโยบายการกระจายหน้าที่และอำนาจฯ รวมถึงเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรีในเรื่องต่างๆ อาทิ มาตรการแนวทางการเสริมสร้างประสิทธิภาพของการบูรณาการภารกิจฯ การจัดสรรเงินงบประมาณที่จัดสรรเพิ่มขึ้นให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ตลอดจนมีหน้าที่ประสานกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อผลักดันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดบริการสาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพเกิดประโยชน์แก่ประชาชนอย่างสูงสุด
2.กำหนดให้มีสำนักงานคณะกรรมการการกระจายหน้าที่และอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นส่วนราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ยกระดับจากกองภายใต้ สปน.) โดยเป็นสำนักงานเลขานุการของ ก.ก.ถ. และรับผิดชอบในงานเลขานุการและกิจการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการกระจายหน้าที่และอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
...
3.กำหนดหลักการการกระจายหน้าที่และอำนาจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ การถ่ายโอนภารกิจ การจัดสรรภาษีอากร และการถ่ายโอนและพัฒนาบุคลากร รวมถึงการกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจจัดตั้งองค์การมหาชนท้องถิ่นหรือรัฐวิสาหกิจท้องถิ่นได้ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการจัดบริการสาธารณะหรือขยายบริการสาธารณะอันเป็นประโยชน์ของประชาชน โดยได้รับความเห็นชอบจากสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ ก.ก.ถ. และให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
4.กำหนดหลักการในความร่วมมือระหว่างหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเอกชน เพื่อดำเนินการจัดทำบริการสาธารณะหรือกิจกรรมสาธารณะให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นได้
5.กำหนดกลไกและขั้นตอนการกระจายหน้าที่และอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยกำหนดให้มียุทธศาสตร์การกระจายหน้าที่และอำนาจ และการถ่ายโอนภารกิจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
6.กำหนดให้มีเป้าหมายการจัดบริการสาธารณะและการติดตามประเมินผลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเป็นหลักประกันการจัดทำบริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานเดิมที่หน่วยงานของรัฐเคยให้บริการแก่ประชาชน และกำหนดให้มีการประเมินผลความพึงพอใจของประชาชนและให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
7.กำหนดให้มีการจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้น โดยมีเป้าหมายรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นสอดคล้องกับภารกิจที่เพิ่มขึ้น และการพิจารณารายได้ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้จากการจัดเก็บเองมากขึ้น
8.กำหนดบทเฉพาะกาลให้ภาษีมูลค่าเพิ่มตามประมวลรัษฎากร รวมทั้งการจัดสรรสัดส่วนภาษีและอากรที่จัดสรรให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้ได้ต่อไป จนกว่ากฎหมายว่าด้วยรายได้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและกฎหมายที่เกี่ยวข้องมีผลใช้บังคับ
ที่แน่ๆก็คือจะมีกรมน้อยๆขึ้นมาอีกกรมหนึ่งในสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อดูงานท้องถิ่น.
“ซี.12”