หัวอกผู้เป็นพ่อรู้สึกผิดหวังไม่อาจทวงความเป็นธรรมให้แก่ลูกชาย
เป็นเวลานานกว่า 2 ปี ที่ครอบครัว “ทัฬหสุนทร” รอคอยความยุติธรรม ก่อนนำไปสู่เรื่องราวโศกนาฏกรรมของ นายศุภชัย ทัฬหสุนทร อายุ 52 ปี ที่ขึ้นไปกระโดดจากชั้น 8 อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ร่วงลงมาเสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 ก.ค.2561
ภายหลังศาลชั้นต้นพิพากษา “ยกฟ้อง” นายณัฐพงศ์ เงินคีรี อายุ 19 ปี จำเลยคดีฆ่า นายธนิต ทัฬหสุนทร อายุ 23 ปี ลูกชายที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย
เนื่องจากประจักษ์พยานที่อ้างว่า เห็นเหตุการณ์และให้การไว้ในชั้นสอบสวน ไม่อาจมาเบิกความในชั้นศาลได้ เพราะอยู่ระหว่างรักษาอาการป่วยทางจิตที่โรงพยาบาล ขณะที่พยานหลักฐานอื่นยังมีน้ำหนักไม่เพียงพอที่จะฟังลงโทษจำเลยได้
นายพีรวัชญ์ ปุตตะจินารักษ์ อายุ 24 ปี ประจักษ์พยานปากสำคัญไม่มาขึ้นศาล อ้างมีอาการทางจิต ต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา มี ใบรับรองแพทย์ มายืนยัน
เป็นพยานปากเดียวที่หายไป ทำให้สำนวนคดีอ่อนยวบ
ครั้งนั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งให้ บช.น.รื้อสำนวนของ สน.ดินแดง กลับมาทบทวน “ช่องโหว่” ของพยานหลักฐานที่ไม่มีน้ำหนักน่าเชื่อถือเพียงพอจะพิสูจน์ได้ว่า จำเลยกระทำความผิดจริงตามที่เสนอสั่งฟ้องต่อพนักงานอัยการ
แต่ไม่มีการติดตามอาการป่วยทางจิตของ นายพีรวัชญ์ ปุตตะจินารักษ์ อายุ 24 ปี พยานปากเอก ที่มีส่วนมัดการกระทำผิดของจำเลยในขณะนั้น
ผ่านเพียง 2 เดือนเศษ ปรากฏว่า นายพีรวัชญ์ ปุตตะจินารักษ์ ถูกตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ จับกุมพร้อม นายทรงเดช ปุตตะจินารักษ์ อายุ 22 ปี น้องชาย และ นายเฉลิมเกียรติ หุ่นน้อย อายุ 22 ปี ร่วมกันปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกาย นายนรพร พรหมบุตร อายุ 39 ปี วิศวกรยานยนต์บริษัทแห่งหนึ่ง
...
เหตุเกิดกลางดึกวันที่ 13 ต.ค.2561 บริเวณหน้าร้านถ่ายภาพสปายดิจิตอล ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. นำไปขยายผลยังพบประวัติก่อเหตุทำนองเดียวกันในท้องที่ สน.ปทุมวันอีก 7 คดี
บ่งชี้ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังของพยานในต้นธารกระบวนการยุติธรรม.
สหบาท